กว่าจะเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบใหญ่ มีเรื่องราวและปัญหามากมายที่คุณแม่คนใหม่จะได้เผชิญและเรียนรู้ หลายเหตุการณ์อาจทำให้คุณแม่รู้สึกปวดใจ แต่ก็ต้องพาลูกน้อยผ่านพ้นไปให้ได้ เช่น การฉีดวัคซีนเข็มแรกของลูก ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเมื่อตองดูแลลูกยามเจ็บป่วย หรือเวลาที่ลูกน้อยร้องไห้ไม่หยุดแต่คุณไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร ยังมีอีกมากมายที่จะเป็นประสบการณ์เข้ามาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการเป็นคุณแม่ให้กับคุณ ทุกเรื่องราวมีทั้งเรื่องสนุกและเรื่องเศร้าให้คุณแม่ได้น้ำตาไหล แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อลูกน้อยเติบใหญ่และแข็งแรง ทุกเหตุการณ์จะเป็นความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีของคุณ
เช่นเดียวกับเมื่อลูกเติบใหญ่ขึ้น เริ่มมีฟันซี่เล็กๆ น่ารักๆ โผล่ออกมาให้คุณแม่เห็น นับเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการทางร่างกายของลูกน้อยที่คุณแม่มีหน้าที่ดูและช่วยให้ฟันของลูกน้อยสะอาดและแข็งแรง สำหรับคุณแม่มือใหม่กับลูกน้อยที่ฟันเพิ่งขึ้น หรือฟันขึ้นแล้ว วันนี้ Central Inspirer ขอมาแนะนำสิ่งที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขอนามัยในช่องปาก และการแปรงฟันให้กับลูก
สิ่งที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับการแปรงฟันลูกน้อย
ฟันน้ำนมเป็นตัวช่วยเด็กในการรับประทานอาหาร การพูด รวมทั้งช่วยให้ฟันแท้ของเด็กตั้งตรงและแข็งแรง สำหรับคุณแม่มือใหม่จึงมีความสำคัญในการดูแลและแปรงฟันลูกให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น
สำหรับคุณแม่ที่มีลูกเล็กที่เริ่มเห็นฟันน้ำนมโผล่ขึ้นมา การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญ เพราะจะช่วยขจัดแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในช่องปากที่ก่อให้เกิดฟันผุ รำมะนาด และเป็นโรคเหงือกอักเสบได้ คุณแม่ควรแปรงฟันให้ลูกวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน รวมทั้งควรสอนให้ลูกรู้ถึงประโยชน์ของการแปรงฟันอีกด้วย สำหรับลูกเล็กคุณแม่ควรแปรงฟันให้ลูก และสอนลูกเรื่องของการแปรงฟันดังต่อไปนี้
1. เริ่มแปรงฟันให้ลูกทันทีที่เห็นฟันน้ำนมขึ้น
ทันทีที่ฟันน้ำนมขึ้น หรือเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6 เดือน คุณแม่ควรเริ่มแปรงฟันให้ลูกน้อยด้วยปลอกนิ้วสำหรับแปรงฟันอย่างเบามือด้วยการใช้น้ำเปล่า หรืออาจใช้ผ้าขนหนูเปียกหมาดๆ ขัดถูกเบาๆ บริเวณฟันน้ำขมที่โผล่ขึ้นมาและเหงือก เช็ดถูให้รอบวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนเข้านอน การที่ทำให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับการแปรงฟันตั้งแต่เล็ก ช่วยให้เด็กไม่ต้องเผชิญกับปัญหาฟันผุ แถมช่วยให้ลูกรู้จักดูแลสุขอนามัยในช่องปากเพื่อให้ไม่ต้องเจอปัญหาเรื่องปาก หรือฟันเมื่อลูกเติบใหญ่
แปรงสีฟันสำหรับทารก
RICHELL ปลอกนิ้วซิลิโคน 2 ด้าน
ราคา 220 บาท
MOMBELLA แปรงสีฟันปลอกนิ้ว ขนาด 20 กรัม
ราคา 99 บาท
2. เลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะกับเด็ก
สำหรับเด็ก คุณแม่ต้องเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่ออกแบบหรือผลิตมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ แปรงสีฟันสำหรับเด็กต้องมีหัวขนาดเล็ก และมีขนแปรงที่อ่อนนุ่ม ไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บสำหรับเหงือกและฟัน ในการเลือกยาสีฟันสำหรับลูกน้อยนั้น คุณแม่ควรจำไว้ว่า
- สำหรับเด็กแรกเกิด – 18 เดือน ควรแปรงฟันลูกด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรใช้ยาสีฟัน
- สำหรับเด็กอายุ 18 เดือน – 6 ขวบ ควรใช้ยาสีฟันเด็กในปริมาณเท่ากับเม็ดถั่วเขียว และควรเป็นเป็นยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์มากนัก
- เมื่อลูกมีอายุมากกว่า 6 ขวบ ขึ้นไป สามารถใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ได้ตามปกติ แต่ควรใช้ในปริมาณเท่ากับเม็ดถั่วเขียวเท่านั้น
- ปัจจุบันมียาสีฟันเด็กที่มีรสผลไม้ให้เลือกมากมาย ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนประกอบของมิ้นต์นั้นใช้ได้ แต่ควรมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณน้อยๆ เพื่อป้องกันฟันผุให้กับลูก
แปรงสีฟันคุณภาพสำหรับเด็ก
CURAPROX แปรงสีฟันสำหรับเด็กฟันน้ำนม CURAPROX BABY (3 ชิ้น)
ราคา 645 บาท
BBLUV แปรงสีฟันโซนิคพร้อมหัวแปรง 2 ระดับสําหรับเด็กเล็ก Sönik สีขาว
ราคา 890 บาท
BABY BANANA แปรงสีฟันกล้วย รุ่น BB18001 สีเหลือง
ราคา 490 บาท
CHICCO แปรงสีฟันสำหรับทำความสะอาดฟันและเหงือก สีฟ้า
ราคา 245 บาท
ยาสีฟันสำหรับลูกน้อย
PIGEON เจลสำหรับทำความสะอาดฟันเด็ก ขนาด 50 กรัม
ราคา 350 บาท
ENFANT อองฟองต์ ออแกนิค พลัส โททอลแคร์ คิดส์ ทูธเพสท์ กลิ่นแอปเปิ้ล กีวี่ มิ้นท์
สำหรับเด็ก 2 ปี ขึ้นไป ขนาด 50 มล.
