สมัยนี้คนนิยมใส่รองเท้าแบรนด์เนมกันเยอะ โดยเฉพาะ Sneakers หรือรองเท้าผ้าใบ ราคาเท่าไหร่ทุ่มสุดตัว ต้องสืบเสาะเลือกหามาเป็นเจ้าของให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการประมูลมา ซื้อจากร้านที่รับหิ้วมาจากต่างประเทศ คนรู้จักหิ้วมาให้ หรือซื้อออนไลน์จากเว็บไซต์ ได้มาแล้วก็อดชื่นใจไม่ได้ แต่คุณอาจลืมนึกไป หากไม่ได้ซื้อจากร้านค้าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ หรือร้านค้าในห้างฯ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเงินที่เราเสียไปนั้นเราได้จะของจริง!
ไม่ได้พูดให้คุณตระหนกตกใจนะคะ แต่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ วันนี้ Central Inspirer จึงขอยกตัวอย่างการสังเกตรองเท้าผ้าใบชื่อดังบางรุ่นบางแบรนด์ว่าของจริง กับของปลอมนั้นดูกันอย่างไร มาทางนี้เลยค่ะ
รองเท้าผ้าใบ Nike
Credit: www.shecustomize.com
Nike เป็นหนึ่งในรองเท้าผ้าใบยอดนิยมระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาที่คงความทันสมัย และดีไซน์สุดล้ำ แถมยังคอลแลปกับเซเลป และหลายแบรนด์ดังที่แฟน Nike ยังคงฟอลโล่ว และเลือกช้อปกันทุกคอลเลคชั่น Nike ก็เป็นแบรนด์หนึ่งที่มีของเทียมออกมาให้เห็นมากมาย มาจับสังเกตก่อนช้อปกันดีกว่า
6 วิธีสังเกตรองเท้า Nike ว่าจริง หรือเฟค?
1. ตรวจสอบ Size Tag
อันดับแรกในการสังเกตรองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้คือ ดูที่ป้ายบอกขนาดรองเท้าหรือ Size Tag ด้านใน รองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้มีป้ายบอกขนาดตัวหนังสือที่มีความคมชัดมาก มีการเว้นช่องไฟอย่างมีระเบียบและเรียงตัวอักษรอย่างสวยงาม ตัวป้ายมีความมันวาว ในขณะที่ของปลอมจะมีการบิดเบี้ยวของตัวอักษรและใช้เนื้อผ้าที่ไร้คุณภาพ
2. ตรวจสอบสภาพพื้นรองเท้า
พื้นรองเท้าของ Nike จะพิมพ์คำว่า Racing Road อยู่ สำหรับของแท้คำนี้จะถูกพิมพ์ลงบนเนื้อผ้า แต่ของปลอมนั้นตัวอักษรจะดูหลุดลอกได้ง่ายกว่าของแท้อย่างเห็นได้ชัด
3. ความประณีตของการผลิต
รองเท้าของแท้กับของปลอมนั้นสังเกตได้ง่ายๆ จากความประณีตในการผลิต มีหลายจุดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรอยเย็บที่ต้องเท่ากัน เชือกผูกรองเท้าต้องสอดมาครบทุกรู ไม่เว้นข้ามแม้แต่รูเดียว หากเป็นรองเท้าทอ ลายต้องชัดเจน และมีช่องกว้างเท่ากันทุกรู
4. วัสดุที่ใช้ในการผลิต
