ในช่วงที่ผ่านมาเรียกได้ว่าร้าน Pop Mart กระแสแรงมากๆ จากการที่หนี่งในคอลเลคชั่นของร้านอย่างลาบูบู้ [Labubu] ได้รับความนิยมหลังจกาที่น้องลิซ่า อดีตสมาชิกวง Blackpink ได้นำน้องมาถ่ายรูปร่วมด้วยนั่นเองค่ะ
ดังนั้น ในครั้งนี้มาดามอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับ Pop Mart แห่งกันให้มากยิ่งขึ้น ว่าที่นี่ เขามีที่มาที่ไปอย่างไร และที่นี่เขายังมีคอลเลคชั่นอื่นๆ อีกด้วยนะ ซึ่งจะมีคอลเลคชั่นไหนบ้าง ตามมาดามมาดูกันเลยค่ะ
ความเป็นมาของ Pop Mart
เอาล่ะค่ะ! มาดามขอเปิดตัวด้วยเรื่องราวของ Pop Mart กันก่อนเลยว่า เขามีที่มาที่ไปอย่างไร รับรองเลยว่าสั้น กระชับ เข้าใจได้ใน 5 นาทีเท่านั้น
- Pop Mart ได้รับการก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2010 โดยคุณ หวัง หนิง หรือหวาง หนิง [王宁] ซึ่งตอนนั้นอายุเพียงราวๆ 23 ปีเท่านั้น ซึ่งเขาได้ไอเดียนี้จากธุรกิจในประเทศฮ่องกง ที่ขายของไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ชื่อว่า Log-On จึงเกิดความสนใจที่อยากเปิดร้านแนวนี้ จึงได้ถือกำเนิดร้าน “Pop Mart” ขึ้น
- แต่ในช่วงปี 2014 ตัวเขาประสบปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการสต็อก เพราะร้านขายสินค้ามากเกินไป จึงตัดสินใจสำรวจว่าในร้านอะไรขายดีที่สุด ปรากฏว่าสิ่งนั้นคือ อาร์ตทอย [Art Toy] เขาจึงเปลี่ยนธุรกิจให้เน้นขายกล่องสุ่มไปเลย
- เริ่มแรกเขาได้เริ่มเจรจากับ Kenny Wong ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน Art Toy ชื่อว่า “Molly” ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น ณ ตอนนั้น และมีขายเฉพาะที่ Pop Mart เท่านั้น หลังจากนั้น บริษัทก็ร่วมมือกับศิลปินอีกหลายราย เพื่อสร้างสรรค์ผลงานลิขสิทธิ์รุ่นต่าง ๆ รวมไปถึงสตูดิโอ The Walt Disney และ Universal Studios อีก และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้
- สำหรับราคากล่องสุ่มจะอยู่ที่ราวๆ 300 บาท โดยแต่ละคอลเลคชั่น ก็อย่างที่เราทราบกันดี ว่าจะมีทั้งแบบธรรมดา แบบหายาก และแบบจำนวนจำกัดนั่นเอง [Limited] ซึ่งในปี 2023 มียอดขาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,301 ล้านหยวน (12,602 ล้านบาท) เลยทีเดียว และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปอีกด้วย
คอลเลคชั่นที่น่าสะสม 2024
เอาล่ะ! ประวัติของร้าน Pop Mart ก็ได้จบลงไปแล้ว หวังว่าคงจะรู้จักกับร้านกันมากยิ่งขึ้นแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าทางร้านเขามีคอลเลคชั่นไหนน่าสะสมกันบ้าง ตามมาดามมาดูกันเลย
คอลเลคชั่นที่ 1 – Skull Panda
ราคาขายยกแพ็ค [12 กล่อง]: 5,990 บาท*
เป็นคอลเลคชั่นที่รังสรรค์โดยคุณ Xiongmao ศิลปินผู้คลุกคลีและหลงใหลเกี่ยวกับเกมมานานมากกว่า 10 ปี โดยจุดเด่นของคอลเลคชั่นอยู่ตรงตัวละครหญิงสาวหน้าตาสุดน่ารักที่ออกแนวไซเบอร์พังก์ ที่มาจากนอกโลก ที่มีความน่าค้นหาและทรงเสน่ห์ในตัวเอง
คอลเลคชั่นที่ 2 – Zsiga
ราคาขายยกแพ็ค [12 กล่อง]: 4,900 บาท*
คอลเลคชั่นที่ออกแบบโดย Dan ศิลปินสาวชาวฮ่องกง ซึ่งมากับคอนเซปต์ ความน่ารักและความดุร้าย มีจุดเด่นตรงหน้าตาที่ดุดันหน่อย มีหนามบนตัวตัว แต่มีไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่ได้รับความนิยม
คอลเลคชั่นที่ 3 – Dimoo
ราคาขายยกแพ็ค [12 กล่อง]: 5,990 บาท*
เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รังสรรค์โดยศิลปินนามว่า Ayan มีลักษณะเป็นเด็กผู้ชายตัวน้อย ที่มีตากลมโต ผมทรงก้อนเมฆ ที่รู้จักกันในชื่อ Baby Cloud นั่นเอง ที่พร้อมออกไปผจญภัยกับคุณได้ทุกๆ ที่ มีความแฟนซีสุดๆ
คอลเลคชั่นที่ 4 – Molly
ราคาขายยกแพ็ค [12 กล่อง]: 5,490 บาท*
