เวียนกลับมาบรรจบอีกครั้งสำหรับหนึ่งกิจกรรมที่สามารถช่วยอนุรักษ์พลังงาน และอนุรักษ์โลกได้อย่ามหาศาล หากทุกคนในโลกนี้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติ นั่นคือ Earth Hour หรือกิจกรรม ‘ปิดไฟเพื่อโลก’ ที่เชิญชวนผู้คนทั่วโลกช่วยกันปิดไฟ เพียง 1 ชั่วโมงเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
กิจกรรม Earth Hour เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค. ศ. 2007 ด้วยการรณรงค์ของชาวออสเตรเลียน ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยที่พวกเขาร่วมกันปิดไฟพร้อมๆ กันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อลดการใช้พลังงาน ก่อนค่อยๆ กลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ผู้คนทั่วทุกมุมโลกเริ่มให้ความสนใจ สนับสนุน และมีส่วนร่วม ในปัจจุบันมีมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ในทุกๆ ปี เช่นเดียวกับประเทศไทย
เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทย รวมถึงประชาชนชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน กรุงเทพมหานครโดยการนำของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund : WWF) ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ได้จัดให้มีการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและอาคารบ้านเรือนร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. ภายใต้งาน “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” โดยกิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มขึ้น ณ บริเวณสกายวอล์กช่องนนทรี เขตสาทรในปี 2565
ในโอกาสนี้ การไฟฟ้านครหลวงเชิญชวนทุกคนเป็นหนึ่งในพลังลดโลกร้อน ด้วยการถอดปลั๊ก ปิดไฟ ปิดแอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมๆ กันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ในการลดการใช้พลังงาน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า
อันที่จริงแล้ว การหัดรู้จักประหยัดพลังงาน ไม่ว่าเราจะอยู่บ้าน หรืออยู่ในสถานที่ใดๆ ก็ตาม โดยเปิดไฟ หรือใช้งานไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ดึงปลักไฟออกทุกครั้งหลังการใช้งาน นอกจากจะช่วยเราประหยัดพลังงาน ช่วยลดโรคร้อนแล้ว ยังช่วยเราประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย Central Inspirer จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” ในวันและเวลาดังกล่าว และร่วมด้วยช่วยกันประหยัดพลังงานในทุกๆ ทางเท่าที่เราทำได้ เพื่อช่วยอนุรักษ์ ช่วยลดความร้อนบนพื้นโลก และช่วยให้โลกเราเติบโตขึ้นไปอย่างยั่งยืน มาร่วมด้วยช่วยกันค่ะ Happy Earth Hour ค่ะทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก: prachachat.net / thestandard.co
Picture credit: pinterest.com