ผิวพรรณของผู้หญิงแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป บางคนก็มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไปเจอะเจออะไรมา หรือรับประทานอาหารผิดประเภทก็อาจเกิดผื่นคัน หรือเกิดสิว สาวอีกหลายคนมีผิวหน้าที่มันมาก ยิ่งในอากาศร้อนของเมืองไทย ใบหน้ายิ่งมันปลาบ ต้องอาศัยกระดาษซับมันตลอดทั้งวัน สำหรับสาวที่มีผิวแห้ง จะฤดูกาลไหนก็มีผิวแห้งผากอยู่ดี สาวที่โชคดีน่าจะเป็นสาวผิวธรรมดา ที่ไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไร ก็ไม่อาจทำร้ายผิวพรรณของเธอได้
เมื่อพูดถึงประเภทผิว Central Inspirer อยากมาพูดคุยกับสาวๆ เรื่องของประเภทผิวที่แตกต่างกันออกไป มาดูวิธีการดูแลผิว และแนะนำสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวสาวๆ ในแต่ละประเภท มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
ผิวคนเรามีกี่ประเภท
โดยปกติ ผิวของคนเราจะแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ผิวมัน หรือ Oily Skin
- ผิวแห้ง หรือ Dry Skin
- ผิวบอบบางและแพ้ง่าย หรือ Sensitive Skin
- ผิวผสม หรือ Combination Skin
ผิวแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
1. ผิวมัน หรือ Oily Skin
ผิวมัน คือ ประเภทของผิวหนังอย่างหนึ่งที่บนใบหน้ามีน้ำมัน (Sebum) เคลือบอยู่มากเกินความจำเป็น อาจเกิดจากต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ จนสร้างน้ำมันขึ้นมาเคลือบผิวมากเกินไป หรืออาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่ทำจากน้ำมันเป็นหลัก (Oil Base) น้ำมันบนใบหน้าที่มีอยู่มากเกินไปนั้นมีข้อเสียอยู่มาก อย่างแรกคือทำให้เชื้อแบคทีเรียบใบหน้าเสียสมดุล แบคทีเรียบางอย่าง เช่นแบคทีเรีย C. Acne ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
วิธีดูแลผิวมันในชีวิตประจำวัน
- ล้างหน้าให้สะอาดบ่อยครั้ง
- ซับหน้าให้แห้ง
- เมื่อผิวมันใช้กระดาษซับหน้ามัน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
- เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์
- ใช้เครื่องสำอางและเวชสำอางให้เหมาะกับสภาพผิว
วิธีดูแลผิวมันด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Acne Oil Control หรือผลิตภัณฑ์ในการบำรุงและดูแลผิวมันที่มีโอกาสเป็นสิวได้ง่าย
- ใช้คลีนเซอร์สูตรน้ำ หรือ Cleansing Water – เลือกใช้คลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อคนมีผิวมัน ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะคลีนซิ่งประเภทนี้ใช้แล้วจะไม่เหนียวเหนอะหนะ ลดสาเหตุของสิว
- โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมอย่าง BHAs, AHAs หรือ Salicylic Acid ที่ความเข้มข้นต่ำ – ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ให้หน้าแพ้ได้ ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่าง Alcohol ที่มีความเข้มข้นสูงๆ เพราะจะทำให้หน้าแห้ง เมื่อหน้าแห้งก็จะกระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้เกิดสิว
- ส่วนผสมที่มีสารดูดซับความมัน หรือ Absorbent เช่น Bentonite, Kaolin หรือ Silicaที่มีอยู่ในสกินแคร์หรือเมคอัพสามารถช่วยคุมความมันได้เป็นอย่างดี
- Tea Tree Oil, Retinoids, Salicylic Acid หรือ Benzoyl Peroxide เป็นส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์สครับหรือผลัดเซลล์ผิว ช่วยฆ่าเชื้อสิว (Exfoliator & Anti-Acne) ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่จะทำให้เกิดสิวอุดตันออกไป
- ไฮยาลูรอน (Hyaluron) เป็นส่วนผสมสำคัญในมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับคนผิวมัน เพราะช่วยเติมน้ำให้ผิวที่ขาดไป ทำให้ผิวกลับมามีสมดุลดี
แนะนำสกินแคร์สำหรับสาวผิวมัน
2. ผิวแห้ง (Dry Skin)
ผิวแห้ง คือ ลักษณะของผิวที่ไม่มีความมันเกาะตัวอยู่บนชั้นผิว สังเกตได้จากความรู้สึกแห้งตึงผิวหลังล้างหน้า ซึ่งสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัย มักสร้างปัญหาให้กับทุกคนได้อยู่เสมอ เนื่องจากสภาพผิวจะมีความแห้งกร้าน แตกลอกเป็นขุย หรือเป็นแผ่นออกมาชัดเจนจนสังเกตได้ และมักนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ความไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือบางคนเมื่อผิวลอกมาก ๆ มักมีแนวโน้มเกิดอาการแสบ ระคายเคือง เมื่อเผชิญกับปัจจัยต่างๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัว ด้วยเหตุนี้การดูแลผิวแห้งจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
วิธีดูแลผิวแห้งในชีวิตประจำวัน
- อาบน้ำและล้างหน้าในอุณหภูมิปกติ น้ำต้องไม่ร้อนจนเกินไป
- ขัดผิวหน้าเป็นครั้งคราว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับผิว
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน
