กีฬาเทนนิส เป็นหนึ่งในกีฬาสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนของไทยในปัจจุบัน ถ้าเอ่ยถึงกีฬาชนิดนี้แต่ก่อนอาจจะไม่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากนัก แต่เมื่อคุณภราดร ศรีชาพันธุ์ หรือ ซูเปอร์บอล นักเทนนิสชาวไทยได้เริ่มทำผลงานในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 9 ของโลก ในช่วงปี 2546 ถือว่าเป็นการจุดประกายฝันให้เยาวชนและผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้

เริ่มต้นกับกีฬาเทนนิส

การเล่นเทนนิสนั้น นอกจากจะสามารถเล่นเพื่อการแข่งขันและเป็นนักกีฬาอาชีพได้แล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่ให้ความสนุกสนาน และได้ออกกำลังเสริมสร้างสมรรถนะทางร่างกายได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเทนนิสแบบเอาที่จำเป็นจริงๆ มีอยู่ 2 ประการเท่านั้น ก็คือ ไม้เทนนิส ที่เหมาะมือ และ เทคนิคการตีลูก ส่วนเรื่องของรองเท้า ชุดกีฬา หรือลูกเทนนิส เป็นสิ่งที่จำเป็นแต่อยู่ในอันดับถัดไป ต้องเริ่มต้นที่ไม้ และ ทักษะในการตีเสียก่อน เพราะมันสามารถฝึกได้ด้วยการยืนอยู่กับที่ ทำท่าตีเร็วๆ ช้าๆ เพื่อปรับทักษะและรับรู้น้ำหนักวิธีการหวดไม้ให้ออกไปในท่าทางที่ต้องการ สำหรับเรื่องของไม้ที่ต้องใช้นั้น มีอยู่หลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีขายในบ้านเรา เช่น ไม้เทนนิส Yonex (คุณภราดร ก็ใช้ไม่ยี่ห้อนี้เช่นกัน) ไม้เทนนิส head หรือจะเป็นยี่ห้อ Babolat

จะใช้ ไม้เทนนิส Yonex แบบภราดร ก็ต้องทำความเข้าใจวิธีการจับไม้ก่อน

การจะเล่นเทนนิสให้เก่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเลือกใช้ ไม้เทนนิส ดีๆ ตาม แบบนักกีฬาดังๆเท่านั้น เพราะต่อให้เราใช้ ไม้เทนนิส Yonex รุ่นเดียวแบบเดียวกัน แต่พื้นฐานไม่แน่น จับไม้ไม่เป็นมันก็ไม่มีความหมาย ไม้เทนนิส Yonex ในมือเราไม่สามารถเปล่งประกายเพราะผู้ใช้ยังไม่ชำนาญ ดังนั้นเริ่มแรกเราควรทำความเข้าใจกับวิธีการในการจับไม้เพื่อตีแบบพื้นฐานเสียก่อน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 แบบที่นิยมใช้กัน เพื่อการตีลูกในแบบต่างๆ ก็คือ

1. การจับไม้แบบอีสเทิร์น หรือ เรียกว่า Eastern Grip เป็นการจับไม้เพื่อใช้ตีลูกหน้ามือและหลังมือ

2. การจับไม้แบบคอนติเนนตัล หรือ Continental Grip เป็นการจับที่เหมาะสำหรับการตีลูกที่กระดอนลงต่ำและตีลูกสั้นแนวทแยงกับสนาม หรือ Passing Shot

3. การจับไม้แบบเวสเทิร์น หรือ Western Grip ใช้กับการตีลูกแบบ Forehand ที่กระดอนมาในระดับสูงกว่าเอว

4. การจับไม้แบบเวสเทิร์นโฟร์แฮนด์ หรือ Western Forehand Grip เป็นการตีลูกแบบหน้ามือหรือ Forehand เพื่อให้มีความรุนแรงเป็นพิเศษ ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ สุดยอดนักเทนนิสชาวสเปน Rafael Nadal ซึ่งคนนี้เขานิยมใช้ ไม้เทนนิส Babolat ในการลงแข่งขัน

