หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘ดวงตา เป็นหน้าต่างของดวงใจ’ ไม่ว่าคนเราจะมีอารมณ์อย่างไร ดวงตาและแววตานั้นจะเป็นอวัยวะที่บ่งบอกความรู้สึก ไม่น่าแปลกใจที่สาวส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการตกแต่ง และดูแลดวงตาให้ดูดใส เปล่งประกายงดงาม
ขนตา เป็นอวัยวะที่ช่วยทำให้ดวงตาของเราดูงดงาม น่ามอง โดยปกติหากเราปล่อยขนตาไว้ตามธรรมชาติ ขนตาของเราอาจจะดูสั้นๆ หรือบางคนก็มีขนตาขึ้นหรอมแหรม นั่นเป็นเหตุผลว่าสาวๆ นิยมเสริมความงามให้กับขนตาด้วยการต่อขนตาเพื่อให้มีความหนา และยาวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการต่อขนตาแบบถาวร หรือใส่ขนตาปลอมแบบถอดทิ้งภายในวันเดียว
และเมื่อพูดเรื่องการต่อขนตา Central Inspirer อยากชวนสาวๆ ที่มีขนตาสั้น หรือกำลังคิดจะไปต่อขนตาถาวรมาดูกันว่าการต่อขนตาถาวรคืออะไร มีกี่แบบ และการต่อขนตากับการปล่อยขนตาตามธรรมชาติ วิธีไหนดีกว่ากัน ไปดูกันเลยค่ะ
การต่อขนตาคืออะไร?
การต่อขนตา หรือ Eyelash Extensions คือ การนำขนตาปลอมไปติดที่ขนตาจริงแต่ละเส้น หรือติดทีละช่อ ซึ่งจะทำให้มีขนตาที่หนาและยาวมากขึ้น ความหนาบาง หรือขนาดความยาวจะขึ้นอยู่กับรูปแบบขนตาที่แต่ละคนชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมชาติ หรือจัดเต็มฟูหนาสไตล์สายฝรั่ง การต่อขนตานั้นเหมาะสำหรับสาวที่มีขนตาน้อย หรือขนตาสั้น อยากมีขนตายาวเพื่อจะได้ทามาสคาร่าแล้วดวงตาจะดูโดดเด่นและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
การต่อขนตามีกี่แบบ
โดยปกติ การต่อขนตานั้นมีด้วยกัน 4 แบบ ดังต่อไปนี้
1. แบบคลาสสิก (Classic)
เป็นการต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้นคือ ขนตาจริง 1 เส้น ต่อขนตาปลอม 1 เส้น รูปแบบของการต่อขนตาแบบคลาสสิกจะช่วยให้ขนตาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
2. แบบ 2 มิติ (2 Dimension-2D)
การต่อขนตาแบบนี้เป็นการต่อขนตาแบบขนตาจริง 1 เส้น ต่อขนตาปลอม 1 ช่อ (มี 2 เส้น) วิธีการต่อขนตาแบบ 2D นี้จะทำให้ได้ขนตาที่ยังดูมีความเป็นธรรมชาติ แต่จะดูหนากว่าแบบ คลาสสิก
3. แบบวอลลุ่ม (Volume)
การต่อขนตาแบบวอลลุ่มเป็นการต่อขนตาจริง 1 เส้น ต่อขนตาปลอม 1 ช่อใหญ่ (ประมาณ 3-5 เส้น) สำหรับการต่อขนตาแบบวอลลุ่มนี้จะช่วยให้ขนตาดูหนา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคแน่นๆ แบบจัดเต็ม ทำให้ดูเซ็กซี่เร้าใจ
4. แบบไฮบริด (Hybrid)
การต่อขนตาแบบไฮบริดนี้เป็นการต่อขนตาแบบผสมผสานระหว่างแบบคลาสสิกและแบบวอลลุ่ม โดยต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น สลับกับการต่อขนตาแบบช่อ ช่วยให้ดวงตาดูคมชัด และดูมีมิติมากขึ้น
ข้อดีและข้อเสียในการต่อขนตา