สำหรับ Nike คุณภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ดังนั้นรองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้จะต้องมีผิวสัมผัสนุ่มและมีสีเป็นธรรมชาติ ของปลอมสีของวัสดุจะดูหลอกตาและสีสดกว่ามาก เพราะใช้หนังปลอมย้อมสีเป็นวัสดุในการผลิต
5. กล่องรองเท้า และข้อมูลที่ข้างกล่องต้องถูกต้อง
รองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้ต้องถูกบรรจุในกล่องที่มีตราของแบรนด์ที่มีความแข็งแรง กระดาษที่ใช้ทำกล่องต้องมีความเรียบด้าน ตัวอักษรเรียงกันเป็นระเบียบ ข้อมูลรองเท้าที่ข้างกล่อง ทั้งขนาดเลข SKU ปีที่ผลิต และแหล่งผลิตก็เป็นส่วนหนึ่งที่บอกได้ว่ารองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้ โดยข้อมูลเหล่านี้ต้องตรงกับป้ายบอกขนาดที่ติดอยู่กับรองเท้า และตรงกับปีที่ผลิต ถ้าไม่ตรงก็บอกได้เลยว่าคุณกำลังจะเสียเงินให้กับของปลอมค่ะ
6. ทดลองใส่
ของหิ้ว ของซื้อออนไลน์ หรือของประมูลก็คงยากหน่อยที่คุณจะได้ทดลองใส่ ของแท้คุณจะต้องใส่สบาย รู้สึกนิ่มพอดีเท้า เดินแล้วไม่เจ็บเพราะ Nike ของจริงจะผลิตจากวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น
Nike รุ่นที่น่าสนใจ
NIKE รองเท้าผ้าใบผู้หญิง Court Royale 2 Next Nature ราคา: | NIKE รองเท้าผ้าใบลำลองผู้หญิง Court Legacy Lift ราคา: 3,200 บาท |
รองเท้าผ้าใบ Adidas รุ่น NMD
Credit: www. jdsports.co.uk
รองเท้าผ้าใบ Adidas รุ่น NMD จัดเป็นรองเท้าผ้าใบรุ่นยอดนิยมไปทั่วโลกสำหรับ Adidas เหมาะกับการใส่เดินสบายๆ สไตล์ลำลอง ถึงอาจจะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดแต่ก็ยังอยู่ในกระแสและความต้องการไม่เสื่อมคลาย เพราะรูปทรงการออกแบบที่ลงตัว และใช้วัตถุดิบในการผลิตขั้นสูง สวมใส่สบาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า Boost และผ้าทอ Primeknit ตัวรองเท้ามาผสมผสานกับกลิ่นอายความคลาสสิคของรองเท้าวิ่ง Adidas ในยุค 80’s
7 วิธีสังเกตรองเท้า Adidas NMD ของแท้
1. สังเกตรูปทรงรองเท้า
อันดับแรกของการสังเกตรองเท้าผ้าใบ Adidas รุ่น NMD คือรูปทรง ทั้งที่ของจริงกับของปลอมอาจมีความใกล้เคียงกันมากก็ตาม แต่ให้ตั้งข้อสังเกตว่ารองเท้าผ้าใบ Adidas ส่วนมากจะมีปลายรองเท้าที่เรียวบาง ปลายเท้าจะเชิดขึ้นมากำลังพอดี ในขณะที่ของปลอมนั้น ทรงรองเท้าจะมีสัดส่วนที่ต่างไป หน้าเท้าจะสั้นกว่า และมีการเชิดที่เตี้ยกว่า สังเกตได้โดยการหันดูด้านข้าง ดูบริเวณพื้นโฟมช่วงปลายเท้า ของปลอมพื้นจะถูกดึงจนหักเป็นมุม ต่างกับของแท้ที่โค้งไปตามรูปทรง และเชิดอย่างสวยงามกว่า
2. ป้ายบอกขนาดรองเท้า
