บอกลา! “เซลลูไลท์” สลายผิวเปลือกส้ม เผยผิวเนียนกระชับ

เซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม สภาพผิวที่ไม่มีสาวไหนปรารถนา ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวเป็นรูปร่างแบบไหน จะเจ้าเนื้อ หรือผอมบาง เซลลูไลท์เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ลองสังเกตผิวบริเวณต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง ลองบิดผิวบริเวณนั้นๆ ดู หากคุณเห็นความตะปุ่มตะป่ำภายใต้ผิวหนัง สภาพผิวที่เหมือนผิวดวงจันทร์ นั่นแหล่ะเซลลูไลท์ 

แล้วไอ้เจ้าเซลลูไลท์มันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร เรามีวิธีป้องกัน หรือบอกลาเซลลูไลท์ได้อย่างไรบ้าง วันนี้ Central Inspirer มีคำตอบมาฝาก

เซลลูไลท์คืออะไร

เซลลูไลท์ (Cellulite) คือ เซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวสูงขึ้นมาสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง มีลักษณะขรุขระเป็นตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับผิวเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด มักพบได้บ่อยบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน และหน้าท้อง บางคนมีเซลลูไลท์ขึ้นเป็นลอนๆ เพราะมีไขมันสะสมเป็นก้อนผสมอยู่กับของเสียและน้ำปะปนอยู่ในถุงนั้น ซึ่งในแต่ละก้อนไขมันจะมีเปลือกเหนียวๆ ห่อหุ้มอยู่ จึงทำให้มองจากภายนอกแล้วเห็นเป็นลอนของไขมัน 

เซลลูไลท์แตกต่างจากไขมันธรรมดาในร่างกายที่เราสามารถกำจัดออกไปได้ง่ายๆ ด้วยการออกกำลังกาย แต่เซลลูไลท์ไม่สามารถกำจัดออกได้ง่ายเช่นนั้น ต้องอาศัยทั้งการนวดผิวหนังร่วมกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะสามารถกำจัดเซลลูไลท์ออกไปอย่างได้ผล

เซลลูไลท์เกิดขึ้นได้อย่างไร

เซลลูไลท์เกิดจากการที่เซลล์ไขมันในชั้น Subcutaneous ซึ่งอยู่ใต้หนังแท้มีอาการบวม ประกอบกับการที่มีพังผืดเข้ามาหุ้มทำให้เกิดการรวมตัวของเซลล์ไขมันเป็นกลุ่มก้อนและเห็นเป็นตะปุ่มตะป่ำจากภายนอกได้ชัด สาเหตุของไขมันบวมเกิดขึ้นจากการสะสมไขมันไว้ในเซลล์เป็นปริมาณมาก ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันจะรั่วทำให้น้ำซึมผ่านเข้าออกจากเซลล์ไขมันทำให้เกิดการคั่งของน้ำ อีกทั้งยังสามารถเกิดได้จากการที่ร่างกายระบายน้ำเหลืองได้ไม่ดี  เซลล์ของไขมันจะจับกันเป็นกลุ่มโดยมีคอลลาเจนล้อมรอบซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะดึงรั้งผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเห็นเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน

ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญทำให้เกิดเซลลูไลท์ ดังนั้นจึงพบเซลลูไลท์ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและพบมากในคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือหลังคลอดบุตร

เซลลูไลท์อาจเกิดได้ทางกรรมพันธุ์ หรือ Genetic factors รวมทั้งการรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมัน น้ำตาล และอาหารจำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจนทำให้เกิดการสะสมไขมันภายในเซลล์ไขมันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเซลลูไลท์

การสูบบุหรี่ก็ส่งผลให้เกิดเซลลูไลท์ได้ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่พอ และเกิดพังผืดเกิดภาวะเซลลูไลท์

การขาดออกกำลังกายและดื่มน้ำน้อย จะทำให้ระบบไหลเวียนของน้ำเหลืองไม่ดี ทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้เช่นเดียวกับความเครียด หากมีภาวะความเครียดสูง จะก่อให้เกิดการหลั่งสารกลุ่ม Catecholamines ซึ่งเป็นสารกลุ่มฮอร์โมนที่มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์

วิธีบอกลาและป้องกันการเกิดเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม

1. ควบคุมอาหาร รับประทานผักและผลไม้สดมากๆ

หากคุณอยากบอกลาเซลลูไลท์ คุณต้องลดการรับประทานของหวาน ของทอด ของมันทุกชนิด ลดแป้ง ไอศกรีม ขนมนมเนยที่มีไขมันสูง ลดอาหารเค็มจัด และอาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเรามีไขมันสะสมมากขึ้น 

