หลังจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยและยาวนานในแต่ละวัน การกลับบ้านมาทำความสะอาดผิวพรรณ มาลบเครื่องสำอางอาจทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกล้า รู้สึกเหมือนเป็นงานที่ต้องทำอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งที่ร่างกายโหยหาการนอนหลับพักผ่อน ดังนั้นสาวๆ หลายคนจึงเสาะหาวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้การลบเครื่องสำอางนั้นสะดวกขึ้น วิธีหนึ่งที่แสนง่ายคือ การเลือกใช้แผ่นลบเครื่องสำอางที่สะดวก รวดเร็ว และทำให้รู้สึกว่าผิวหน้าสะอาด ปราศจากความสกปรก และเครื่องสำอาง แต่การใช้แผ่นลบเครื่องสำอางโดยไม่ทำความสะอาดผิวหน้าจากคราบสกปรกต่างๆ และเครื่องสำอางที่หมักหมมมาทั้งวันนอกจากจะสร้างผลเสียให้กับผิวหน้าแล้ว ยังก่อให้เกิดลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย วันนี้ Central Inspirer จึงอยากชวนสาวๆ มาดูกันว่าทำไมคุณควรคิดใหม่ ทำใหม่ และควรเลือกใช้แผ่นลบเครื่องสำอาง มาดูกันเลยค่ะ
ทำไมสาวๆ ควรเลิกใช้แผ่นลบเครื่องสำอาง
1. แผ่นลบเครื่องสำอางสร้างขยะให้กับสิ่งแวดล้อม
Dr. Diana Felton แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารพิษแห่ง The Hawaii Department of Health สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “หนึ่งในปัญหาใหญ่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมคือ การทิ้งขยะ แผ่นลบเครื่องสำอางที่ใช้แล้วถือเป็นอีกหนึ่งขยะที่สร้างปัญหาให้กับโลก จากสถิติพบว่า ในเวลา 1 ปี แผ่นลบเครื่องสำอางที่ใช้แล้ว รวมถึงผ้าอ้อมเด็กและผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ใช้แล้วประมาณ 20 พันล้านปอนด์ถูกนำมาทิ้งเป็นขยะ ซึ่งแผ่นลบเครื่องสำอางและผ้าอ้อมเหล่านี้เป็นขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ทำให้เกิดปริมาณขยะล้นในเกือบทุกรัฐในสหรัฐอเมริกา”
Dr. Felton เสริมว่า “ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนเลือกที่จะทำให้ท่อน้ำ หรือชักโครกอุดตันด้วยการทิ้งขยะประเภทนี้ลงไปในท่อน้ำ หรือชักโครก สร้างปัญหาการอุดตัน และท่อแตกให้กับบ้านตัวเอง และชุมชนของตัวเอง จนกลายมามีคำเรียกแผ่นลบเครื่องสำอาง และผ้าอ้อมที่ใช้แล้วทิ้งชิ้นใหญ่ๆ ว่า “Fatbergs” ที่นอกจากจะก่อให้เกิดการอุดตันของท่อแล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
2. แผ่นลบเครื่องสำอางมีส่วนผสมของพลาสติกและสารเคมี
นอกจากสร้างผลเสียให้กับสิ่งแวดล้อมแล้ว ส่วนผสมที่เป็นพลาสติกจากแผ่นลบเครื่องสำอางอาจหลุดรอดลงแม่น้ำ ทะเล หรือมหาสมุทร ทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษทางสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย Fabian Lliguin ผู้ร่วมก่อตั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบรนด์ Rahua กล่าวว่า “แผ่นลบเครื่องสำอางที่สาวๆ นิยมใช้กันมักผลิตจากไฟเบอร์พลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย เช่น โพลีเอสเตอร์ พลาสติกโพลีโพรพิลีน หรือเรยอนซึ่งสร้างการปนเปื้อนให้กับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะหากถูกทิ้งเข้าสู่ระบบน้ำประปาในแหล่งชุมชน”
แผ่นลบเครื่องสำอางเหล่านี้ยังมีสารเคมี เช่น พาราเบน พาทาเลต และไตรโครซาน และส่วนผสมอื่นๆ เช่นกลิ่นหอมที่อายทำให้เกิดการระคายเคืองผิว นอกจากจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพแล้ว สารต่างๆและส่วนผสมเหล่านี้จะสะสมอยู่ในระบบน้ำประปาและที่ทิ้งขยะซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในที่สุด
เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าแผ่นลบเครื่องสำอางที่สาวๆ คิดว่าสามารถมอบความสะดวกในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือสิ่งสกปรกบนผิวหน้านั้นสร้างผลเสียให้กับผิวพรรณ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างไร ทนเหนื่อยกันสักนิด แล้วเลือกใช้วิธีทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณนั้นสะอาดเอี่ยมอ่องได้อย่างแท้จริง แถมไม่มีความสกปรกที่คุณมองไม่เห็นตกค้างอยู่บนผิวหน้าอีกด้วย
อยากล้างเครื่องสำอาง คราบสกปรก และคราบเหงื่อไคลที่ติดอยู่บนใบหน้าให้หลุดออกไป แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพียงแค่นี้ผิวหน้าของคุณก็จะสะอาดล้ำในทุกค่ำคืนหลังจากกลับจากการไปทำงาน วันนี้ Central Inspirer จึงขอแนะนำผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอาง คลีนเซอร์ และโทนเนอร์คุณภาพที่ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติให้คุณเลือกใช้แทนการใช้แผ่นลบเครื่องสำอาง มาดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ
ผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอางน่าใช้
SHU UEMURA คลีนซิ่งออยล์สูตร Ultime8 Sublime Beauty Cleansing Oil 450 มล. | |
BOBBI BROWN Soothing Cleansing Oil 200 มล. ราคา 2,250 บาท | BIODERMA Sensibio H20 500 มล. ราคา 1 |
แนะนำคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว
AUGUSTINUS BADER The Cleansing Balm ราคา 3,000 บาท | CERAVE ชุดโฟมมิ่ง คลีนเซอร์ 437 มล. ราคา |
CLARINS Hydrating Gentle Foaming Cleanser 125 มล. ราคา |
โทนเนอร์เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึก
SK-II Facial Treatment Clear Lotion 230 มล. ราคา | KIEHL’S Calendula Toner 250 มล. ราคา |
FRESH โทนเนอร์ Rose Deep Hydration 400 มล. ราคา 2,600 บาท |
ไม่ว่าจะดึกดื่น หรือเหนื่อยล้าจากการกลับจากทำงาน หรือไปปาร์ตี้กับเพื่อนแค่ไหน สาวๆ ต้องอดทนไว้ ต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี เลิกใช้เพียงแผ่นลบเครื่องสำอาง อย่างน้อยก็เพื่อผิวพรรณที่สะอาด กระจ่างใสของคุณ รวมทั้งเป็นมิตรต่อโลก และรักษ์สิ่งแวดล้อม เพลาๆ การใช้เพียงแผ่นลบเครื่องสำอางนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: realsimple.com
Picture credit: istockphoto.com