การต่อขนตามีทั้งข้อดีและข้อเสีย มาดูกันว่ามีอะไรบ้างก่อนตัดสินใจไปต่อขนตา
ข้อดีของการต่อขนตา :
1. ช่วยทุ่นเวลาในการแต่งหน้า
การต่อขนตาช่วยทุ่นเวลาในการแต่งหน้าได้ถึง 10-20 นาที ลองนึกดูว่า หากคุณมีขนตาตามธรรมชาติ กว่าจะดัดขนตา กว่าจะปัดมาสคาร่า กว่าจะแน่ใจว่าไม่ติดกันเป็นก้อน นี่ไม่นับการรอให้แห้ง หรือการทำความสะอาดมาสคาร่าที่อาจเปรอะเปื้อนอีก ดังนั้น การต่อขนตานั้นช่วยทุ่นเวลาในการแต่งหน้าได้เยอะ แถมยังช่วยให้ดวงตาของคุณดูโดดเด่นแม้นคุณเลือกแต่งตาเพียงเล็กน้อย
2. ขนตาปลอมช่วยกันสิ่งสกปรกเข้าตา
เมื่อเทียบกับขนตาตามธรรมชาติ ขนตาปลอมที่ยาวและหนามากขึ้นสามารถช่วยกรองและป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าสู่ดวงตาได้ดีกว่าขนตาตามธรรมชาติที่สั้นหรือบาง
3. ช่วยให้แต่งหน้าได้ง่าย
การต่อขนตานั้นช่วยทำให้ดวงตาของคุณดูโดดเด่น มีเสน่ห์และน่ามอง แถมยังช่วยบดบังปัญหาขอบตาดำคล้ำหรือถุงใต้ตาไปได้ การต่อขนตายังทำให้คุณแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเมคอัพ หรือแต่งตามากมายก็สามารถดูสวย น่ามองได้ด้วยการมีขนตายาว และดกหนา
4. ช่วยลดขั้นตอนในการทำความสะอาด
เมื่อการต่อขนตาให้ดูหนาและยาวขึ้น ช่วยให้ดวงตากลมโต ดูโด่นเด่นมากขึ้น นั้นก็สามารถช่วยให้คุณลดขั้นตอนในการแต่งตา หรือแทบจะไม่ต้องแต่งตาให้เข้มจัด ดังนั้น เมื่อถึงเวลาทำความสะอาด คุณก็แทบจะสามารถลดขั้นตอนการทำความสะอาดเมคอัพบริเวณดวงตาไปได้เลยค่ะ
5. หายห่วงเรื่องขนตาร่วง
หากคุณเลือกการต่อขนตาถาวรจากซาลอนต่อขนตาคุณภาพ คุณก็หายห่วงเรื่องขนตาจะหลุดระหว่างวันเหมือนการติดขนตาปลอม เพราะการต่อขนตาช่วยให้ขนตาปลอมติดทนนาน และไม่หลุดร่วงง่าย
6. ดูเป็นธรรมชาติ
การต่อขนตาปลอดมไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน ย่อมได้ขนตาที่ดูดกหนา และยาวขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ เพราะติดลงไปทีละช่อ ทีละเส้น จนกลมกลืนไปกับขนตาจริง แถมติดแน่นทนนานได้มากกว่าการติดขนตาปลอม
7. ไม่ต้องติดหรือเอาออกทุกวัน
การต่อขนตานั้นดีว่าการติดขนตาปลอมอย่างแน่นอน นอกจากดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลาติดหรือแออกทุกวัน ต่อขนตาครั้งเดียว หากคุณระมัดระวัง สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนทีเดียว
ข้อเสียของการต่อขนตา :
1. รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
สำหรับมือใหม่เพิ่งไปต่อขนตา อาจมีความรู้สึกหนักๆ ไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งหากคุณเจอช่างต่อขนตาที่ไม่มีความชำนาญ หรือไม่ใช่มืออาชีพด้วยแล้ว อาจทำให้รู้สึกว่าขนตาตก สร้างความรำคาญและรบกวนสายตาตลอดเวลา
2. หากไม่ระวัง ขนตาอาจหลุดง่าย!
