จากการจากไปของกูรูแฟชั่นชื่อดังระดับโลก ISSEY MIYAKE ในวันที่ 5 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา ทำให้เราหวนรำลึกว่า ISSEY MIYAKE เป็นเหมือนตำนานแฟชั่นชาวอาทิตย์อุทัยผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก กว่า 4 ทศวรรษที่เขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่น ISSEY MIYAKE ได้สร้างสรรค์สร้างคอลเลคชั่น และแบรนด์ลูกต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งทำให้แฟชั่นนิสต้าทั่วโลกหลงไหลอยากได้ผลงานของเขามาเป็นเจ้าของ หลากหลายคอลเลคชั่นของ ISSEY MIYAKE ยังคงเป็นที่หลงไหล และหลายคนยังจับจ้องต้องมีไว้ใช้ และเพื่อเป็นการรำลึกถึง ISSEY MIYAKE วันนี้ Central Inspirer เชิญคุณมาทำความรู้จักกับ ISSEY MIYAKE พร้อมคอลเลคชั่นและแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นผลงานของเขา
ตำนานแฟชั่นผู้โด่งดัง ISSEY MIYAKE
ISSEY MIYAKE (อิซเซ่ มิยะเกะ) ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นเริ่มก่อตั้ง Miyake Design Studio ขึ้นในปี ค.ศ. 1970 โดยจัดให้มีห้องทดลอง หรือ Reality Lab. ที่เปรียบเสมือนจุดกำเนิดของทุกไอเดียแฟชั่น และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ของเขา ในปีถัดมา เขาได้ก่อตั้ง ISSEY MIYAKE Inc. โดยเป็นบริษัทลูกเพื่อผลิตเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกทั่วโลก ก่อนจะเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และเข้าร่วมแสดงผลงานใน Paris Fashion Week เรื่อยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973 จนสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
ตลอดเวลา 40 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นระดับโลก ISSEY MIYAKE ได้ครีเอทไอเท็มระดับมาสเตอร์พีซออกมามากมาย รวมทั้งผลงานผ้าพลีทอันโด่งดังที่เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1989 ก่อนจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็น PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ในเวลาต่อมา รวมถึงไอเดียและการผลิตผ้าในสไตล์ A-POC ในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของนวัตกรรมความล้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้
ทำความรู้จักกับคอลเลคชั่นและแบรนด์ต่างๆ จาก ISSEY MIYAKE
1. ISSEY MIYAKE MEN
ในปี ค.ศ. 1976 ISSEY MIYAKE ได้เปิดตัว ISSEY MIYAKE MEN เป็นครั้งแรกก่อนจะเพิ่มคอลเลคชั่นของผู้หญิงตามมาใน 2 ปีถัดมา ISSEY MIYAKE MEN แยกออกมาเป็นแบรนด์ของตัวเองโดยการออกแบบของดีไซเนอร์ Yusuke Takahashi พร้อมทีมงาน จุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่การนำสินค้าไปใช้ได้จริง และความนุ่มสบายของสินค้า ซึ่งยังคงถ่ายทอดและสืบต่อผลงานใหม่ๆ ไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
2. PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE
ผลิตภัณฑ์การออกแบบในกลุ่ม PLEATS เปิดตัวครั้งแรกบทแคทวอล์คปารีสแฟชั่นวีคในปี ค.ศ. 1989 และได้ทำการพัฒนาและคิดค้นดีไซน์ใหม่ๆ เรื่อยมาในทุกซีซั่น จนเริ่มแตกตัวทำเป็นแบรนด์ของตัวเองอย่างจริงจังตั้งแต่คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูร้อนปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา PLEATS PLEASE เน้นการนำเสนอแฟชั่นไอเท็มที่มีนวัตกรรมใหม่ในสไตล์ผ้าอัดพลีต ซึ่งกลายเป็นไอคอนและซิกเนเจอร์ที่สร้างการจดจำผลงานการออกแบบของ ISSEY MIYAKE จากผู้คนทั่วโลก
3. A-POC
แนวคิด A-POC หรือ A Piece of Cloth เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1997 จากความคิดที่ว่า “จะทำอย่างไรให้ผ้าหนึ่งผืน สามารถนำมาใส่ได้เลย” ด้วยความคิดนี้ ISSEY MIYAKE จึงเริ่มทำการค้นคว้าและทดลองร่วมกับ Dai Fujiwara จนนำมาซึ่งผ้าแบบใหม่โครงสร้างทรงกระบอก ที่ไร้ตะเข็บ ในราคาเข้าถึงได้ และผู้สวมใส่สามารถปรับเปลี่ยนโครงชุดและระดับความสั้นยาวได้ตามความต้องการ แถมยังช่วยลดปริมาณเศษผ้าเหลือทิ้งได้อีกด้วย ด้วยปรัชญาของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ Technovation (Technology + Innovation) ISSEY MIYAKE จึงไม่หยุดยั้งในการพัฒนานำไปสู่เทคนิค ‘‘Steam Stretch’’ โดยการใช้ความร้อนจากไอน้ำเพื่อหดเส้นด้ายให้ได้รูปทรงเสื้อผ้าตามต้องการ จึงสามารถสวมใส่ได้เลยโดยไม่ต้องเย็บหรือตัดอีก รวมถึงเทคนิค “Baked Stretch” การปั้นผ้าพลีทให้ เป็นรูปทรง โดยทากาวชนิดพิเศษลงบนเนื้อผ้าก่อนนำไปอบ ทำให้ได้ผ้าพลีทกางออกเป็นรูปทรงถาวร
