เคล็ดลับเปลี่ยนฝันร้ายให้กลายเป็นดี

ใครเคยนอนหลับแล้วฝันร้ายจนต้องสะดุ้งตื่น ฝันว่าตกจากที่สูง ดำดิ่งลึกสู่ความมืดมิด ฝันว่าวิ่งหนีจากโจรร้าย หรือสิ่งที่เป็นอันตราย ฝันถึงผีมากระตุกขา หรือฝันว่าฟันหักจนเกิดเป็นความกังวลว่าจะมีข่าวร้ายเกิดขึ้นกับตัวเรา หรือคนใกล้ชิด

อันที่จริงฝันร้าย หรือ Nightmare นั้นทางการแพทย์ หรือวิทยาศาสตร์ถือเป็นภาวะจากการนอนหลับฝันที่ทำให้รู้สึกวิตกกังวล ระทึก หรือหวาดกลัวอย่างรุนแรง มักเกิดขึ้นเมื่อใกล้ตื่น ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เกิดความเครียดมักฝันร้าย หากคุณฝันร้ายเป็นประจำจนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ ภาวะดังกล่าวอาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักนอนหลับและฝันร้าย วันนี้ Central Inspirer จะมาชวนพูดคุยว่าทำไมคนเราถึงฝันร้าย ฝันร้ายนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ฝันร้ายเรื่องต่างๆ บงบอกถึงอะไร และหากคุณฝันร้าย เราจะแก้ไขให้เรารู้สึกอุ่นใจได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

ทำไมคนเราถึงฝันร้าย

ฝันร้ายเป็นภาวะของการนอนหลับที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยมีปัจจัยที่ทำให้หลับฝันร้ายหลายประการ ดังนี้

1. รับประทานอาหารมากก่อนเข้านอน 

ผู้ที่รับประทานอาหารหรือขนมก่อนเข้านอนมากๆ อาจทำให้หลับฝันร้ายได้ เนื่องจากการรับประทานอาหารก่อนนอนส่งผลให้การทำงานของระบบเมตาบอลิซึมเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งสัญญาณให้สมองตื่นตัวมากกว่าเดิมจึงทำให้เกิดฝันร้ายได้ง่ายๆ 

2. เจ็บป่วย

หากคุณมีอาการเจ็บป่วยถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ หรือมีไข้สูงอาจทำให้คุณฝันร้ายได้ เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการ กอปรกับอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายทำให้คุณสามารถฝันร้ายได้

3. ผลข้างเคียงจากการใช้ยา 

ยารักษาโรคบางชนิดสามารถส่งผลให้เกิดฝันร้ายได้ เนื่องจากส่วนประกอบของตัวยามีปฏิกิริยากับสารเคมีในสมอง เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า ยาระงับอาการปวดที่มีฤทธิ์เสพติด หรือยาลดความดันโลหิต เป็นต้น

4. พักผ่อนน้อย

การนอนหลับไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝันร้ายได้ง่ายๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงาน หรือการวิจัยวว่าการนอนน้อยจะทำให้เกิดการฝันร้ายจนส่งผลต่อปัญหาสุขภาพหรือไม่

5. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป 

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มมึนเมาในปริมาณมากเกินไปเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะฝันร้ายได้

6. ปัญหาสุขภาพจิต 

ความเครียดหรือความวิตกกังวลนับเป็นปัจจัยที่ทำให้ฝันร้ายได้สูง นอกจากนี้ปัญหาสุขภาพจิตหลายอย่างทำให้ฝันร้ายได้ เช่น โรคซึมเศร้า ทั้งนี้ ผู้ที่ประสบภาวะเครียดหลังประสบเหตุเลวร้าย หรือประสบเรื่องสะเทือนขวัญ (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD) มักฝันร้ายถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยจะฝันร้ายซ้ำๆ และเป็นอาการป่วยเรื้อรัง

7. ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการนอน 

อาการฝันร้ายเรื้อรังอาจเป็นผลจากโรคที่เกี่ยวกับการนอน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข ทั้งนี้ ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวหรือญาติพี่น้องประสบภาวะฝันร้ายอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดการฝันร้ายเรื้อรังได้

ฝันร้ายมีอะไรบ้างและแปลว่าอะไร

คนเรามักฝันร้ายในหลายรูปแบบ บางเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยแต่สามารถเก็บมาฝันได้ เรามาดูกันว่าเรามักฝันร้ายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง และบ่งบอกว่าอะไร

