รองเท้าผ้าใบกลายมาเป็นอีกไอเทมประจำตัวสำหรับหลายๆ คน ด้วยความที่สามารถเอาไว้ใส่ได้กับชุดหลายๆ แบบ เพราะใส่แล้วดูดีไม่มีเคอะเขิน ใส่กับชุดชิวๆ กับทำให้ดูเท่ได้ หรือว่าจะใส่กับชุดเท่ก็ยิ่งจะช่วยให้ดูดีขึ้นไปอีก โดยเฉพาะรองเท้าโทนสีคลาสสิคอย่าง รองเท้าผ้าใบสีดำ และ รองเท้าผ้าใบสีขาว เพราะด้วยความที่เป็นสีกลางๆ จึงทำให้ไม่ว่าจะใส่กับเสื้อผ้าโทนไหน สีไหนก็ดูเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับรองเท้าผ้าใบหลากสี ที่ถ้าเลือกจับคู่ให้แมทช์กับเสื้อหรือกางเกงอย่างดีแล้วละก็ บอกได้เลยว่าไม่เคยตกยุคแน่นอน
ยิ่งสวยยิ่งต้องรู้จักดูแล
แน่นอนว่ารองเท้าผ้าใบของแท้นั้นถูกทำจากผ้าหลากหลายสีสัน ทั้งเข้มบ้างอ่อนบ้าง และเมื่อต้องอยู่กับส่วนที่ใกล้ชิดพื้นที่สุดอย่างเท้าก็มีโอกาสจะเปื้อนได้ง่าย เพราะถนนหนทางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่ก็ไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่นัก ทั้งคราบสกปรกและฝุ่นก็พร้อมที่จะเข้ามาเปื้อนอยู่บนรองเท้าสวยๆ ของเรา นี่ยังไม่รวมถึงตอนหน้าฝนนะ เรียกว่าฝนเทลงมาที คนรักรองเท้านี่น้ำตาจะไหลเลยทีเดียว
ดังนั้นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การเลือกซื้อรองเท้า ก็คือการรู้จักวิธีในการดูแลทำความสะอาด เพราะถ้าไม่รู้จักดูแล รองเท้าที่ซื้อมาสีขาวๆ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ หรือถ้าดูแลไม่ถูกวิธีอาจจะถึงกับทำรองเท้าพังกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะพามารู้จักกับ 5 วิธีง่ายๆ ในการดูแลรองเท้าผ้าใบให้ใสปิ๊งใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งแกะออกมาจากกล่องกันเลยล่ะ
1. ใส่รองเท้าผ้าใบอย่างระมัดระวัง
อย่างที่บอกว่าเรามักจะใส่รองเท้าผ้าใบกันเป็นประจำในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน จะแต่งตัวแบบไหน นึกอะไรไม่ออกก็ใส่รองเท้าผ้าใบ หมายความว่า ถ้ายิ่งใส่บ่อยก็มีโอกาสที่จะเปื้อนหรือพังได้บ่อยมากขึ้นเช่นกันหากไม่ระมัดระวัง ดังนั้นวิธีแรกในการดูแลรองเท้าก็คือ รู้จักใส่รองเท้าอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เปรอะเปื้อนง่ายๆ อย่างที่เรามักจะเห็นคนรักรองเท้าว่าเค้าจะดูแลรองเท้ามากเป็นพิเศษยามที่สวมใส่ เพราะพยายามให้รองเท้าเปื้อนน้อยที่สุดก็เหมือนเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จะได้ไม่ต้องมาลำบากตอนที่ทำความสะอาด ซึ่งยุ่งยากกว่าเยอะ แต่ก็ต้องดูให้พอดีๆ ด้วยนะ อย่าระวังรองเท้ามากเกินไปจนเสียบุคลิก
2. ใส่ถุงเท้าอยู่เสมอเมื่อใส่รองเท้าผ้าใบ
ที่การใส่ถุงเท้าช่วยดูแลรองเท้าผ้าใบได้ ก็เนื่องจากว่า ถ้าหากเราใส่รองเท้าโดยที่ไม่ใส่ถุงเท้า เท้าของเราก็จะเสียดสีกับตัวรองเท้า และเมื่อการเสียดสีดังกล่าวประกอบกับความอับชื้นในรองเท้าก็จะทำให้เหงื่อและคราบไคลจากเท้าออกมาจำนวนมาก ซึ่งก็จะไปเกาะอยู่ที่ตัวรองเท้าและยากแก่การกำจัดออกไปอย่างง่ายๆ และนอกจากจะทำความสะอาดแล้วยังทำให้เกิดกลิ่นเท้าที่จะทำให้คุณเสียความมั่นใจอีกต่างหาก
