เมื่อฤดูฝนมาเยือน การใช้ชีวิตของผู้คนก็ดูจะลำบากลำบนมากยิ่งขึ้น ซักผ้า ตากผ้าก็ไม่แห้ง เดินทางก็แสนจะลำบาก ฝนตก รถติด เฉอะแฉะ ชุ่มฉ่ำไปทั่ว ฝนเหมือนรู้ใจ ชอบเลือกตกในชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งในช่วงเช้าที่เราต้องเร่งรีบออกไปทำงาน และในยามค่ำที่เรารู้สึกอ่อนเพลียอยากรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เหมือนเป็นสัจจธรรมแห่งชีวิต จะเอาความแน่นอนในหน้าฝนไม่ได้เลยทีเดียว
ความแน่นอนอย่างหนึ่งที่มาพร้อมหน้าฝนคือ โรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะ โรคไข้เลือดออก ที่มีพาหะมาจากยุงลาย โรคไข้เลือดออกเป็นโรคหน้าฝนอันดับต้นๆ ที่น่าเป้นกังวลที่สุด
โรคไข้เลือดออกคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด
โรคไข้เลือดออก หรือ Dengue Fever เป็นโรคติดเชื้อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยเชื้อไวรัสเดงกี่ หรือเชื้อไวรัสไข้เลือดออกจะเข้าสู่ร่างกายผ่านการถูกยุงลายกัด ซึ่งยุงลายแพร่พันธุ์ได้ดีในสภาพอากาศที่ชื้น ประเทศไทยจึงมีข่าวการระบาดของโรคไข้เลือดออกทุกปีโดยเฉพาะในหน้าฝน
เชื้อไวรัสเดงกีมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 DENV-4 ซึ่งมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค เมื่อยุงลายดูดเลือดผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสเดงกี เชื้อจะเข้าไปฝังตัวภายในกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง โดยมีระยะฟักตัวประมาณ 8-12 วัน เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสไปกัดคนอื่นๆ ต่อ เชื้อไวรัสก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่โดนกัด ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกตามมา
อาการของไข้เลือดออก
อาการเบื้องต้นของไข้เลือดออกจะมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้สูง ตัวร้อน ปวดหัว ปวดเมื่อย รู้สึกอ่อนเพลีย แต่ผู้ป่วยไข้เลือดออกจะมีอาการแสดงที่รุนแรงกว่า คือ
- มีไข้สูงมาก และอยู่นานประมาณ 3-7 วัน
- ปวดหัวมาก
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั่วลำตัว
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดท้อง ตับโตและกดเจ็บ
- หน้าแดง และอาจพบผื่นแดงหรือจ้ำเลือดใต้ผิวหนังทั่วตัว
- อาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- อาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น มีเลือดออกตามเนื้อเยื่อในร่างกายในรายที่ร่างกายอ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันต่ำ
- บางรายอาจมีการรั่วของน้ำออกจากเส้นเลือด ทำให้มีภาวะเลือดข้นและเกิดอาการช็อกได้
การรักษาไข้เลือดออก
การรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกนั้น ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะโรค เป็นเพียงการรักษาประคับประคองตามอาการอย่างใกล้ชิด การวินิจฉัยโรคไข้เลือดออกอาศัยอาการของผู้ป่วยร่วมกับการตรวจนับเม็ดเลือด และการตรวจเพื่อยืนยันว่าเป็นไข้เลือดออก โดยทั่วไป ผู้ป่วยไข้เลือดออกจะมีไข้สูงมากและปวดหัวรุนแรง เบื้องต้นจึงใช้ยาระงับอาการ คือ Acetaminophen หรือพาราเซตามอล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดและลดไข้ ในกรณีที่ผู้ป่วยอาเจียนและอ่อนเพลียจากไข้ แพทย์จะให้น้ำเกลือเพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกาย นอกจากนี้เป็นการรักษาตามอาการที่ป่วยและเฝ้าระวังการเกิดอาการแทรกซ้อน
