PHOTO FRAMES DECORATION

‘ภาพถ่าย’ เปรียบเสมือนความทรงจำที่ถูกบันทึกลงไปในเมมโมรี่การ์ด สามารถทำให้เรานึกถึงบุคคล สถานที่ บรรยากาศ ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ในภาพได้ทุกครั้งที่มองเห็น การนำภาพไปใส่กรอบรูปสวยๆ จึงถือเป็นการให้ความสำคัญกับความทรงจำนั้น แถมยังช่วยถนอมภาพให้อยู่กับเราไปนานๆ อีกด้วย ส่วนของกรอบรูปเองก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ ตามวัสดุ รูปทรง และดีไซน์ ฉะนั้นการรู้จักเลือกกรอบรูปให้เข้ากับภาพถ่าย จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งประเภทของกรอบรูปที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ แบ่งออกได้ ดังนี้

กรอบรูปพลาสติก (Plastic Frame)

กรอบแบบมาตรฐาน ดีไซน์เรียบง่าย สามารถใช้เป็นกรอบรูปตั้งโต๊ะหรือกรอบรูปแขวนผนังได้ โดดเด่นด้วยสีสันและสไตล์หลากหลาย ทำให้เราสามารถเลือกใช้แบบที่เหมาะกับผนังบ้านได้ง่าย ซึ่งหากภาพและกรอบมีการคุมโทนสีไปในทิศทางเดียวกัน จะยิ่งช่วยทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น เช่น ภาพขาว-ดำ ในกรอบสีขาวหรือสีดำ เพราะความเรียบนี้ทำให้กรอบชนิดนี้ค่อนข้างเหมาะกับภาพพอร์ตเทรตหรือภาพครอบครัว เสริมให้ภาพดูเด่นมากขึ้น

กรอบรูปไม้ (Wooden Frame)

คาแรกเตอร์ของกรอบรูปไม้มีความเป็น DIY ค่อนข้างสูง หลายคนนิยมซื้อกรอบไม้มาเพื่อตกแต่งลวดลายหรือสร้างสไตล์ในแบบของตัวเอง กรอบไม้ค่อนข้างเหมาะกับผนังสีอ่อนหรือชั้นวางที่ทำจากไม้ ท่ามกลางบ้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ซึ่งน่าจะเข้ากันได้ดีกับภาพถ่ายที่มีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติเล็กๆ

กรอบรูปหลุยส์ (Louis Frame)

แค่ชื่อก็บ่งบอกถึงความหรูหรา กรอบหลุยส์มักมาพร้อมลวดลายที่มีความเป็นศิลปะตะวันตก ส่วนใหญ่ใช้วัสดุที่เป็นไม้ ทำให้กรอบชนิดนี้มีความเรียบหรู แข็งแรง และมีกลิ่นอายของงานศิลปะ กรอบหลุยส์จะดูสวยหรูมากขึ้นเมื่อวางอยู่บนโต๊ะหรือแขวนอยู่บนผนังสไตล์วินเทจ ส่วนใหญ่เราจะพบเห็นกรอบแบบนี้ใช้กับภาพเวดดิ้งหรือภาพถ่ายรับปริญญา

กรอบรูปอะลูมิเนียม (Aluminium Frame)

กรอบรูปโลหะที่มีจุดแข็งเรื่องความคงทน มีทั้งแบบดีไซน์เรียบๆ เหมือนกรอบพลาสติก และแบบที่มีลวดลายสไตล์โมเดิร์น ความเรียบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูเข้ากันได้ดีกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล อีกทั้งกรอบอะลูมิเนียมดูเหมาะกับการแขวนบนผนังโทนสีเรียบๆ ซึ่งมองดูแล้วให้บรรยากาศเหมือนภาพถ่ายที่อยู่ในงานแกลเลอรี

กรอบรูปอะคริลิก (Acrylic Frame)