1. ฝันว่าตกจากที่สูง หรือจมน้ำ

ความฝันเกี่ยวกับการตกจากที่สูงหรือกำลังจมลงไปใต้น้ำ ความฝันลักษณะนี้มักเกี่ยวข้องกับความกังวลในหน้าที่ความรับผิดชอบ กลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมมันได้ หากฝันแบบนี้บ่อยๆ เมื่ออยู่ในความฝันลองแก้ไขสถานการณ์ดู เช่น หากฝันว่าจมน้ำก็พยายามว่ายน้ำ ฝันว่าตกจากที่สูงก็ใส่ร่มชูชีพ หากสามารถควบคุมและเข้าไปแก้ไขความฝันได้ มันจะส่งผลดีต่อความรู้สึกเมื่อตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน

2. ฝันว่าถูกไล่ล่าหรือถูกทำร้าย

นับว่าเป็นลักษณะของความฝันที่คนมักฝันถึงบ่อยที่สุด ฝันว่าถูกบางสิ่งบางอย่างไล่ตาม หรือถูกผู้อื่นทำร้าย ความฝันแบบนี้กระตุ้นให้มีการตอบสนองทางร่างกายให้วิ่งหนี หรือต่อสู้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาพื้นฐานของคนเราเมื่อต้องเผชิญกับอันตรายหรือความหวาดกลัว ฝันร้ายแบบนี้มักเกิดจากการความรู้สึกหวาดกลัว วิตกกังวลและปัญหาต่างๆ ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นสิ่งที่ไล่ล่าเรา 

3. ฝันว่าหลงทางหรือถูกขัง

ฝันว่าหลงทาง ถูกจับขัง หรือหลงเข้าไปในกับดัก ผู้ที่ฝันร้ายแบบนี้กำลังมีรู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกบีบบังคับ หรือกำลังหวาดกลัวว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหาทางออกได้ มีความสับสน แ]ะความกังวลอยู่ลึกๆ ควรหาวิธีจัดการกับปัญหาตัวเอง เพื่อไมให้ฝันรhkยทวีความรุนแรงขึ้น

4. ฝันว่าฟันหัก หรือทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บหรือความตาย

ไม่ต้องกังวลว่าหากคุณฝันว่าฟันหัก หรือตายแล้วกลัวว่าจะเกิดขึ้นจริง กังวลว่าจะสูญเสียคนรัก หรือคนใกล้ชิด ความฝันแบบนี้ไม่ได้แปลว่าคุณจะพบกับความสูญเสีย หรือความตายเสมอไป ฝันร้ายแบบนี้เป็นตัวแทนของความกังวลที่คุณรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ค่อยดีกำลังจะเกิดขึ้น ความกังวลว่าจะสูญเสียสิ่งสำคัญ หรือคนสำคัญของคุณไป ใครฝันแบบนี้ก็เพียงแค่อย่าอยู่ในความประมาท ดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตของตัวเอง และคนใกล้ชิดแค่นั้นก็สบายใจได้แล้ว

5. ฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ

ความฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ บ่งบอกถึงปัญหาที่ผู้ฝันกำลังเผชิญอยู่ในชีวิตจริง และแสดงถึงสภาวะทางจิตใจ ถูกรุมเร้าด้วยปัญหาต่างๆ และรู้สึกว่าตนเองกำลังพ่ายแพ้ต่อสถานการณ์นั้น ซากปรักหักพังเป็นตัวแทนของความรู้สึกที่คุณเหลืออยู่หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน

6. ฝันว่าบ้านหรือสิ่งของในบ้านสูญหาย หรือถูกทำลาย

นับว่าความฝันที่ถือว่าปกติธรรมดามากสำหรับทุกคน หากฝันว่าบ้านหรือสิ่งของในบ้านแตกหักเสียหาย เป็นไปได้ว่าผู้ฝันอาจกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาวะที่เลวร้าย เช่นเดียวกับความฝันว่าทรัพย์สินสูญหายหรือถูกขโมย สะท้อนถึงความรู้สึกภายในซึ่งอาจรู้สึกว่าได้สูญเสียอะไรบางอย่างไป เช่น ความรัก ความศรัทธา คุณค่าในตัวเอง หรือความมั่นใจ 

