สวัสดีค่ะ…..เพื่อนๆ พบกับมาดามและสาระดีๆ อีกเช่นเคยนะคะ วันนี้มาดามจะพาเพื่อนๆ ไปส่องเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่นกัน เคยได้ยินคำว่า “Genderless Fashion” กันไหมคะ? มาดามขอเดาว่าน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่เพื่อนๆ เคยรู้กันหรือเปล่าว่านี้จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่นะ เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย……
What is Genderless Fashion?
มาดามขอเริ่มเล่าจากคำว่า Genderless Fashion กันก่อนเลยนะคะ ว่า คำๆ นี้หมายความว่ายังไง ถ้าจะให้มาดามเล่าให้ฟังอย่างง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถเข้าใจได้ทันทีนั่นก็คงเป็น“แฟชั่นที่ไม่มีเรื่องเพศมาตีกรอบ” นั่นเอง หรือเรียกได้ว่า “สวย หล่อ เริ่ด เชิ่ด ปัง!” ได้ในแบบของตัวเอง ไม่ต้องฟังเสียงคำวิจารณ์ของใครๆ นั่นเอง
พอเมาท์แบบนี้แล้ว เพื่อนๆ น่าจะมีคำถามต่อแน่ๆ ว่า “กรอบที่ว่านี่มันจากไหนกันนะ?” ถ้าเอาใกล้ตัวของเรามากที่สุด ก็ให้ลองนึกไปถึงวัยเด็กของเพื่อนๆ ที่น่าจะได้รับคำสอนจากคนในบ้านว่า ผู้ชายต้องแต่งตัวแบบนี้นะถึงจะเรียกว่าหล่อ ผู้หญิงต้องสวมด้วยชุดนี้นะถึงจะสวยนั่นเอง ถ้าใครแต่งตัวแตกต่างไปจากนี้ก็จะโดนมองว่าแปลกนั่นเอง
แต่ถ้าจะให้เอาไกลตัวและดูเป็น History หน่อยๆ มาดามจะขอเล่าย้อนไปในยุควิคตอเรียของแดนผู้ดี (ค.ศ. 1837 ถึงปี ค.ศ. 1901) ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของแฟชั่นที่มีเพศเป็นกำหนดเลยก็ว่าได้ เพราะสมัยนั้นสังคมของเขาได้ตีตรา สร้างภาพ ของแต่ละเพศเอาไว้อย่างชัดเจน ตามนี้เลย
- ผู้ชาย – เป็นเพศที่ต้องการความคล่องแคล่วเพราะต้องออกไปทำงานข้างนอกบ่อยๆ
- ผู้หญิง – เป็นเพศที่มีความเป็นระเบียบ อยู่บ้าน และไม่ต้องออกไปไหน
ด้วยเหตุนี้ล่ะ ทำให้ผู้ชายจึงเป็นผู้ถูกเลือกให้สวมกางเกงที่มีความคล่องแคล่ว และผู้หญิงจึงได้สิทธิในการสวมกระโปรงที่คล่องตัวน้อยกว่า เพราะไม่ต้องออกไปไหนมาไหนนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวเหล่านั้นก็เป็นแค่เรื่องในวันวานที่จบไปแล้ว เพราะการมาถึงของ Genderless Fashion ในปัจจุบันนั่นเอง ที่ขอเพียงเพื่อนๆ “มั่นใจ” ที่จะสวมเสื้อผ้าเหล่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องตีกรอบตัวเองตามขนบธรรมเนียมเดิมอีกต่อไป
Origins of Genderless Fashion
รู้จัก Genderless Fashion กันไปแล้ว ทีนี้มาดามจะเมาท์ให้ฟังต่อว่าคำๆ นี้มันเกิดขึ้นมาจากที่ไหนกันนะ ใครเป็นคนคิดขึ้นมา โดยมาดามไปตามสืบมาให้เพื่อนๆ แล้วพบว่า Genderless Fashion นั้นมีมานานมากๆๆ แล้ว ต้องย้อนกลับไปในสมัยต้นศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว ที่นักออกแบบสาวสุดสตรองอย่าง Coco Chanel ได้ผุดไอเดียในการนำเอาแนวเสื้อผ้าจากตู้เสื้อของผู้ชายมาใช้ออกแบบเสื้อผ้าให้คุณผู้หญิงนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการบุกเบิกวงการ Genderless Fashion เลยทีเดียว