ราคา 245 บาท
KINDEE ยาสีฟันออร์แกนิค รสสตรอว์เบอรี่ ขนาด 50 กรัม
ราคา 150 บาท พิเศษ 120 บาท (SAVE 20%)
DENTISTÉ ยาสีฟันแปรงแห้งเด็ก กลิ่นผลไม้รวม ขนาด 60 กรัม
ราคา 200 บาท พิเศษ 140 บาท (SAVE 30%)
3. เรียนรู้วิธีแปรงฟันลูกให้ถูกต้อง
เมื่อลูกเป็นเด็ก ลูกไม่สามารถแปรงฟันได้ด้วยตัวเอง หน้าที่ในการแปรงฟันลูกจึงตกเป็นหน้าที่ของทั้งของคุณแม่และคุณพ่อ ดังนั้นคุณควรเรียนรู้วิธีแปรงฟันลูกน้อยที่ถูกต้อง
- การเริ่มแปรงฟันให้ลูก คุณแม่ควรจับลูกนั่งในท่าที่สบายๆ โดยอาจเอาลูกนั่งลงบนตักของคุณ ลูกนั่งหันหลังให้ศีรษะของลูกพิงอกคุณแม่ โดยคุณแม่จับคางลูกให้เชิดขึ้น
- แปรงฟันและเหงือกของลูกให้ทั่วๆ ทั้งช่องปาก ขัดถูไปมาโดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที
- แปรงฟันและเหงือกอย่างเบามือ โดยถูเป็นวงกลมไปรอบๆ ต้องไม่ลืมขัดไปถึงด้านในของฟันและช่องปากของลูกด้วย
- แปรงไป-มา โดยเฉพาะบริเวณฟันกราม หรือฟันที่ลูกใช้ในการขบหรือเคี้ยวอาหาร
- หลังการแปรงฟัน บอกให้ลูกบ้วนยาสีฟันที่เหลือในปากออกมา อาจล้างปากด้วยน้ำเปล่า หรือไม่ล้างออกก็ได้ เพราะยาสีฟันที่เหลือในช่องปากของเด็กสามารถช่วยเคลือบและปกป้องฟันไม่ให้ฟันผุได้
- สำหรับเด็กๆ ที่เริ่มมีฟันน้ำนมเต็มปาก คุณอาจเริ่มสอนให้ลูกใช้ หรือเริ่มใช้ไหมขัดฟัน หรือ Dental Floss เพื่อช่วยทำความสะอาดร่องฟัน แต่คุณแม่ควรทำอย่างเบามือ ไม่ทำให้ลูกรู้สึกกลัว สอนให้ลูกเริม่ใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟันจะช่วยให้สุขภาพในช่องปาก และฟันของลูกแข็งแรงต่อไปในอนาคตค่ะ
แนะนำไหมขัดฟันคุณภาพ
ORAL-B ไหมขัดฟัน รุ่น SATINFLOSS
ราคา 199 บาท พิเศษ 139 บาท (SAVE 30%)
JORDAN ไหมขัดฟัน Brush Between ไซส์ XS แพ็ค 2 ชิ้น สีชมพู
ราคา 309 บาท
DENTICON ไหมขัดฟันพร้อมด้ามจับ ขนาด 50 ชิ้น (แพ็คคู่) สีขาว
ราคา 69 บาท
4. สอนให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง
สนับสนุนและสอนให้ลูกหัดแปรงฟันด้วยตัวเองเมื่อลูกมีอายุประมาณ 2-3 ขวบ หรือเมื่อลูกเริ่มเติบโตขึ้น ต้องไม่ลืมตรวจสอบผลงานการแปรงฟันของลูก หากลูกยังแปรงฟันไม่ถูกต้อง ควรแนะนำวิธีการแปรงฟันที่ดีที่ลูกสามารถจะแปรงฟันและเหงือกได้อย่างถูกต้อง
เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 8 ขวบ เด็กๆ จะเริ่มมีทักษะ และความชำนาญในการแปรงฟันได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ก็ต้องคอยสังเกต และตรวจสอบการแปรงฟันของลูก จนมั่นใจแล้วว่าลูกแปรงฟันได้อย่างถูกต้องด้วยตนเอง
5. สอนให้ลูกรักการแปรงฟัน
ไม่ใช่เด็กทุกคนที่ชอบการแปรงฟัน แต่เด็กๆ ก็ต้องยอมรับว่าการแปรงฟันนั้นต้องทำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยให้ฟันและเหงือกแข็งแรง มีเทคนิคที่อยากแนะนำคุณแม่เพื่อช่วยสนับสนุนลูกให้รักการแปรงฟัน ดังนี้