ถึงแม้จะไปต่อขนตากับช่างมืออาชีพชื่อดัง หากคุณเป็นคนไม่มีความระมัดระวัง ชอบขยี้ตาอยู่บ่อยๆ อายุกการใช้งานของขนตาที่ไปต่อก็จะสั้นลง แถมหากคุณเผลอขยี้ตาหรือดึงขนตาแรงๆ อาจทำให้ขนตาจริงหลุดร่วงตามไปด้วย
3. เจอช่างและผลิตภัณฑ์ไม่ดี
การที่คุณโชคร้ายไปเจอช่างต่อขนตาที่ขาดประสบการณ์แถมใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ดี มันก็จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทำให้คุณไม่ประทับใจ และอาจขยาดการต่อขนตาไปเลยก็ได้ ที่สำคัญ หากผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองดวงตาได้ค่ะ
4. ถอดออกยาก
หลายคนที่ต่อขนตา เมื่อขนตาที่ต่อหลุดล่วง คุณอาจอยากถอดขนตาปลอมออกด้วยตัวเอง บอกเลยว่าการถอดขนตาที่ต่อนั้นค่อนข้างยาก ต้องใช้น้ำยาเฉพาะ หรือค่อยๆ หาวิธีทำให้กาวอ่อนตัวและหลุดออก เพราะกาวค่อนข้างแน่น แถมอาจทำให้เสียขนตาจริงไปบางส่วน ที่อาจจะร่วงติดไปกับขนตาปลอม
5. ต่อขนตาเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ขนตาจริงร่วง
อันที่จริงการต่อขนตาต่อให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเช่นไรก็สามารถทำร้ายขนตาจริงของคุณได้ การต่อขนตาไม่ว่าจะเป็นเส้น หรือเป็นช่อจะทำให้การผลัดขนตา หรือการขึ้นใหม่ของขนตาจริงถูกรบกวน ทำให้ขนตาจริงขึ้นใหม่ได้ยากค่ะ
6. การต่อขนตาอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
ไม่ว่าคุณจะเลือกซาลอนต่อขนตาที่ชื่อดังแค่ไหน การต่อขนตามีขั้นตอนและต้องใช้อุปกรณ์ที่นำมาใกล้ดวงตาของเราสุดๆ และหาเครื่องมือไม่สะอาด อาจทำให้ดวงตาติดเชื้อโรคได้ง่าย และอาจทำให้เป็นโรคตาแดง หรือ Conjunctivitis แม้แต่กาวที่ต่อขนตายังสามารถก่อให้เกิดผื่นคันบริเวณรอบดวงตาได้
การปล่อยขนตาให้ยาวตามธรรมชาติ
การปล่อยขนตาให้ยาวตามธรรมชาตินั้น ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นการที่เราไม่ต้องไปเสริมเติมแต่งอะไรกับขนตาที่เรามีมาตามธรรมชาติ ไม่ว่าเราจะมีขนตาสั้น ไม่ดกดำ หรือมีขนตากระหรอมกระแหรม นอกจากการดัดขนตาให้งอนงาม หรือปัดมาสคาร่าให้ขนตาและดวงตาดูคมชัดขึ้น ซึ่งเป็นการเมคอัพที่สามารถล้างออกได้ และให้เรากลับมามี Natural Look แบบเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม
ข้อดีและข้อเสียในการปล่อยขนตาให้ยาวตามธรรมชาติ
การปล่อยขนตาให้ยาวตามธรรมชาติมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มาดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ
ข้อดีในการปล่อยขนตาให้ยาวตามธรรมชาติ :
1. มอบความเป็นธรรมชาติอย่างที่สุด
การปล่อยให้ขนตายาว หรือสั้นอย่างเป็นธรรมชาตินั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะมีขนตาสั้น ยาว หนา หรือบางแค่ไหน การปล่อยให้เป็นธรรมชาติจะทำให้ลุคของคุณดูเป็นธรรมชาติได้มากที่สุด อาจแต่งเติมเพิ่มความดกดำเล็กน้อยด้วยมาสคาร่าคุณภาพ
2. ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา
ถึงขนตาตามธรรมชาติของคุณจะบาง หรือมีเส้นสั้น แต่อย่างน้อยก็เป็นขนตาจริงที่ป้องกันดวงตาของคุณจากฝุ่นละออง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในการต่อขนตา ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ และระคายเคืองได้
3. ขนตาจริงจะไม่หลุดร่วงง่าย
เมื่อเรารู้สึกระคายเคืองดวงตา เรามักขยี้ตาซึ่งอาจทำให้ขนตาหลุดร่วงได้บ้างแต่น้อยกว่าสาวๆ ที่ต่อขนตา เพราะสารเคมีจากกาวต่อขนตาอาจทำให้ขนตาไม่แข็งแรง หลุดร่วงได้มากกว่าการมีขนตาจริงตามธรรมชาติ
ข้อเสียในการปล่อยขนตาให้เป็นธรรมชาติ :
1. ต้องแต่งหน้าแต่งตามากกว่าปกติ
การมีขนตาแบบธรรมชาติทำให้สาวๆ อาจต้องเพิ่มขั้นตอนการแต่งตามากขึ้น เช่นต้องดัดขนตา ต้องปัดมาสคาร่าเข้มๆ ต้องดูให้ไม่ให้มาสคาร่าจับตัวเป็นก้อน ต้องรอให้แห้ง แถมยังต้องแต่งเติมสีสันบริเวณดวงตาให้คมชัดกว่าการต่อขนตา
2. เสียเวลาในการลบเครื่องสำอาง
ดวงตา เป็นอีกจุกหนึ่งบนใบหน้าที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน และต้องอาศัยเวลาในการแต่งเพื่อให้ดวงตากลมโต ดูโดดเด่น งดงามน่ามอง เมื่อต้องใช้เวลาแต่งตานานเท่าไร การลบเครื่องสำอางบริเวณดวงตาก็ต้องอาศัยเวลามากเท่านั้น อีกทั้งหากไม่ระมัดระวัง ลบเครื่องสำอางบริเวณดวงตาแรงเกินไป อาจทำให้ขนตาหลุดร่วง และทำให้ความสกปรกเข้าตาจนดวงตาอักเสบได้
3. ฝุ่นละออกอาจเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย
ขนตาเป็นปราการชั้นดีในการกรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกในอากาศเข้าสู่ดวงตา หากขนตาตามธรรมชาติของคุณสั้น บาง มีความกระหรอมกระแหรม สิ่งสกปรกอาจเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย ต้องล้างตากันบ่อยๆ
การต่อขนตากับปล่อยตามธรรมธรรมชาติ แบบไหนดีกว่ากัน?