ทีนี้มาดามขอตัดมาในปีในปี 2018 เลย ที่คำว่า Genderless Fashion ได้เผยโฉมให้หลายๆ คนเห็นอีกครั้งที่ญี่ปุ่นนั่นเอง โดยเหล่าวัยรุ่นในตอนนั้นได้ตั้งคำถามว่า “ทำไมผู้ชายต้องใส่ชุดแบบนี้ ผู้หญิงต้องใส่ชุดแบบนั้น?” ตั้งแต่นั้นมาที่ญี่ปุ่นก็มีอิสระในการแต่งตัวมากขึ้น สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้เต็มที่โดยไม่ต้องสนใจขนบธรรมเนียมที่มีมานาน เรียกได้ว่าใครอยากสวมชุดไหน ก็ทำได้เลย ไม่ต้องแคร์สื่อ!!
ต่อมาที่มาดามจะเล่าเกิดขึ้นในปี 2020 เพราะในปีนี้มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่อง Genderless Fashion นั่นก็คือนิตยสาร Vogue ได้เลือกนักร้องชื่อดังอย่าง Harry Styles มาสวมเดรส Gucci เป็นรูปภาพปกนั่นเอง ซึ่งฮีน่ารักมากนะ ขอบอก!! แต่ในตอนนั้นได้รับคำวิจารณ์ที่รุนแรงมากๆ อย่างการบอกว่า Harry Styles ทำตัวไม่สมเป็นชายบ้างล่ะ ไม่แมนบ้างล่ะ แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่ชื่นชอบกับไอเดียนี้ ก็บอกว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกับการทลายกรอบความคิดเดิมในเรื่องแฟชั่น แต่อย่าเข้าใจผิดกันนะว่า Styles เป็นคนแรกที่ทำอะไรแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ฮี David Bowie และ Kirt Cobain ต่างก็เคยสวมกระโปรงและเดรสขึ้นแสดงคอนเสิร์ตมาแล้วเช่นเดียวกัน
ซึ่งทั้งหมดนี่ก็เป็นที่มาของคำว่า Genderless Fashion นั่นเอง และและเป็นแรงบันดาลใจให้เราหยิบไอเทมแฟชั่นมามิกซ์แอนด์แมชต์ตามสไตล์ของเราเอง
BREAK THE MOLD – แฟชั่นไอเท็มที่ถูกคัดสรรจากสไตล์ลิสท์เพื่อคุณ
ทาง Central App เองก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณสามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างเต็มที่กับแคมเปญ Break The Mold ที่ให้สไตล์ลิสท์ชื่อดังจัดมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าจากแบรนด์ดังต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียให้คุณคัดสรรกัน สามารถคลิ้กที่ปุ่ม Shop Now ข้างต้นแล้วไปส่องกันได้เลยตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2566
นี่ก็คือสาระดีๆ ที่มาดามนำมาฝากคุณในวันนี้ หวังว่าคงพอจะเข้าใจเรื่องราวของ Genderless Fashion กันมากขึ้นแล้ว สำหรับใครที่อยากไปช้อปปิ้งกันต่อ สามารถไปช้อปกันได้เลยที่ Central Online แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยมที่มีให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย
ขอบคุณข้อมูลจาก: thefashionstarter, the1today, mover, kiji | ขอบคุณภาพจาก: BAZAAR, TUIT, DAVID BOWIE, DAZED