- ทำให้การแปรงฟันกลายเป็นเรื่องสนุก สำหรับเด็กเล็ก คุณแม่อาจทำเสียงตลกๆ เปิดแอป หรือวิดิโอการ์ตูน หรือเพลงสนุกๆ ให้ลุกฟังเพลินๆ ระหว่างแปรงฟันให้กับลูก
- เด็กๆ มักสนุกกับการลอกเลียนแบบ คุณแม่อาจชวนคุณพ่อมาทำท่าแปรงฟันสนุกๆ ให้ลูกดู เพื่อที่ลูกจะได้เพลิดเพลินและลอกเลียนแบบการแปรงฟันจากคุณพ่อ
- มีหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับฟัน หรือการแปรงฟันมากมายที่สามารถนำมาให้ลูกดู เพื่อช่วยสอนให้ลูกรู้สึกสนุกกับการแปรงฟัน
- ลองใช้แปรงสีฟัน 2 อัน อันที่หนึ่ง ให้ลูกถือไว้ อีกอัน คุณแม่ใช้แปรงฟันลูก เล่นกับลูกให้ลูกผลัดกับคุณในการแปรงฟัน ‘ลูกแปรง แม่แปรง’ สลับกันไปมา จะทำให้ลูกรู้สึกสนุกกับคุณแม่ และชื่นชอบในการ ‘เล่นแปรงฟัน’ กับคุณแม่อีกด้วย
- หากลูกของคุณไม่ชอบรสชาติของยาสีฟัน ลองแปรงฟันลูกโดยใช้น้ำเปล่าก่อน จากนั้นค่อยลองใช้ยาสีฟันเด็กที่มีฟลูออไรด์น้อยๆ ปริมาณเท่ากับเม็ดถั่วเขียว ให้ลูกชินกับรสชาติของยาสีฟัน ลองเลือกใช้ยาสีฟันรสผลไม้ หรือรสอ่อนๆ ที่เด็กอาจชอบมากกว่ารสชาติอื่น
- หากการแปรงฟันให้ลูกในห้องน้ำนั้นไม่สามารถเอาชนะลูกได้ ลองแปรงฟันให้ลูกที่บริเวณอื่นในบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือที่ระเบียงบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศอาจจับลูกแปรงฟันได้ง่ายกว่าค่ะ
- สำหรับเด็กโต อายุประมาณ 3-6 ขวบ อาจลองติดสินบนลูกนิดๆ เผื่อช่วยให้ลูกยิงแปรงฟันได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ลองกากบาทลงในปฏิทินให้ลูกเห็นว่า ถ้าลูกยอมแปรงฟันวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ คุณแม่จะซื้อของเล่นที่อยากได้ให้ หรือพาไปทานไอศกรีมที่ลูกชอบ เป็นต้น
6. พาลูกไปพบทันตแพทย์
ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อลูกมีอายุ 2 ขวบ ขึ้นไป ควรพาลูกไปพบทันแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกไม่กลัวหมอฟันแล้ว ยังช่วยให้สุขอนามัยในช้องปาก เหงือกและฟันของลูกสมบูรณ์และแข็งแรงอีกด้วยค่ะ
การดูแลฟันและเหงือกของลูกน้อย เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญในการดูแลลูก และอยู่ในขั้นตอนของความเจริญเติบโตของลูก สุขอนามัยในช่องปากของเด็กมีความสำคัญพอๆ กับสุขภาพกายและใจของลูกน้อย คุณแม่ควรเริ่มใส่ใจแปรงฟันลูกน้อยอย่างถูกต้องตั้งแต่วันนี้ รวมทั้งสองลูกให้แปรงฟันอย่างถูกต้อง เมื่อลูกเติบโตขึ้น เขาจะได้มีวินัยในการแปรงฟัน มีฟันสวย และมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดีค่ะ Happy Parenting นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: betterhealth.vic.gov.au
Picture credit: pinterest.com