การดูแลรักษาเบื้องต้นผู้ป่วยไข้เลือดออกส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถให้การดูแลรักษาที่บ้านได้ แต่ควรนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ทุก 1-2 วันเพื่อติดตามอาการ การดูแลผู้ป่วยประกอบด้วย การลดไข้ด้วยการเช็ดตัวและกินยาลดไข้ รับประทานอาหารอ่อน และดื่มน้ำให้เพียงพอ ผู้ป่วยที่มีอาการโดยทั่วไปแย่ลงโดยเฉพาะเมื่อไข้ลดลง เช่น ซึม มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาเร็ว กระสับกระส่าย ปวดท้องรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยทันที
ภาวะแทรกซ้อนของไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกอาจพัฒนาความรุนแรงไปสู่ภาวะโรค Dengue Hemorrhagic Fever ซึ่งจะทำให้มีไข้สูงขึ้น อาการปวดหัวรุนแรงขึ้น อาจมีภาวะเลือดออกตามเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน และ Dengue Shock Syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่เสียเลือดมาก พลาสมารั่ว ความดันโลหิตต่ำ ซึ่งนำไปสู่อาการช๊อกที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
การป้องกันไข้เลือดออก
การป้องกันไข้เลือดออกทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. กำจัดยุงลายและแหล่งเพาะพันธุ์
การลดจำนวนยุงลายภายในบริเวณบ้านทำได้หลายวิธี ทั้งการกำจัดตัวยุงลาย และการจำกัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย การกำจัดยุงลายทำได้โดยการใช้สเปรย์กำจัดยุงหรือสารเคมีกำจัดแมลง การเลี้ยงปลาขนาดเล็กในบ่อหรืออ่างน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำหรือตัวอ่อนของยุงลาย การใช้ทรายอะเบท (Abate) ผงซักฟอก เกลือแกง หรือน้ำส้มสายชูผสมในแจกันใส่น้ำ ชามสำหรับรองขาตู้กับข้าว และจานรองต้นไม้ก็สามารถช่วยฆ่าและลดจำนวนลูกน้ำได้
การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายทำได้ด้วยการกำจัดแหล่งน้ำขังทั้งภายในและนอกตัวบ้าน เช่น แอ่งน้ำ และขยะที่มีน้ำขัง หมั่นเทน้ำและคว่ำภาชนะที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อป้องกันน้ำขัง ปิดฝาภาชนะรองน้ำเพราะยุงลายแพร่พันธุ์ด้วยการวางไข่ในน้ำ หากมีแอ่งน้ำหรือแหล่งน้ำขังอยู่เยอะก็อาจทำให้ยุงลายวางไข่และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงของการติดเชื้อไข้เลือดออกก็เพิ่มขึ้น
สเปรย์กำจัดยุง ปลอดภัย น่าใช้
BAYGON สเปรย์กำจัดยุงและแมลง รุ่น กลิ่นลาเวนเดอร์ ขนาด 600 มล.
ราคา 108 บาท
ARS สเปรย์ป้องกันและกำจัดยุง กลิ่นพิ้งค์บลอสซั่ม รุ่น วันพุชเอ็กซ์ตร้า ขนาด 35 มล.
ราคา 109 บาท
CHAINDRITE สเปรย์ป้องกันและกำจัดแมลงสาบยุงมด ไร้กลิ่น รุ่น สูตร 5 ขนาด 600 มล.
ราคา 110 บาท
THAIWATSADU ชิลด์ท้อกซ์ สเปรย์กำจัดยุง ชิลด์ท้อกซ์ รุ่น เพาเวอร์การ์ด 2 ขนาด 600 มล.
ราคา 99 บาท
RAID เครื่องกำจัดยุงไฟฟ้า ชนิดน้ำ รุ่น กลิ่นไพน์ ขนาด 30 คืน
ราคา 110 บาท พิเศษ 108 บาท (SAVE 2%)
2. กางมุ้งทุกครั้งก่อนนอน
มุ้งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะด้วยความถี่ของตาข่ายจะช่วยป้องกันการถูกยุงกัด โดยธรรมชาติของยุงลายมักออกหากินในเวลากลางวัน หากบ้านไหนมีทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุพักอาศัยอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน ควรมีมุ้งติดบ้านไว้
ปลอดภัยจากยุงลายด้วยมุ้ง และม่านกันยุง
CIT มุ้งกลมไนลอน
ราคา 750 บาท พิเศษ 628 บาท (SAVE 16%)
DS BABY มุ้งครอบกันยุง – สีฟ้า L
ราคา 1,430 บาท
KASSA HOME ม่านกันยุงแถบแม่เหล็ก Stripe รุ่น TW-01 ขนาด 90 x 210 ซม.
