การเดินทางไปท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน เป็นการเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน แต่ในการเดินทางนั้นก็ต้องมีการเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์สัมภาระต่างๆ เพื่อไปไว้ใช้ในการเดินทาง เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว ยารักษาโรค และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น นั่นก็คือ ปลั๊กแปลงไฟ นั่นเอง ปลั๊กไฟญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะใช้ไม่เหมือนกับเมืองไทยเรา ปลั๊กไฟญี่ปุ่นจะมีลักษณะเป็นขาคู่หัวแบน เท่านั้น ในวันนี้เรามีข้อมูลปลั๊กแปลงนานาชาติที่ไว้ใช้สำหรับในการไปท่องเที่ยวประเทศต่างๆ มาแนะนำกัน
ประเภทของปลั๊กแปลงไฟ
ในปัจจุบันมีหัวปลั๊กมากถึง 14 แบบที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก แต่บางแบบก็มีส่วนที่คล้ายกันจึงสามารถใช้ร่วมกันได้ เราสามารถแบ่งประเภทของหัวปลั๊กได้ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ A-N โดยองค์กรที่กำหนดมาตรฐานปลั๊กอย่าง IEC ระบุไว้อย่างละเอียด ไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร
- ปลั๊กหัวแบนสองขา ไม่มีกราวด์ ถูกใช้ในทวีปอเมริกาเหนือ และ ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นปลั๊กมาตรฐานที่ถูกใช้กันแพร่หลายอย่างมากทั่วโลก ถ้าเราไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็จะต้องใช้หัวปลั๊กประเภทนี้
- ปลั๊กหัวแบนสองขา บวกขากราวด์กลมๆ อีกหนึ่งขา ใช้งานเป็นหลักในทวีปอเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยด้วย เที่ยวญี่ปุ่นก็สามารถใช้อันนี้ได้
- ปลั๊กหัวกลม 2 ขา ไม่มีกราวด์ เป็นปลั๊กเก่าแก่ที่ถูกใช้เป็นหลักในทวีปยุโรป (ยกเว้นอังกฤษ) หัวปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบ C และยังคงเป็นปลั๊กแบบทีได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลกในปัจจุบัน
- ปลั๊กหัวกลมคู่ พร้อมกราวด์ขาใหญ่ เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ถูกใช้ในอินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ไม่ถูกใช้ในประเทศไทย
- เป็นหัวกลม 3 ขา แต่ขากราวด์จะมีลักษณะใหญ่เป็นพิเศษ ถูกใช้เป็นหลักในประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศใกล้เคียง
- เป็นปลั๊กที่ใช้ในประเทศบราซิลเป็นหลัก ปลั๊กหัวกลม 3 ขา ที่มีความใกล้เคียงกับ Type J แต่ขากราวด์จะอยู่ชิดกับขาหลักมากกว่าเล็กน้อย สามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบกับ Type C มาเสียบใช้ได้เลย
ประเทศยอดฮิตที่คนนิยมไปท่องเที่ยว
เที่ยวญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน เพราะด้วยความที่มีครบเกือบทุกอย่าง ทั้งอาหาร ของเล่น ของใช้ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สวยสนุก และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้น่าใจสน น่าไปลอง เลยทำให้คนส่วนใหญ่นิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน ประเด็นที่เราจะมาพูดถึงการเที่ยวญี่ปุ่นในวันนี้ก็คือเรื่องของปลั๊กไฟนั่นเอง เพื่อการท่องเที่ยวแบบไม่มีสะดุด ปลั๊กไฟญี่ปุ่นใช้ชนิดขาคู่หัวแบนเท่านั้น ที่ญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้า 110 V ซึ่งน้อยกว่าเมืองไทยประมารครึ่งหนึ่ง หัวปลั๊กไฟญี่ปุ่นสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่ต้องอย่าลืมพกไปด้วยละจะได้เที่ยวญี่ปุ่นอย่างไม่มีสะดุด
เที่ยวเกาหลี
เกาหลีก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมไปเช่นกัน เพราะมีติ่งเกาหลีอยู่เป็นจำนวนมากในเมืองไทย แต่ก็ไม่ได้มีแค่นั้น อาหารเกาหลีก็เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย เล่นหิมะและสกีในหน้าหนาว หรือการไปตามรอยซีรี่ย์ และการไปช้อปปิ้ง ส่วนปลั๊กไฟเกาหลีนั้น จะเป็นเบ้าลงไปกลมๆและใช้ปลั๊กขากลมคล้ายๆ กับปลั๊กเตารีดบ้านเรา กระแสไฟที่ใช้อยู่ที่ 110-220 V คล้ายๆ กับบ้านเรา
เที่ยวสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศยอดฮิตในอาเซียนที่คนนิยมไปเที่ยว เป็นประเทศน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดมาได้ 50 ปีกว่าๆ ถือว่าเป็นประเทศที่เล็กแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน และมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปทำ เช่น สวนสนุกUniversal ถ้าพูดถึงปลั๊กไฟสิงคโปร์จะไม่เหมือนของไทย คือ จะเป็นเต้าเสียบ 3 ขา เป็นหัวสี่เหลี่ยม กำลังไฟที่ใช้อยู่ที่ 220-240 V ปลั๊กไฟสิงคโปร์จะอยู่ใน Type G
การไปท่องเที่ยวสิ่งที่ทุกคนต้องมีติดตัวก็คงจะหนีไม่พ้น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดิโอ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการชาร์จไฟเพราะใช้แบตเตอรี่ ปลั๊กของแต่ละประเทศก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ทำให้ต้องมีอุปกรณ์เสริม คือ ตัวปลั๊กแปลงไฟ ไปเที่ยวแต่ละประเทศก็จะต้องเตรียมปลั๊กแปลงไปสำหรับประเทศนั้น เช่น เที่ยวญี่ปุ่น ก็จะต้องใช้ปลั๊กไฟญี่ปุ่น สิงคโปร์ ใช้ปลั๊กไฟสิงคโปร์ เที่ยวเกาหลี ก็ต้องใช้ปลั๊กไฟเกาหลี ต้องเตรียมตัวให้พร้อมจะได้สนุกเต็มที่กับการท่องเที่ยว