4. ME ISSEY MIYAKE
เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่เปิดตัวครั้งแรกในฤดูกาล Spring/Summer 2001 โดยการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่มีความเบา กะทัดรัด และดูแลรักษาง่าย เพื่อให้เสื้อผ้านั้นสวมใส่ได้ง่ายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ผลิตภัณฑ์ ME ISSEY MIYAKE ยังถูกวางตลาดภายใต้แบรนด์ CAULIFLOWER ในสหรัฐอเมริกายุโรป ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 ถือเป็นแฟชั่นที่ออกแบบมาเพื่อความสุขในชีวิตประจำวันโดยมีสีสันและลวดลายหลากหลาย สวมใส่ได้ง่ายในทุกวัน
5. BAO BAO ISSEY MIYAKE
นับเป็นแบรนด์กระเป๋าจาก ISSEY MIYAKE ที่โด่งดังไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบันนี้ BAO BAO ISSEY MIYAKE แบรนด์กระเป๋าแสนเก๋ที่แฟน ISSEY MIYAKE ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นกระเป๋าที่ถูกออกแบบให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยคอนเซ็ปท์ “Shapes Made by Chance” ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงกระเป๋าได้ตามใจต้องการ มีกระเป๋าถือและกระเป๋าใส่ของใบเล็กให้เลือกใช้หลากแบบ หลายสี เนื้อนิ่ม น้ำหนักเบา ออกแบบให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย สามารถพับให้เป็นทรงต่างๆ ได้ จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่กระเป๋าในคอลเลคชั่น BAO BAO ISSEY MIYAKE วางตลาดในปี ค.ศ. 2000 จนถึงปัจจุบันกระเป๋าคอลเลคชั้นนี้ยังคงถูกออกแบบด้วยการนำวัสดุที่หลากหลายมาใช้ผลิต เพื่อให้ได้กระเป๋าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และยังคงเป็นที่ต้องการอยู่จนถึงทุกวันนี้
6. 132 5. ISSEY MIYAKE
132 5. เป็นแบรนด์ที่ ISSEY MIYAKE และทีมงาน Reality Lab. ได้ร่วมกันระดมความคิดในการเปลี่ยนรูปแบบของผลิตภัณฑ์ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากงานกระดาษพับของญี่ปุ่น หรือ Origami โดยการวางรูปทรงเสื้อผ้า การสร้างโครงแบบจากสองมิติ มาเป็นสามมิติในลักษณะต่างๆ และนำมาใช้ในการผลิตเสื้อเชิ้ต กระโปรง ชุดเดรส หรือกางเกง เป็นต้น รวมทั้งยังนำเส้นใยจากวัสดุรีไซเคิลจากการทอผ้ามาผลิต ซึ่งเป็นแนวคิดแปลกใหม่ 132 5. เป็นตัวเลขปริศนาที่แฝงปรัชญาล้ำลึกของแบรนด์ โดยเลข “1” หมายถึง ผ้าเพียงชิ้นเดียวก็สามารถรังสรรค์เป็นเสื้อผ้าสามมิติได้นั่นคือเลข “3” และสามารถพับให้เป็นสองมิติ หรือ “2” ก็ได้เช่นกัน ส่วนเลข “5” หลังเว้นวรรค หมายถึง มิติที่เกิดขึ้นจากการสวมใส่บนร่างกาย และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอนาคตและการก้าวไปข้างหน้าอีกด้วย
นอกจากผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและกระเป๋าแล้ว ISSEY MIYAKE ยังครีเอทน้ำหอมอันโด่งดังไปทั่วโลกสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ที่คุณสามารถเลือกช้อปได้ที่ Central App สำหรับแฟนพันธุ์แท้ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ISSEY MIYAKE
ความหอมที่เป็นตำนานจาก ISSEY MIYAKE
ISSEY MIYAKE น้ำหอมสำหรับคุณผู้หญิง A Drop D’Issey EDP ขนาด 90 มล.
ราคา 5,000 บาท พิเศษ 4,500 บาท (SAVE 10%)
ISSEY MIYAKE น้ำหอม Wood&Wood EH EDP Intense ขนาด 50 มล.
ราคา 3,000 บาท พิเศษ 2,700 บาท (SAVE 10%)
ISSEY MIYAKE Rose&Rose EI EDP Intense ขนาด 90 มล.
ราคา 5,000 บาท พิเศษ 4,500 บาท (SAVE 10%)
ISSEY MIYAKE Fusion Dissey ขนาด 100 มล.
ราคา 4,000 บาท พิเศษ 3,600 บาท (SAVE 10%)
ถึงแม้ว่าวันนี้ ISSEY MIYAKE ดีไซน์เนอร์ชื่อก้องจะจากไปแล้ว แต่ผลงานของเขายังคงเป็นตำนาน และยังคงเป็นที่นิยมของเหล่าสาวกแบรนด์ดังตลอดไป Central Inspirer ขอ Salute แฟชั่นไอคอนคนสำคัญของโลกชาวญี่ปุ่น ISSEY MIYAKE ขอบคุณที่ส้างแฟชั่นไอเม็มที่สวยงาม เป็นศิลปะ และมีความเป็นอมตะตลอดกาล
ขอบคุณข้อมูลจาก: brandage.com/iurban.in.th
Picture credit: isseymiyake.com/time.com/pinterest.com