ราคา 300 บาท
3. วิธีป้องกันยุงแบบอื่นๆ
นอกจากวิธีในข้างต้น ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถทำเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดได้ เช่น
- ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท
- เปิดพัดลมระหว่างวันเพื่อป้องกันยุงบินตอม
- เปิดแอร์หรือเครื่องปรับอากาศในที่พักอาศัย
- สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเพื่อป้องกันยุงกัด
- ทาโลชั่นหรือครีมกันยุง แต่ควรระมัดระวังการใช้ในเด็กอ่อนเพราะผิวหนังของเด็กบอบบาง และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กันยุงใด ๆ กับเด็ก
- ติดตั้งมุ้งลวดประตูและหน้าต่างเพื่อป้องกันยุงเข้ามาภายในบ้าน
- มีเครื่องดักจับยุงไว้ใช้ที่บ้าน
แนะนำสเปรย์ และโลชั่นกันยุงน่าใช้
KINDEE สเปรย์กันยุง ออร์แกนิค กลิ่นลาเวนเดอร์ 60 มล.
ราคา 150 บาท
PUREEN โลชั่นกันยุงสูตรอ่อนโยนจากธรรมชาติ
ราคา 160 บาท พิเศษ 128 บาท (SAVE 20%)
BAYBEE สเปรย์กันยุงออร์แกนิก กลิ่นตะไคร้หอม
ราคา 145 บาท
LAMOON สติ๊กเกอร์แปะกันยุงออร์แกนิก
ราคา 350 บาท พิเศษ 298 บาท (SAVE 15%)
เครื่องดับจักยุงคุณภาพ
DERMOVE เครื่องดักจับยุงพรีเมี่ยม
ราคา 4,990 บาท พิเศษ 2,990 บาท (SAVE 40%)
BLACK HOLE เครื่องดักจับยุง
ราคา 2,290 บาท
BLACK HOLE เครื่องดักจับยุง รุ่น Master Trap
ราคา 1,290 บาท
EVE LIGHTING หลอดไฟ LED T8 18 วัตต์ ป้องกันยุง รุ่น LED T8 2IN1
ราคา 273 บาท
TOSHINO ไม้ตียุงถอดด้ามชาร์จไฟบ้าน
ราคา 249 บาท
4. รับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าอาจป้องกันได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การได้รับวัคซีนจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเดงกี่ หากติดเชื้อก็จะช่วยลดความรุนแรงและความอันตรายของโรคได้
5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน
ยาแอสไพริน (Aspirin) เป็นยาแก้ปวดที่ไม่มีสเตียรอยด์ หรือยากลุ่มเอ็นเสด (NSAID) ยากลุ่มนี้จะเข้าไปขยายหลอดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น การใช้ยาแอสไพรินและยาในกลุ่มเดียวกัน อย่างยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และยานาพรอกเซน (Naproxen) อาจเพิ่มความเสี่ยงผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนอันตรายในผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก เพราะเดิมทีโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยเลือดออกง่ายอยู่ก่อนแล้ว
เนื่องจากอาการปวดตามร่างกายและเป็นไข้ หลายคนอาจเข้าใจว่าไม่สบายด้วยโรคหวัด จึงไม่ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเลือกใช้ยา หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงของโรคไข้เลือดออก ควรเลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้และอาจใช้ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อบรรเทาปวดและลดไข้แทน หากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น อาการรุนแรงขึ้น ควรไปพบแพทย์โดยทันที
6. เพิ่มภูมิต้านทานและความแข็งแรงให้ร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกันที่ดีจะช่วยให้ร่างกายรับมือกับการเจ็บป่วยและการติดเชื้อไข้เลือดออกได้ดีขึ้น ทั้งยังอาจลดความรุนแรงของโรคและความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมอาจช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย การดูแลตนเองทำได้ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงความเครียด
หากพบสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีไข้สูง อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยตามร่างกาย ควรเฝ้าสังเกตอาการ ร่วมกับการดูแลตนเอง อาจเลือกใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้และบรรเทาปวดตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร แต่ทางที่ดีควรไปพบแพทย์โดยทันที
ไข้เลือดออก เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่มักเกิดในหน้าฝน ดังนั้นควรหมั่นดูตัวเองและสามชิกทุกคนในครอบครัว ควรกำจัดยุง และป้องกันไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายภายในบ้าน Central Inspirer รู้สึกห่วงใย ขอให้ทุกคนปลอดภัยจากไข้เลือดออก Be Happy & Be Healthy ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: pobpad.com / chulalongkornhospital.go.th /bumrungrad.com
Picture credit: pinterest.com