ถ้าเป็นรองเท้ารุ่นอื่นของ Adidas ป้ายบอกขนาด หรือไซส์รองเท้าจะถูกติดไว้ไว้ส่วนใดส่วนหนึ่งของรองเท้า แต่สำหรับ Adidas รุ่น NMD จะมีป้ายบอกไซส์ข้างในด้านข้างของรองเท้า ซึ่งบางรุ่นอาจไม่มี
3. สัมผัสผิวผ้าของตัวรองเท้า
ตัวรองเท้าของ Adidas NMD จะทำจากผ้ายืด Primeknit ที่มีความบาง และยืดหยุ่นสูงมาก เวลาดูว่าเป็นของจริง หรือของปลอม ให้จับที่ตัวเนื้อผ้า ของแท้ตัวเนื้อผ้าจะมีสัมผัสที่ค่อนข้างนุ่มออกไปทางลื่นนิดๆ ในขณะที่ของของปลอมนั้นถึงจะทำออกมาได้ใกล้เคียงมาก จนแทบแยกไม่ออก แต่เนื้อผ้าด้านในของปลอมจะหยาบกว่า เวลาสัมผัสจะรู้สึกถึงความเป็นผ้าสังเคราะห์ชัดเจน
4. ตรวจสอบลาย EVA Plugs
รองเท้า Adidas รุ่น NMD มีจุดเด่นที่โฟมสี่เหลี่ยม EVA Plugs ที่ติดไว้ช่วยรองรับแรงกระแทก และการทรงตัว ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับพื้นรองเท้า EVA Plugs ในรองเท้ารุ่น NMD ของแท้จะมี 3 ชิ้น ด้านนอก 2 ชิ้นและด้านในอีก 1 ชิ้น ของปลอมก็มีจำนวนเท่ากัน ดูเนียนมากเหมือนของแท้ แต่รูปทรงจะบูดเบี้ยวต่างไปนิดหน่อย ตามขอบมีสีไม่เรียบ รูปทรงของ Plugs ก็จะเบี้ยว สังเกตแป๊ปเดียวก็ดูรู้ นอกจากนี้ EVA Plugs สีเทาด้านหน้าจะมีการสกรีนโลโก้ Adidas สีดำ ซึ่งของปลอมก็มี แต่ของปลอมจะปั๊มไม่เรียบร้อย ไม่เอียงไปตามความโค้งของ Plugs ส่วน EVA Plug ด้านหลังจะมีร่องเป็นขีดลึกๆ ในขณะที่ของปลอมร่องจะตื้นกว่า สีสันบริเวณรอยต่อก็ดูไม่เรียบร้อย
5. ผิวและสีของฐานพื้นรองเท้าที่เป็นวัสดุ Boost
พื้นรองเท้าด้านนอกของรุ่น NMD นั้นจะเป็นวัสดุ Boost ทั้งชิ้น ผิวสัมผัสจะเป็นเม็ดกลมขนาดต่างๆ อัดเป็นชิ้นคล้ายแผ่นโฟม เวลากดลงไปตัว Boost จะมีความเด้งแล้วคืนแรงกลับต่างจากโฟมทั่วไป แต่ของปลอมนั้นก๊อปปี้ได้แค่ลายของโฟม กดแล้วไม่เด้ง ให้สัมผัสเหมือนชิ้นโฟมทั่วไป พื้นรองเท้าด้านหน้าจะมีรหัสของรองเท้าอยู่ที่พื้นสีดำทั้งสองข้าง และส่วนพื้นรองเท้าด้านล่างมีการปั๊มร่องลึกเห็นได้อย่างชัดเจน
6. พื้นรองเท้า และการเย็บด้านใน
พื้นด้านในรองเท้าผ้าใบ Adidas รุ่น NMD จะถูงเย็บ ติดกับตัวรองเท้าเลยแกะออกไม่ได้ ลายบนพื้นรองเท้าเป็นลายหกเหลี่ยมสีขาว พร้อมสีอักษร Boost สีดำ
7. สังเกตที่กล่องรองเท้า
รองเท้าของปลอมก็มีกล่องบรรจุภัณฑ์ได้เหมือนของจริง รองเท้าผ้าใบ Adidas รุ่น NMD จะมาในกล่อง Adidas Originals สีน้ำเงินคาดโลโก้สามแถบสีขาว แต่จะมีความพิเศษที่บริเวณด้านข้างของกล่อง บริเวณที่แปะฉลากบอกไซส์ จะมีการทำ UV Spot คำว่า Boost บางๆ เอาไว้ ต้องดูใกล้ๆ หรือสัมผัสถึงจะเห็น ของแท้จะใช้ฉลากแบบมีภาพรองเท้าอยู่บนกล่อง ฉลากปลอมค่อนข้างดูง่ายเพราะพิมพ์ไม่ละเอียด ภาพรองเท้าจะไม่ชัด สุดท้ายเลยคือ ฉลากบอกขนาดรองเท้าจะมีอยู่ 2 แบบคือ เลขไซส์ UK ตัวใหญ่ กับแบบไซส์ UK/US คู่กัน ของปลอมส่วนใหญ่จะปลอมฉลากตัวที่เป็น UK/US เท่านั้น