การต่อขนตาหรือการปล่อยขนตาให้ยาวเป็นธรรมชาตินั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แต่จากข้อมูลข้างต้นแล้ว ขอสรุปว่า
“การต่อขนตาเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”
โดยสาเหตุหลักๆ ที่ Central Inspirer ให้การต่อขนตาชนะไฟต์ในครั้งนี้ไป ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้
- สะดวก – ใช่แล้วสวยได้ง่ายๆ!! มันสะดวก อย่างในเวลาที่ต้องเร่งรีบ เพราะไม่ต้องเสียเวลาตัด แต่ง หรือดัดขนตา ในทุกๆ วัน เรียกได้ว่าตื่นมาขนตาก็ปังเลย ไม่ต้องเหนื่อยล้าไปกับการลบมาสคาร่าที่ขนตา หรือเวลาที่กลับเข้าบ้านแล้วต้องมาคอยลบเครื่องสำอางที่ขนตาทุกวันนั้น ไม่ไหวแน่ๆ จริงไหม!? สาวๆ
- มีอิสระมากกว่า – การต่อขนตานั้นเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอายาวเอาสั้นขนาดไหน ทำให้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าทำแล้วจะคุ้มไหม หรือทำไปแล้วต้องรอเวลาให้มันยาว ถ้าเบื่อขนตาที่ต่อมาก็แค่เปลี่ยนทรงใหม่ไปเลยเป็นอันจบเรื่อง ซึ่งจะต่างจากการไว้ขนตาให้ยาวตามธรรมชาติ ที่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า หรือต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน เพราะขนตาไม่ได้ยาวขึ้นมาง่ายๆ นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าการต่อขนตาจะดีกว่าการไว้ตามธรรมชาติ แต่ก็ต้องระวังเรื่อง “ดวงตาติดเชื้อ” ด้วย ดังนั้น ต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมากในการเลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ไปได้ รับรองได้ว่าถ้าได้ต่อขนตาครั้งหนึ่งแล้วจะออกจากวงการนี้ไม่ได้อีกเลย Central Inspirer คอนเฟิร์ม!!
สำหรับสาวที่รักจะไว้ขนตาไปตามธรรมชาติไม่อยากต่อเติมอะไร เพื่อเพิ่มความงามของดวงตา Central Inspirer แนะนำมาสคาร่า และที่ดัดขนตาที่สามารถช่วยให้สาวที่ไม่อยากต่อขนตามีดวงตาที่สวยคมจัดไม่ต่างจากสาวๆ ที่ไปต่อขนตา ตามมาดูกันเลยค่ะ
มาสคาร่า & ที่ดัดขนตาจาก Central App
SUQQU ที่ดัดขนตา Eyelash Curler ราคา: 800 บาท | CHANEL LE RECOURBE CILS DE CHANEL ราคา: 1,050 บาท |
DIOR Diorshow Iconic Overcurl Waterproof Waterproof Mascara – Volume & Curl ราคา: 1,650 บาท | DIOR Diorshow Iconic Overcurl Waterproof Waterproof Mascara – Volume & Curl ราคา: 1,550 บาท |
HOURGLASS UNLOCKED MASCARA ULTRA BLACK ราคา: 1,550 บาท | MAC ราคา: 1,500 บาท |
และนี่ก็คือทั้งหมดที่ Central Inspirer นำมาฝากคุณในครั้งนี้ หวังว่าจะช่วยเคลียร์ใจให้คุณหายสงสัยได้บ้างแล้วว่า ต่อขนตาหรือปล่อยให้มันยาวดี สำหรับใครที่อยากไปช้อปปิ้งกันต่อ สามารถไปช้อปกันต่อได้เลยที่ Central App แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยมที่มีให้คุณเลือกช้อปอย่างหลากหลาย
ขอบคุณข้อมูลจาก: vogue.co.th/ bebeautiful.in/ ladyissue.com
Picture credit: pinterest.com