3. รู้จักเก็บรองเท้าผ้าใบให้เป็นที่เป็นทาง
เมื่อใส่รองเท้าผ้าใบเสร็จแล้ว ควรที่จะมีการผึ่งลมให้แห้งก่อนสักหนึ่งวัน ไม่ควรเก็บทันที เพราะหลังจากที่ถอดแล้วรองเท้าจะยังมีความอับชื้นอยู่ และควรจะเก็บรองเท้าไว้ในกล่องที่มีรูระบายอากาศเพื่อหลีกเลี่ยงความอับชื้นเช่นกัน ไม่ควรวางรองเท้าผ้าใบทิ้งไว้ข้างนอกเฉยๆ เพราะจะทำให้รองเท้าต้องเผชิญกับฝุ่นจำนวนมากในอากาศ ถ้าหากมีตู้รองเท้าก็ควรเก็บไว้ในตู้
4. ทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบอย่างใจเย็น
วิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้องคือ การใช้แปรงที่มีขนนุ่ม หลีกเลี่ยงแปรงที่แข็ง และจุ่มน้ำสบู่อ่อนๆ ระวังอย่าใช้ผงซักฟอกเข้มข้น แล้วค่อยๆ ถูอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผ้าเสียหาย และระวังไม่ให้โดนบริเวณขอบยาง เพราะจะทำให้กาวมาโดนตัวผ้าซึ่งอาจจะทำให้รองเท้าผ้าใบสีขาวกลายเป็นเหลืองแทนได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในขั้นตอนนี้คือต้องใจเย็นๆ และเอาใจใส่อย่างมาก ค่อยๆ เอาแปรงถูทีละส่วนของรองเท้า และแยกทำความสะอาดทีละสี
5. พารองเท้าผ้าใบไปตากแดด
แนะนำให้ห่อตัวรองเท้าด้วยกระดาษทิชชู่ก่อนที่จะนำไปตาก เพราะว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้รองเท้าเหลืองได้ นอกจากนั้นการตากแดดแรงยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รองเท้าเหลือง ดังนั้นควรจะตากรองเท้าที่แดดอ่อนๆ ไม่แรงมากเพื่อเป็นการป้องกันรองเท้าเหลืองอีกทางหนึ่ง ถ้ากลัวว่าตากแดดไม่แรงพอแล้วจะทำให้รองเท้าเหม็นอับ ก็แนะนำว่าอาจจะต้องใช้เวลาตากหลายวันสักหน่อย ประมาณ 2-3 วันรองเท้าก็จะแห้งสนิทภายใต้แดดที่ไม่แรงมาก
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษา รองเท้าผ้าใบ ก็คือเรื่องของความใจเย็นและใส่ใจรายละเอียดนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรองเท้าผ้าใบสีขาว ซึ่งแม้จะดูสวยงามแต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการดูแลรักษาที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะหากดูแลไม่ดีก็จะเหลือง หรือเปรอะเปื้อนได้อย่างง่ายได้ แต่สำหรับรองเท้าผ้าใบสีดำที่เป็นสีโทนเข้ม แม้จะไม่ต้องกังวลว่าจะเหลือง แต่ก็ต้องระมัดระวังเช่นกันว่าจะไม่ไปปนเปื้อนกับสีอื่นๆ เพราะถ้าหากเกิดเช่นนั้นก็คงจะสะดุดตากันอย่างแรง ซึ่งความใจเย็นและใส่ใจรายละเอียดดังกล่าวอาจจะดูเป็นเรื่องจุกจิกหยุมหยิม แต่ถ้าคุณใส่รองเท้าผ้าใบจนรักและหลงเสน่ห์เข้าเต็มเปาแล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่า ความรักในรองเท้าจะทำให้การใส่ใจเป็นเรื่องง่ายไปเลยล่ะ
CR: pinterest.com by Manuel Meza