หันมาควบคุมอาหารในแต่ละวัน เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ มีใยอาหารสูง ควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ วันละ 8-10 แก้วสำหรับผู้หญิง และ 10-12 แก้วสำหรับผู้ชาย เพราะน้ำจะช่วยขับพิษที่ติดตามเนื้อเยื่อในรูปของไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย และเป็นการขจัดเซลลูไลท์ออกไปจากร่างกาย รวมทั้งควรลดหรือเลิกการดื่มน้ำอัดลม กาแฟ แอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล เนื่องจากมีสารอนุมูลอิสระมาก ทำลายเซลล์ และสะสมกลายเป็นพิษ ร่างกายขับออกได้ยาก

หากคุณเป็นคนชอบรับประทานโปรตีน ชอบรับประทานเนื้อสัตว์ ควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา อกไก่ เนื้อสัตว์ที่จะไม่ไปเพิ่มปริมาณไขมันในร่างกาย พยายามรับประทานอาหารทอด หรือปิ้งย่างให้น้อย เลือกรับประทานอาหารแบบต้มแทน คลีนฟู้ดก็เป็นอีกช้อยส์ที่ช่วยลดไขมัน และเซลลูไลท์ได้

นักธรรมชาติบำบัดเชื่อว่าการรับประทานผักและผลไม้สดจะช่วยลดเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้นได้ และช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของเซลลูไลท์ได้มากถึง 75% อย่างไรก็ตามควรเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานจัดเพราะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลสะสมให้กับร่างกาย ทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้อยู่ดี เลือกรับประทานผักและผลไม้ที่ไม่ได้มีรสชาติหวานจนเกินไปอุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามิน สารพฤกษเคมี สารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยกระตุ้นตับให้ขับพิษได้ดี ช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดื่มน้ำสะอาดเพื่อผิวสดใส

PHILIPS WATER เครื่องกรองน้ําดื่ม RO

ราคา 15,290 บาท พิเศษ 13,900 บาท (SAVE 9%)

BRITA ถังกรองน้ำ BRITA Flow 

ราคา 2,690 บาท 

BARRIER เหยือกรองน้ำ SMART 

ราคา 1,690 บาท 

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบในร่างกายเกิดความสมดุลอีกด้วย การออกกำลังกายที่ดีควรจะเป็นการเดินเร็วๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก หรือการเต้นแอโรบิก ควรออกกำลังกายทุกวันวันละ 1-2 ชั่วโมงขึ้นไป หากคุณไม่มีเวลามากนัก ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายออกไป เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้น 

เครื่องออกกำลังกายน่าใช้เพื่อช่วยลดเซลลูไลท์

REEBOK ลู่วิ่งไฟฟ้า JET-300

ราคา 75,900 บาท 

GRANDLITE จักรยานปั่น OMA-S20-V1

ราคา 24,900 บาท พิเศษ 19,900 บาท (SAVE 20%)

FBT สเต็ปแอโรบิค LP 8244 รหัส 67339

ราคา 6,800 บาท พิเศษ 6,188 บาท (SAVE 9%)

VIVA เชือกกระโดดระบบลูกปืนเดี่ยว ขนาด 8 มม.

ราคา 480 บาท 

3. เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง

โดยปกติคนเราไม่ควรอยู่ในท่าใดหนึ่งนานจนเกินไป โดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิศ ควรหันมาเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์ในระหว่างการทำงาน คุณควรลุกเดินไปมาบ้างเพื่อกระตุ้นการกำจัดของเสียระหว่างวัน ไม่ควรนั่งนิ่งๆ หรือนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่ลุกเดินไปไหน เพราะจะทำให้เซลลูไลท์เกิดขึ้นได้ง่าย

4. ไม่ควรนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานๆ 

สาวๆ ชอบนั่งไขว่ห้าง นั่งแล้วดูดี ดูเซ็กซี่ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าเซลลูไลท์ชอบท่านั่งไขว่ห้างมากที่สุด การนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานๆ จะทำให้เซลลูไลท์หรือไขมันรวมตัวกันในบริเวณที่เนื้อกดทับกัน อีกทั้งยังทำให้เลือดในร่างกายของเราไหลเวียนได้ไม่สะดวก แถมยังทำให้ขาบวม ขาใหญ่ได้ ใหญ่ได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ

5. นวดน้ำมัน

ลองใช้น้ำมันสำหรับนวดมานวดผิว น้ำมันนวดช่วยให้ผิวลื่น นวดได้ง่ายและคล่องขึ้น อีกทั้งยังไม่รั้งผิวจนทำให้ผิวเหี่ยวย่น การนวดช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนดีขึ้นและกระตุ้นประสิทธิภาพของระบบการกำจัดของเสียของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย การนวดช่วยกระตุ้นระบบต่อมน้ำเหลืองที่ช่วยย่อยไขมัน เน้นการนวดวนๆ เป็นวงกลม และบีบเฉพาะส่วนในจุดที่การไหลเวียนไม่ดี เช่น หัวเข่าด้านใน และต้นขา เพื่อเป็นการช่วยละลายไขมันและกำจัดพิษคั่งค้าง ใช้อุ้งมือนวดคลึงเป็นวงกลมโดยใช้สันมือโอบรอบบริเวณที่มีเซลลูไลท์ และทำซ้ำกันๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียในร่างกายได้อีกด้วย

น้ำมันวดกลิ่นหอมน่าใช้

SATIRA สถิรา แอนตี้เซลลูไลท์ มาสสาจ ออยล์ ขนาด 250 มล.