รองเท้าผ้าใบ Vans
Credit: www.tinytrendsetter.com
เมื่อพูดถึงรองเท้าผ้าสำหรับการใส่เล่นสเก็ตบอร์ด หรือเซิร์ฟสเก็ต แต่นิยมยมมาใส่สบายๆ สไตล์ลำลอง หลายคนต้องนึกถึงรองเท้าผ้าใบ Vans จากอเมริกา ด้วยรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ ลวดลาย และสีสันที่สวยสะดุดตา นับเป็นไอเทมสตรีทแฟชั่นที่ผู้คนหลงไหลไปทั่วโลก ของยิ่งดังคนยิ่มชอบย่อมมีของปลอมออกมาให้เก็นกันมากมาย มาดูกันว่ารองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้ และของเลียนแบบจะสังเกตุดูได้อย่างไร
10 วิธีสังเกตรองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้
1. บาร์โค้ด
จุดแรกที่อยากซื้อรองเท้าผ้าใบ Vans ควรตั้งข้อสังเกตคือ ป้ายบาร์โค้ดข้างกล่อง โดยป้ายที่ถูกต้องจะระบุรายละเอียดชื่อรุ่น ตารางเทียบไซส์ สีรองเท้า รหัสสินค้า และประเทศผู้ผลิตอย่างชัดเจน รวมทั้งสามารถใช้แอปพลิเคชั่นสแกนบาร์โค้ดดูได้ หากปรากฏข้อมูลสินค้าที่ตรงกัน ก็มั่นใจได้ในขั้นต้นว่ารองเท้าผ้าใบ Vans คู่ที่คุณอยากได้อาจเป็นของจริง
2. บรรจุภัณฑ์
กล่องรองเท้า Vans ของแท้ฝากล่องจะมีลิ้นยื่นจากด้านบนสำหรับเสียบในช่องรอยกรีดด้านข้างเพื่อความแน่นหนา และมีช่องสำหรับสอดนิ้วเพื่อให้เปิด–ปิดฝากล่องได้อย่างสะดวก รวมถึงมีสติ๊กเกอร์เล็กๆ พิมพ์รหัส QC Pass และรหัสประเทศที่ผลิตแปะไว้ที่ฝากล่องด้านใน
3. พลาสติกห่อรองเท้า
เมื่อเปิดกล่องออกมา สิ่งแรกที่พบคือ พลาสติกสีขาวพิมพ์โลโก้ Vans ที่ห่อมากับรองเท้าทุกครั้ง ที่สำคัญแผ่นพลาสติกห่อต้องเป็นสีขาวขุ่นจนเกือบทึบ และมีตัวหนังสือระบุว่าผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100 % แตกต่างกับของปลอมที่ไม่มีพลาสติกมาให้ หากมีก็จะเป็นพลาสติกสีขาวใส สามารถมองทะลุได้ทันที
4. น้ำหนัก
โดยปกติรองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้จะมีน้ำหนักอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตามแบบฉบับรองเท้าสำหรับเล่นสเก็ตบอร์ด และเซิร์ฟสเก็ต
5. การเดินตะเข็บ
มาถึงตัวรองเท้า รองเท้าผ้าใบ Vans ส่วนมากมักเดินตะเข็บคู่ขนานกันอย่างเรียบร้อย ไม่โย้เย้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหัวรองเท้าหรือด้านข้างรองเท้า และจะไม่มีการเดินเข็มทับรอยเดิมหรือเดินด้าย 2 เส้นใดๆ ทั้งสิ้น
