ในช่วงนี้ไม่มีใครปฏิเสธเลยว่าแดดในประเทศไทยของเรานั้น ช่างร้อนจริงๆ ร้อนจนไหม้ แสบผิวไปหมด และแน่นอนว่าแสงแดดเป็นตัวการสำคัญในการทำลายสภาพผิวสวย ๆ ของเราให้ย่ำแย่ ตัวช่วยที่สำคัญคงหนีไม่พ้น ครีมกันแดด แต่เอ๊ะ! ครีมกันแดดที่เพื่อนๆ ทาอยู่เป็นประจำนั้น รู้หรือเปล่าว่าเราเลือกใช้ถูกต้องหรือยัง วันนี้มีคำตอบว่าฝากกันทั้งครีมกันแดดทาตัว ครีมกันแดดกันน้ำ หรือ ครีมกันแดดหน้า ควรมีค่า SPF PA เท่าไหร่ถึงจะดี
[yith_wc_productslider id=49127]
ครีมกันแดดทาตัว
ในชีวิตประจำวันของเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนจัด ยิ่งในตอนนี้กำลังจะเข้าช่วงซัมเมอร์ ผิวของเราจึงโดนทำร้าย ฉะนั้นเราจะยอมไม่ได้ที่จะให้ผิวสวยๆ ของเราต้องหมองคล้ำจากการถูกแสงแดด ครีมกันแดดจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญโดยเฉพาะครีมกันแดดทาตัวที่จะทำให้ผิวพรรณของเราดูขาวกระจ่างใส ฉ่ำวาว เรียกได้ว่ายิ่งโดดแดดผิวยิ่งผ่องขึ้น แต่การเลือกครีมกันแดดทาตัวเราต้องพิจารณาสภาพแวดล้อมที่เราต้องประสบพบเจอในทุกๆ วันนะคะ ว่าค่า SPF PA ที่เราจะใช้นั้นเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเราคิดจะเลือกที่มีค่า SPF PA สูงๆ ประมาณตั้งแต่ 30 ขึ้นไป แนะนำว่าต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตากแดดเป็นเวลานานติดต่อกันตลอดทั้งวัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า SPF PA ว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะสามารถปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้ตลอดวัน
ยกตัวอย่างครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 ซึ่งหมายความว่าครีมกันแดดตัวนั้นจะปกป้องผิวของเราเป็นเวลา 15 เท่าจากการถูกแดด เพราะปกติถ้าเราไม่ทาครีมกันแดดแล้วต้องเผชิญกับแสงแดดผิวของเราจะไหม้ภายใน 20 นาที ก็หมายความว่า SPF15 จะปกป้องผิวเราเป็นเวลา 15 เท่าของ 20 นาที ซึ่งก็ประมาณ 5 ชั่วโมงนั่นเอง ส่วน PA ก็ควรจะมีค่าเป็น PA+++ ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นเราถึงควรสำรวจการออกเผชิญหน้ากับแดดในแต่ละวันแล้วเลือกครีมกันแดดที่มี SPF ให้เหมาะกับวันนั้นๆ
ครีมกันแดดกันน้ำ
หากว่าเราต้องออกไปทำงานนอกสถานที่หรือต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน เราควรเลือกครีมกันแดดกันน้ำที่มีค่า SPF สูงๆ เพื่อช่วยปกป้องผิวของเราให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นครีมกันแดดกันน้ำจึงเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบทำกิจกรรม Adventure รักในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือต้องไปไหนมาไหนขยับร่างกายตลอดเวลา จึงไม่ควรพลาดที่จะเลือกใช้ครีมกันแดดในรูปแบบของครีมกันแดดกันน้ำเพื่อจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดได้ในระยะเวลาที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ในส่วนของค่า SPF PA ของครีมกันแดดกันน้ำนั้นจะเน้นไปที่มีค่าสูงๆ ประมาณ SPF50+ PA+++ เพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วงปกป้องรังสี UVA และ UVB ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวของเราหมองคล้ำอีกด้วย
[yith_wc_productslider id=49110]
ครีมกันแดดหน้า
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ ใบหน้าของเรานั่นเอง ถ้ามีครีมกันแดดที่ใช้ทาตัวแล้ว จะไม่มีครีมกันแดดหน้าได้อย่างไร เพราะใบหน้าของเราเป็นส่วนแรกที่ถูกแสงแดดและเปลี่ยนสีผิวได้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงครีมกันแดดก่อนที่จะแต่งหน้า เพื่อช่วยป้องกันผิวหน้าของไม่ให้หมองคล้ำ หรือเกิดรอยแดง จากการเผาไหม้ของแสงแดด ส่วนการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนั้น ต้องคำนวณถึงการออกแดดของเราว่าบ่อยครั้งแค่ไหน เราจะได้เลือกค่าของ SPF PA ถูก เพราะการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงนั้นไม่ได้ดีต่อผิวของเราเสมอไป หากเราไม่ได้อยู่กลางแจ้งหรือทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่าง SPF50 SPF70 ก็จะทำให้เราได้รับสารเคมีมากเกินไป แทนที่จะช่วยปกป้องผิวกลับกลายเป็นทำร้ายผิว ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจจะทำให้ระคายเคืองผิวหน้าได้ ทางที่ดีควรจะเลือกครีมกันแดดหน้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญดีกว่าค่ะ
หวังว่าคุณหนุ่มๆ สาวๆ คงจะได้รู้เทคนิคหรือทริคเล็กๆ น้อยๆ ของการเลือกครีมกันแดดกันไปแล้ว ว่าเราต้องใช้ค่า SPF PA เท่าไร ทั้งครีมกันแดดทาตัว ครีมกันแดดกันน้ำ และครีมกันแดดหน้า แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละคนที่ไปเผชิญ ยังไงก็อย่าหวังพึ่งแต่ครีมกันแดดนะคะ เราต้องดูแลผิวของเราให้ขาวใสควบคู่ไปด้วยถึงจะมีผิวที่สวยจนน่าอิจฉา