7. ฝันว่าเปลือยกายหรือแต่งกายแปลกๆ ในที่สาธารณะ

เป็นอีกหนึ่งฝันร้านที่ผู้คนมักฝันบ่อยๆ ว่าแก้ผ้าเปลือยกาย หรือแต่งกายแปลกๆ ในที่สาธารณะ ความฝันลักษณะนี้เกี่ยวข้องกับความเคารพเชื่อถือในตนเอง ภายใต้เสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่เราไม่อยากให้คนอื่นเห็น หรือสิ่งที่เราพยายามปกปิดเอาไว้ ผู้ที่กำลังมีความลับ หรือมีบางอย่างปิดบังผู้อื่นอยู่มักจะฝันร้ายแบบนี้ ถ้าคุณฝันว่าเปลือยกายในที่สาธารณะโดยไม่รู้สึกอายเท่าไหร่ แสดงว่าความลับของคุณไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้ารู้สึกอับอายเหลือเกินแสดงว่าคุณถึงขั้นหวาดกลัว หวาดระแวงว่าความลับนั้นจะถูกเปิดเผยออกมา

วิธีแก้ฝันร้ายให้กลายเป็นดีทำอย่างไร

สำหรับคนไทย พวกเราชาวพุทธ เมื่อเราฝันร้ายไม่ว่าจะฝันเรื่องอะไรก็ตาม มีอยู่ 3 วิธีที่สามารถช่วยให้ฝันร้ายกลายเป็นดี มาดูกันเลยค่ะ

1. บอกกล่าวให้ฝันร้ายไปกับน้ำ

โบราณสอนไว้ว่าหากเมื่อืนคุณนอนฝันร้าย เมื่อตื่นนอนขึ้นมา ให้รีบไปล้างหน้าและอาบน้ำ บอกกล่าวเล่าเรื่องความฝันของคุณกับน้ำ หรือพระแม่คงคา ให้เรื่องร้ายๆ ในฝันไหลไปกับสายน้ำ ให้ฝันร้ายของคุณกลายเป็นดี

2. สวดมนต์ปัดเป่าฝันร้าย

เพื่อเป็นการปัดเป่าฝันร้าย ให้คุณสวดมนต์เพื่อเราเกิดความสงบขึ้นในจิตใจ โดยเตรียมน้ำไว้ 1 ขัน จากนั้นท่องคำบูชาโดยเริ่มจากการท่องนะโม 3 จบ ตามด้วยบทสวด

• ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ
• ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ
• ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ

เมื่อท่องบทสวดเรียบร้อยแล้ว ให้เอาน้ำในขันมาล้างหน้า เพื่อไล่ฝันร้ายให้กลับกลายเป็นดี พร้อมทั้งทำให้จิตใจผ่องใส

3. เล่าความฝันให้เพื่อน หรือคนอื่นฟัง

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนโบราณเชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ดคือ ไม่ว่าจะเป็นฝันรา้ย หรือฝันดี ควรเล่าให้เพื่อน หรือคนสนิทฟัง โดยเมื่อเราเล่าความฝันจบ ให้คนที่เราเล่าความฝันให้ฟังพูดว่า “ฝันดีๆ ต่อแต่นี้ไปหมดทุกข์ หมดโศก มีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง” เราที่เป็นผู้ฝันต้องยกมือไหว้และตอบว่า “สาธุ สมพรปากเถิด” โดยคนโบราณเชื่อว่า หากเป็นฝันร้ายก็จะเปลี่ยนให้กลายเป็นฝันดี หรือถ้าเป็นฝันที่ดีอยู่แล้ว ก็จะดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ใครก็ตามที่มีอาการฝันร้ายบ่อยๆ คงพบคำตอบแล้วว่าการที่คุณฝันร้าย อาจเกิดจากอาการผิดปกติของร่างกาย หรือการปฏิบัติตัวของคุณเอง บ่อยครั้งที่เราฝันร้าย เรามักจะฝากน้ำให้เอาเรื่องร้ายๆ ออกไปจากตัวเรา และก็มักจะได้ผลดี ดังนั้นหากใครฝันร้าย อย่าได้กังวลใจไป ลองปฏิบัติตามคำแนะนำ รับรองว่าฝันร้ายของคุณจะกลับกลายเป็นดีค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: pobpad.com / mthai.com / sanook.com

Picture credit: pinterest.com