ราคา 1,500  บาท 

PANPURI Balance Skin Purity Massage & Body Oil ขนาด 200 มล.

ราคา 1,250 บาท 

BATH&BLOOM ไฮบิสคัส มาสสาจ ออยด์ ขนาด 260 มล.

ราคา 890 บาท 

6. สครับผิวในขณะอาบน้ำทุกวัน

ในระหว่างการอาบน้ำ ควรขัดถูผิวด้วยฟองน้ำ หรือใยบวบ ผสานกับการใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิว หลังการอาบน้ำใช้โลชั่นนวดสลายลดเซลลูไลท์นำมานวดวนๆ ไปมาประมาณ 3-5 นาที จะช่วยทำให้ระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีและเป็นการช่วยขจัดเซลล์ไขมัน เพราะความร้อนจากการขัดถูจะทำให้ไขมันบางส่วนละลายได้ หากต้องการขัดทั้งตัวควรเริ่มต้นจากการขัดบริเวณเท้าไล่ขึ้นมาสู่ช่วงบนร่างกายไปจนถึงต้นคอ บ่า ไหล่ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ นอกจากนี้เวลาอาบน้ำ ใช้น้ำร้อนฉีดสลับกับน้ำเย็นบริเวณที่มีเซลลูไลท์เพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อและเร่งการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ให้ดีขึ้น

ครีมนวดสลายเซลลูไลท์และผลิตภัณฑ์ขัดผิว

AESOP สครับผิวกาย Geranium Leaf Body Scrub ขนาด 180 มล.

ราคา 1,200 บาท

PHUTAWAN สครับขัดผิวสมุนไพรไทย ขนาด 300 กรัม

ราคา 220 บาท 

CLARINS ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย Huile “Anti-Eau” Contour Body Treatment Oil ขนาด 100 มล.

ราคา 2,850 บาท พิเศษ 2,565 บาท (SAVE 10%)

LUXES แอนตี้ เซลลูไลท์ แอนด์ คอนทัวร์ เพอร์เฟคชั่น ขนาด 200 มล.

ราคา 5,400 บาท

COCORO HANAKO คูล แอนตี้ เซลลูไลท์ โซลูชั่น

ราคา 1,300 บาท

 MANICARE แปรงขัด+นวดหลัง รุ่น M67500

ราคา 795 บาท พิเศษ 675 บาท (SAVE 15%)

KALLA SPONGE ฟองน้ำธรรมชาติ Kalla Sponge ชนิด Honeycomb สีน้ำตาล (Natural) ไซส์ L

ราคา 690 บาท 

MUJI ฟองน้ำอาบน้ำ รุ่น 5752868468

ราคา 120 บาท 

7. การรักษาโดยใช้เทคโนโลยีและแสงเลเซอร์

ปัจจุบันนี้มีเครื่องมือและเลเซอร์หลายชนิดที่ให้รักษาเซลลูไลท์ได้ดี และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น กลุ่มคลื่นความถี่วิทยุ (Unipolar และ Bipolar radiofrequency) ร่วมกับแสงหรือแสงเลเซอร์และการนวด ซึ่งในปัจจุบันเคลื่อนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงได้แก่ Velashape2 เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Velasmooth และ Bell-shaped ทำให้ได้ผลในการรักษามากขึ้นผลข้างเคียงลดลงและขณะทำการรักษารู้สึกสบายไม่เจ็บเพียงแต่ต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลการรักษาสูงสุด

8. Liposuction และ Laser-Assisted Liposuction 

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นอีกทางเลือกในการรักษาภาวะเซลลูไลท์ โดยส่วนมากการดูดไขมันมักได้ผลดีกับการลดสัดส่วน การลดไขมันเฉพาะจุด แต่ได้ผลน้อยกับการรักษาเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม ต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นการใช้แสงเลเซอร์หรือคลื่นความถี่วิทยุ หรือคลื่นอัลตร้าซาวด์ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถลดไขมันร่วมกับกระชับผิวและลดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดี และใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำการรักษาน้อยลงมาก

ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด บอกตรงๆ ว่าการกำจัดเซลลูไลท์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณตั้งใจ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนจาก 8 วิธีที่ Central Inspirer แนะนำให้ คุณสามารถลดเลือนเซลลูไลท์ไปได้อย่างแน่นอน บอกลาเซลลูไลท์ ขอให้ทุกคนกลับมามีผิวเรียบเนียนตึงกระชับนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก:  medthai.com / theworldmedicalcenter.com

Picture credit: pinterest.com