5. การจับไม้แบบอีสเทิร์นแบ็คแฮนด์ หรือ Eastern Backhand Grip เป็นการถือ ไม้เทนนิส เพื่อให้ตีลูกหลังมือได้พลิกแพลงมากขึ้น สามารถตีสไลด์ หรือเปลี่ยนการจับเป็นแบบอื่นได้รวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีอีกสองสามรูปแบบในการจับไม้เทนนิส ที่มีการพัฒนาขึ้น ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้เกี่ยวกับเรื่องวิธีการและท่าทางในการจับไม้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นพื้นฐานที่จำเป็นและควรหมั่นฝึกฝน เพราะต่อให้ใช้ ไม้เทนนิส Yonex เหมือน ภราดร หรือ ใช้ ไม้เทนนิส Babolat เหมือน Nadal ก็ไม่สามารถช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้หากไม่มีพื้นฐานที่แน่นพอ

ใช้ไม้เทนนิส Babolat อย่างไรให้เหมาะมือ

นอกเหนือจากเรื่องเทคนิคในการถือไม้เทนนิส และวิธีการเหวี่ยง การตีลูกในแบบต่างๆ ที่เราต้องหมั่นฝึกฝนทักษะเป็นประจำแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ละเลยไม่ได้เป็นอันขาด แต่มักเกิดความผิดพลาดในกลุ่มมือใหม่ นั่นก็คือเรื่องขนาดของไม้ที่ใช้ตี  ไม้เทนนิสไม่ได้มีขนาดเดียวใช้ได้ทุกคนทุกเพศทุกวัย แต่ Babolat  ยังแบ่งออกเป็นไซส์ต่างๆ ซึ่งเจตนาการแบ่งขนาดก็เพื่อให้เหมาะสมกับอายุของผู้เล่น เพื่อให้มีขนาดความกว้างความยาว และน้ำหนักที่เหมาะมือ ซึ่งในเวลาที่เราไปเลือกซื้ออุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ไม้เทนนิส Yonex หรือ ไม้เทนนิส Head หรือจะเป็น ไม้เทนนิส Babolat เราก็ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับตัวผู้เล่นก่อนเป็นอันดับแรกๆ  เช่น หากเป็นผู้เล่นวัยเด็ก 6 – 8 ปี อาจจะไปซื้อ ไม้เทนนิส head จะต้องเลือกที่มีขนาดพื้นที่ความกว้างหน้าไม้ประมาณ 80 ตารางนิ้ว และมีความยาวของไม้อยู่ที่ประมาณ 19 นิ้ว แต่ในกรณีเป็นผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไป ก็ควรเลือกพื้นที่หน้าแรกเก็ตของไม้ประมาณ 110 ตารางนิ้ว และมีความยาวของไม้ประมาณ 25 นิ้ว เป็นต้น

การจะเล่นเทนนิส ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพื่อออกกำลังกายหรือมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นแชมป์ สองเรื่องหลักก็คือ ต้องเรียนรู้วิธีการตีลูกที่ถูกต้อง หมั่นซ้อมบ่อยๆ และต้องมี ไม้เทนนิสประจำกาย ซึ่งอาจจะเป็นไม้ ยี่ห้อเดียวกับไอดอลของเราก็ได้ เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจ เช่น แฟนๆ ภราดร ก็ลองใช้ ไม้เทนนิส Yonex หรือ แฟนของ Rafael Nadal ก็ลองใช้ ไม้เทนนิส Babolat เพื่อให้เราเกิดความฮึกเหิมและอยากซ้อมอยากฝึก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถกลายเป็นคนเก่งเอง แต่จะซื้อไม้แบบไหนยี่ห้อไหน อันนี้ก็สามารถไปลองเลือกได้เองตามความชอบ และราคาที่พอใจ