กรอบแบบใสที่มีลักษณะเป็นอะคริลิก 2 แผ่น ประกบเข้ากับภาพถ่ายตรงกลาง หลายคนน่าจะสังเกตเห็นกรอบรูปชนิดนี้จากตามงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งถือเป็น กรอบรูปที่เหมาะกับการใส่ภาพเน้นมุมมองแบบเต็มตา อย่างภาพถ่ายมาโครที่เน้นรายละเอียดของวัตถุชิ้นเล็ก ภาพถ่ายแนวแลนด์สเคป หรือภาพบรรยากาศตามสถานที่สำคัญต่างๆ

กรอบรูปไร้ขอบ (Frameless Frame)

กรอบรูปที่หลายคนเรียกกันว่า ‘กรอบลอย’ เป็นการพิมพ์ภาพลงในกระดาษโฟโต้ แล้วเคลือบด้วยฟิล์มลามิเนต ให้อารมณ์เหมือนภาพเขียนที่ขึงอยู่บนแคนวาส หรือปัจจุบันก็มีการพิมพ์ภาพลงไปในแคนวาสด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยทำให้ภาพดูทันสมัยและมีสไตล์เฉพาะตัว ดูเข้ากันกับภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือภาพที่ต้องการมอบให้คนรู้ใจเนื่องในโอกาสพิเศษ

กรอบรูปดีไซน์ต่างๆ (Another Frame Design)

กรอบรูปที่มีการนำเอาอุปกรณ์อื่นๆ มารวมเข้าด้วยกัน เช่น กรอบรูปพร้อมแท่นวาง กรอบรูปติดกับนาฬิกา รวมถึงกรอบแบบอื่นๆ ที่ดูมีกิมมิคอย่าง กรอบรูปทรงกังหัน กรอบรูปห่วงแบบแขวน อีกทั้งยังมีกรอบรูปดีไซน์ล้ำ และกรอบรูปน่ารักๆ แบบต่างๆ ให้เลือกใช้ และด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ชวนสะดุดตา ทำให้กรอบประเภทนี้สังเกตได้ง่าย เหมาะกับภาพถ่ายทุกชนิด

การจัดวางช่วยดึงดูดสายตา

          กรอบรูปตั้งโต๊ะหรือแขวนผนังมีความสำคัญอยู่ที่การจัดวาง เพราะเป็นส่วนช่วยทำให้ภาพถ่ายดูน่าสนใจ ชวนให้เรารู้สึกอยากมองบ่อยๆ สำหรับการจัดวางกรอบรูปนั้น ถ้าเป็นกรอบแบบตั้งโต๊ะ ลำดับการวางก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น กรอบภาพใหญ่ที่สุดตั้งไว้ด้านหลัง ส่วนกรอบเล็กตั้งไว้ด้านหน้า อาจมีเยื้องกันเล็กน้อยเพื่อความมีมิติ

          ส่วนกรอบแบบแขวนนั้น อาจจัดในลักษณะให้ภาพแนวตั้งอยู่กึ่งกลาง ประกบทั้งสองข้างด้วยภาพแนวนอน โดยมีการเว้นระยะระหว่างกรอบรูปพอประมาณ หรือจัดให้แนวตั้ง-แนวนอนแบบชิดกันเพื่อความมีดีไซน์  สำหรับคนที่มีพื้นที่เอื้ออำนวย ก็อาจจะมีการมิกซ์กันระหว่างกรอบตั้งและกรอบแขวน เพื่อให้มุมภาพในบ้านเราดูมีความน่าสนใจมากขึ้น

          เรื่องของภาพถ่าย นอกจากเป็นภาพถ่ายครอบครัวแล้ว ภาพถ่ายที่จะนำมาแขวนก็ควรมีความใกล้เคียงหรือมูดแอนด์โทนแบบเดียวกัน โดยเรามีตัวอย่างคร่าวๆ ให้ลองนำมาศึกษากันตามภาพ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งให้คุณผู้อ่านได้ลองนำเอาไปปรับใช้กันต่อไป