6. ตำแหน่งโลโก้
โลโก้ที่ตัวรองเท้ามีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ โลโก้ที่ป้ายด้านข้างรองเท้า โลโก้ที่ป้ายยางด้านหลังตรงขอบรองเท้า และโลโก้ที่ปั๊มตรงพื้นรองเท้าด้านใน หากจุดใดจุดหนึ่งหายไปจากนี้รับรองได้เลยว่าคุณเจอปลอมแน่นอน
7. พื้นด้านในรองเท้า
พื้นรองเท้าด้านในของรองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้จะถูกทากาวติดไว้อย่างแข็งแรง โลโก้ที่ปั๊มไว้คมชัด ไม่ซีด สามารถอ่านตัวอักษร R เล็กๆ ที่อยู่ในวงกลมเทรดมาร์คได้อย่างชัดเจน จุดสังเกตสำคัญคือ ตัว V ของโลโก้ที่พื้นรองเท้าทั้งสองข้างต้องหันไปทางซ้ายหรือทางหัวรองเท้าเสมอ ต่างจากของปลอมที่มักปั๊มกลับด้านและไม่คมชัด
8. พื้นด้านใต้รองเท้า
รองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้จะมีพื้นด้านใต้รองเท้าที่มีสี่เหลี่ยมด้านขนานและมีรูปเพชรซ้อนกันอยู่ ให้สังเกตดูว่าจะมีสี่เหลี่ยมด้านขนานข้างหนึ่งที่มีตัวอักษรรหัสประเทศ 3 ตัว และจะต้องประกอบด้วยตัวหนังสือ 3 ตัวที่สอดคล้องกันกับรหัสบนสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ด้านในของกล่องด้วย
9. ลิ้นรองเท้า
รองเท้าผ้าใบ Vans จะสกรีนรายละเอียดรองเท้าทั้งหมดด้วยขนาดเทียบเป็นเซนติเมตร และประเทศที่ผลิตไว้ด้านในลิ้นรองเท้า ลิ้นด้านในมักจะมีสีเดียวกับตัวรองเท้าหรือสีขาว
10. ขอบรองเท้า
ขอบยางในของรองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้จะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดี สามารถงอพับส่วนหัวรองเท้าไปจรดท้ายรองเท้าได้โดยขอบยางไม่ปริออกจากเนื้อผ้า ขอบยางมีความอยู่ทรงและรับแรงกดได้ดี รองเท้าผ้าใบ Vans ของแท้จะมีความแข็ง กดแล้วทรงรองเท้าไม่ยวบเช่นของปลอม
แนะนำรองเท้า Vans รุ่นยอดนิยม
VANS รองเท้าผ้าใบยูนิเซ็กส์ KNU Skool สี Black/True White ราคา: 3,200 บาท | VANS รองเท้าผ้าใบยูนิเซ็กส์ Classic Slip-On สี Festival Dream ราคา: 2,600 บาท |
รองเท้าผ้าใบ Converse
Credit: www.asos.com
Converse เป็นรองเท้าผ้าใบอีกแบรนด์ที่ยอดนิยมที่สุดโดยเฉพาะกับวัยรุ่นไทย ไม่มีใครไม่มีรองเท้าผ้าใบ Converse ใส่อย่างน้อยหนึ่งคู่แน่นอน และ Converse ก็เป็นรองเท้าที่ถูกก๊อปปี้มากที่สุด คุณสามารถหารองเท้ารูปทรงคล้ายรองเท้าผ้าใบ Converse แต่ราคาหลักร้อยใส่ได้ทั่วไป แต่มันไม่ใช่ของแท้นะคะ!
7 วิธีดูให้ดีว่าใช่รองเท้าผ้าใบ Converse คู่แท้หรือไม่?