เป็นคอลเลคชั่นระดับตำนานเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้ ป๊อป มาร์ท นั้นมีชื่อเสียง และเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งสร้างสรรค์โดยคุณ Kenny Wong ศิลปินผู้ออกแบบ จุดเด่นคือเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ มีริมฝีปากเป็นเอกลักษณ์พร้อมกับแอ็กชันที่เรียบง่าย ซึ่งเข้าได้กับทุกเพศทุกวัย ถ้าใครอยากเริ่มสะสมแนะนำคอลเลคชั่นนี้เลย
คอลเลคชั่นที่ 5 – Crybaby
ราคาขายยกแพ็ค [12 กล่อง]: 5,990 บาท*
เป็นคอลเลคชั่นที่ทาง Pop Mart จับมือร่วมกับ มด นิสา ศรีคำดี ซึ่งศิลปินไทยคนแรกที่ได้ร่วมออกแบบ จุดเด่นก็คือทุกๆ ตัวจะมีน้ำตาไหลออกมานั่นเอง แต่มีความรู้สึกที่ต่างออกไป ซึ่งทางศิลปินอยากจะสื่อสาร การร้องไห้ไม่สื่อสารถึงความเศร้าโศกเสมอไปนั่นเอง ทำให้กระแสตอบรับดีไปทั่วโลกเลย และเมื่อหลายเดือนก่อนถ้ายังจำกันได้ น้องก็มนิทรรศการของตัวเองอย่าง Crybaby Molly Everybody Cries Sometimes
คอลเลคชั่นที่ 6 – Labubu
ราคาขายยกแพ็ค [6 กล่อง]: 3,300 บาท*
ปิดท้ายกันด้วย Labubu คอลเลคชั่นที่กำลังมาแรงที่สุดในช่วงนี้ ถูกสร้างสรรค์โดย Kasing Lung ศิลปินชาวฮ่องกง โดยจะมีลักษณะคล้ายๆ กับลิง หูยาว หน้าตาทะเล้นหน่อย จึงครองใจใครหลายๆ คนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเจ้าลาบูบู้นี้เคยเป็นกระแสจนกระทั่งสินค้าขาดตลาดกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าดาเมจความน่ารักของน้องนี่อันตรายจริงๆ
*ราคาของคอลเลคชั่นอาจไม่ตรงตามที่ระบุไว้ ขึ้นอยู่กับคอลคชั่น แต่โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่กล่องละ 550-599 บาท และอาจถูกรีเซลในราคาที่สูงกว่านั้น
Extra: คอลเลคชั่นที่แพงที่สุดของ Pop Mart ในไทย
ก่อนจากกันไปมาดามมีของแถมให้กับทุกคน นั่นก็คือ คอลเลคชั่นที่แพงที่สุดของ Pop Mart ในไทยที่เคยถูกบันทึกสถิติเอาไว้นั่นเอง มันก็คือ “Skull panda” โดยเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตเพียง 140 ตัวเท่านั้น โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาท แต่ราคารีเซลทะยานไปถึง 30,000 กว่าบาทเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันมาดามคิดว่าราคาน่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก เพราะในปัจจุบันความต้องการของนักสะสมอาร์ตทอยมีมากขึ้นๆ เรื่อยๆ นั่นเอง
สาขา Pop Mart ในไทย
มาดามเชื่อว่าหลายๆ คนคงสนใจจะไปช้อปปิ้งกันแล้ว มาดามมีสาขาทั้งหมดของ Pop Mart ที่ตั้งอยู่บนเซ็นทรัลของเรามาฝากกัน มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง โดยในตอนนี้จะมีอยู่ 4 ที่ด้วยกัน
1. POP MART สาขา Central World ชั้น 1
ที่อยู่: 388 ถนน ราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 [Map]
โทรศัพท์: 02-000-6132
2. POP MART Central Ladprao ชั้น 2
ที่อยู่: 1693 ถ. พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 [Map]
3. POP MART Central Westgate [ตู้สุ่ม] ชั้น 2 ทางออก MRT
ที่อยู่: 199, 199/1 199/2 ถ. กาญจนาภิเษก ตำบล เสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี 11140 [Map]
4. POP MART เมกาบางนา [เปิดกรกฎาคม 2567]
ที่อยู่: 38, 38/1-3 39 หมู่ที่ 6 ทางคู่ขนาน ถนนบางนา-ตราด ตำบล บางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540 [Map]
นี่ก็คือทั้งหมดที่มาดามนำมาฝากคุณในครั้งนี้ หวังว่าคงจะรู้ Pop Mart และคอลเลคชั่นของทางร้านกันมากขึ้นแล้ว สำหรับใครที่อยากไปช้อปปิ้งกันต่อ สามารถไปช้อปกันได้เลยที่ Central Online แหล่งรวมสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ ที่มีให้คุณเลือกช้อปอย่างหลากหลาย
ขอบคุณภาพ: MGR Online / Shopee / Lazada / thairath / the standard / Nation TV
ขอบคุณข้อมูลจาก: Thairath / Central Pattana / Longtunman