1. สังเกตขีดคิ้วตรงหัวรองเท้าและทรงหัวรองเท้า
หัวรองเท้าผ้าใบ Converse ของแท้จะมีขีดขอบรอบรองเท้า โดยเฉพาะบริเวณหัวรองเท้าจะมีขีดคิ้วที่เนี๊ยบมากลากเส้นไปตลอดรูปทรงของรองเท้าอย่างชัดเจน ไม่มีเส้นขาด ในขณะที่ของเลียนแบบจะมีเส้นขาดๆ เกินๆ บิดเบี้ยวไม่ได้รูป บริเวณหัวรองเท้าก็ดูป่องกว่าไม่เรียวเหมือนของจริง
2. สังเกตป้าย Converse หน้ารองเท้า
ป้าย Converse ที่ติดอยู่บนลิ้นด้านหน้ารองเท้าถือเป็นเอกลักษณ์ของรองเท้าผ้าใบ Converse โดยรองเท้าของแท้จะสังเกตได้โดยการสัมผัสว่าป้ายนั้นจะนูน ฝีเย็บโดยรอบของป้ายจะถี่และละเอียดกว่าของปลอม โลโก้ต้องดูชัดเจน เรียงตัวสวย
3. โลโก้ดาว และชื่อรุ่นหลังส้น
โลโก้บริเวณหลังส้นรองเท้าคืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ของรองเท้าผ้าใบ Converse โลโก้ต้องมีความสมมาตรอยู่บริเวณกึ่งกลางของกรอบสี่เหลี่ยม ส่วนรองเท้าของปลอมโลโก้จะดูไม่ชัด การวางต่ำแหน่งจะเหลื่อมลงมาที่กรอบด้านล่าง
4. ขอบยางส้นรองเท้า
รองเท้าผ้าใบ Converse แต่ละรุ่นจะมีขอบส้นรองเท้าที่แตกต่างกัน เช่น รุ่น Chuck Taylor จะมีช่วงเว้นขาวตะเข็บยางบริเวณส้นรองเท้าประมาณ 1 นิ้ว ตัวสันส้นขอบนูนนคมชัด ป้ายยาง All Star จะมีขนาดพอดีไม่ชนเส้นขอบ ถ้าแตกต่างไปสงสัยไว้ก่อนว่าจะไม่ใช่ของจริง
5. แผ่นรองเท้าด้านใน
แผ่นรองเท้าด้านในของ Converse จะผลิตจากยางที่มีคุณภาพ ลองใช้เล็บกดดู แผ่นยางจะคืนตัวกลับเข้ารูป ในขณะที่รองเท้าทำเลียนแบบจะแข็งโป๊ก ส่วนคำว่า Converse บริเวณพื้นในรองเท้าของจริงจะต้องคมชัด ใส่นานเท่าไหร่ต้องไม่เลือนหายไปง่ายๆ
6. Tag รองเท้า
ลองสังเกต Tag หรือป้ายกระดาษที่ห้อยมากับรองเท้า ของจริงจะต้องดูชัดเจน พิมพ์บนกระดาษคุณภาพ มีข้อมูลของรองเท้าอย่างละเอียดทั้งขนาด คุณสมบัติ และประเทศผู้ผลิต ที่สำคัญ ข้อมูลบน Tag ต้องตรงกับข้อมูลบนกล่องรองเท้าด้วย
7. บรรจุภัณฑ์
รองเท้าผ้าใบ Converse ของแท้ต้องมาในกล่องที่ให้ข้อมูลบริเวณข้างกล่องที่ตรงกับข้อมูลที่อยู่บน Tag และใต้ลิ้นรองเท้า มีข้อมูลของขนาด และประเทศผู้ผลิตที่ตรงกัน พิมพ์อย่างชัดเจนไม่เลอะเลือนเหมือนของปลอม
แนะนำรองเท้าผ้าใบ Converse สุดคลาสสิค
CONVERSE รองเท้าผ้าใบยูนิเซ็กส์ Run Star Legacy Cx Seasonal Color Hi สี Grey Area/Egret/Black ราคา: 3,900 บาท | CONVERSE รองเท้าผ้าใบผู้ชาย CTAS Malden Street Seasonal Color Leather Ox สี Black/White/Black ราคา: 2,400 บาท |
รองเท้าผ้าใบ Gucci Ace
Credit: www.gucci.com
รองเท้าผ้าใบ Gucci Ace เป็นอีกรุ่นของแฟชั่นแบรนด์ระดับ High End จากอิตาลีที่คนรักแฟชั่นต้องมีไว้ใส่ รองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนจะมาในรูปแบบผ้าใบข้อสั้นปกติ แต่ตัวรองเท้าจะเป็นหนังหุ้มทั้งหมด โดยที่ด้านข้างจะถูกปักเป็นลวดลายต่างๆ แต่จะไม่ทิ้งสีเขียวและแดงประจำตัวของแบรนด์ รองเท้าผ้าใบ Gucci Ace มีของปลอมที่ถูกทำออกมาเลียนแบบมากมาย ลองมาดูกันว่าสังเกตอย่างไรว่าคู่ไหนของแท้ และคู่ไหนของเทียม
6 วิธีดูรองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ของแท้
1. พื้นรองเท้า
สำหรับรองเท้าผ้าใบ Gucci Ace พื้นรองเท้าด้านในควรเป็นสีน้ำตาลและพิมพ์ลาย Gucci คลาสสิค รองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ของปลอมจะทำสีโลโก้บนพื้นรองเท้าผิดโดยใช้สีดำ แทนที่จะเป็นสีน้ำตาล และตัวหนังสือต้องเรียงกันอย่างมีระเบียบและชัดเจน
2. คำว่า Gucci ด้านหลัง
สังเกตคำว่า Gucci ที่ด้านหลังของรองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ของจริงจะดูเหมือนถูกเย็บอย่างประณีตเรียบสนิทเข้ากับตัวรองเท้า ในขณะที่รองเท้าเลียนแบบจะเป็นลายพิมพ์เรียบๆ เหมือนติดกาว และสามารถลอกออกได้ง่าย
3. พื้นรองเท้าด้านใน
ลองสังเกตได้ง่ายๆ สำหรับรองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ว่าจริงหรือปลอม ลองดูที่พื้นรองเท้าชั้นในซึ่งเป็นพื้นผิวที่เท้าจะสัมผัสอยู่ภายในรองเท้า ต้องมีลวดลาย Gucci ปั๊มอยู่ทั้งหมดตลอดพื้นผิว หากลวดลาย Gucci หายไป มีไม่รอบ รองเท้าคู่นี้ไม่น่าจะใช่ของจริงค่ะ
4. แพทช์ด้านข้างของรองเท้า
อีกวิธีจับสังเกตรองเท้าผ้าใบ Gucci Ace ที่คุณกำลังอยากได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ ให้ดูที่แพทช์ด้านข้างรองเท้า ยกตัวอย่างคู่ที่ปักรูปผึ้ง การวางตำแหน่งของผึ้งสำหรับของแท้ ตัวผึ้งจะมีความห่างจากพื้นรองเท้าไม่มาก ในขณะที่ของปลอมจะมีความห่างจากพื้นรองเท้ามาก ไม่มีความบาลานซ์
5. สังเกตตัวเลขด้านในรองเท้า
ตัวเลขด้านในรองเท้าสำหรับของจริงนั้นจะแสดงให้เห็นขนาดของรองเท้า ซึ่งควรตรวจสอบให้ตรงกับกับขนาดรองเท้าที่ปรากฏอยู่ที่บริเวณกล่อง หรือจุดอื่น และตัวอักษรต้องไม่เป็นสีทองนะคะ
6. กล่องรองเท้า
บรรจุภัณฑ์นี่ก็สำคัญค่ะ เหมือนกับรองเท้าผ้าใบของแท้ทุกๆ แบรนด์กล่องต้องผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพ มีการพิมพ์รายละเอียกเกี่ยวกับรองเท้าที่คมชัด ตัวหนังสือไม่บิดเบี้ยว หรือลบเลือน ในกล่องต้องมีซองเอกสารกำกับ พร้อมมีถุงใส่รองเท้ามาให้ด้วย
เรียบร้อยสำหรับการตั้งข้อสังเกตุรองเท้า 5 แบรนด์ดังรุ่นยอดนิยม และรุ่นต่างๆ ที่คนรักรองเท้าควรทราบไว้ หากคุณอยากเป็นเจ้าของรองเท้าผ้าใบแบรนด์เนมเหล่านี้ อยากสั่งออนไลน์ก็ควรเลือกสั่งผ่านเว็ปไซส์ที่เป็นทางการอย่าง Central Online หรือไม่ก็ผ่านร้านที่เป็น Authorized Dealer คุณจะได้ไม่ผิดหวังค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.punpro.com / https://www.priceza.com / https://noticiarmoz.com / https://mobile.facebook.com/Onitsukatigerclubs / https://today.line.me