วิธีดูแลผิวแห้งด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- ค่า pH หรือ Potential of Hydrogen คือ ค่าวัดความเป็นกรดเป็นด่างของสารเคมีที่ละลายอยู่ในน้ำ สำหรับคนผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีค่า pH 5 ที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีฟอง ไม่มีสารลดแรงตึงผิว
- Urea, Glycerol และ Ceramide คือสาร 3 ตัวที่ควรมีผสมในสกินแคร์สำหรับคนผิวแห้ง ช่วยบำรุงผิวที่มีสารคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน
- Oil- Based Moisturizer – เลือกมอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่มีส่วนผสมของน้ำมันบำรุงผิว จะช่วยเคลือบกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนาน และชดเชยน้ำมันในผิว
แนะนำสกินแคร์สำหรับสาวผิวแห้ง
3. ผิวบอบบางและแพ้ง่าย หรือ Sensitive Skin
ผิวบอบบางและแพ้ง่าย เป็นภาวะที่ผิวมีความไวต่อปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สารกันแดด เนื้อผ้าที่สวมใส่บางชนิด น้ำ หรือแม้กระทั่งสภาพอากาศที่แห้งและเย็น นอกจากนี้ยังมีรายงานพบว่าอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นในผิวแพ้ง่ายยังสัมพันธ์กับรอบประจำเดือนของสุภาพสตรีอีกด้วย
วิธีดูแลผิวบอบบางและแพ้ง่ายในชีวิตประจำวัน
- รักษาความสะอาดผิวหน้าอยู่เสมอ
- ล้างหน้าด้วยอุณหภูมิปกติ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ
- เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ดื่มน้ำมากเพียงพอพร้อมรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
วิธีดูแลผิวบอบบางและแพ้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- Water-Based Essence เลือกใช้เอสเซนส์สูตรน้ำ หรือมีน้ำเป็นส่วนผสมหลักซึ่งเหมาะสำหรับผิวบอบบาง ผิวเเพ้ง่าย สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมช่วยในเรื่องของควบคุมความมันได้อีกด้วย
- Ceramide, Hyaluronic Acid และGlycerin สามส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ ครีมกันแดดและเซรั่มบำรุงผิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ช่วยบำรุง เติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว
เลือกผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลผิวบอบบางและแพ้ง่าย
4. ผิวผสม หรือ Combination Skin
ผิวผสม คือลักษณะผิวหน้าที่ผิวแต่ละส่วนเป็นผิวชนิดที่ต่างกัน ส่วนใหญ่แล้วบริเวณที่จะมันกว่าผิวส่วนอื่น คือผิวบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง เป็นผิวบริเวณกลางใบหน้าที่เรียกกันว่า ‘T-Zone’
วิธีดูแลผิวผสมในชีวิตประจำวัน
- ล้างหน้าบ่อยๆ เป็นประจำทุกวัน
- ทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมในบริเวณที่ผิวมัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณที่ผิวแห้ง
- ดูแลสุขภาพโดยรวมอยู่เสมอ
วิธีดูแลผิวผสมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- โคลน หรือ Clay อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่ดีต่อผิวหน้า มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความมันส่วนเกินได้ดี กำจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เสมือนเป็นการดีท็อกซ์ผิวเพื่อไม่ให้เกิดสิวอุดตันตามมาทีหลัง ฉะนั้นคนที่มีผิวผสมควรมองหาส่วนผสมนี้
- Hyaluronic Acid กรดไฮยาลูรอนิกไม่ได้เหมาะแค่สำหรับผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับสาวที่มีผิวผสม เพราะปัญหาผิวมันเกิดจากการที่ผิวขาดน้ำมากๆ จึงทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมาเติมความชุ่มชื้นบนผิวหน้ามากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นการใช้กรดไฮยาลูรอนิกจะช่วยเติมน้ำให้ผิวมีความสมดุลมากขึ้น ทำให้ผิวเราไม่แห้งหรือมันจนเกินไป
- Retinoic Acid กรดเรติโนอิกอยู่ในกลุ่มของเรตินอลหรือวิตามินเอ มีฤทธิ์กระตุ้นการผลัดเซลล์ของผิว รวมทั้งป้องกันการเกิดสิวอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวทั่วไป สำหรับคนที่มีผิวผสมสามารถใช้เพื่อให้ช่วยลดการเกิดสิวได้ แต่ควรใช้เรตินอลในปริมาณที่พอเหมาะ และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้จะดีที่สุด
- Niacinamide หรือที่รู้จักกันในนาม ‘วิตามินบี 3’ ซึ่งถือเป็นส่วนผสมที่คล้ายกับเรตินอลและกรดผลัดเซลล์ผิวทั้งหลาย แต่จะมีความอ่อนโยนและปลอบประโลมผิวได้ดีกว่า เพราะจะช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันในชั้นผิว ลดรอยจุดด่างดำต่างๆ จากปัญหาสิว พร้อมกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ให้ผิวมีเกราะป้องกันและแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
- Salicylic Acid กรดซาลิไซลิก (BHA) มักจะพบเป็นองค์ประกอบของพืชหลายชนิด เช่น เปลือกของต้นหลิว (Willow) จะช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ดี สลายสิวหัวขาวและสิวหัวดำ ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก พร้อมยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และที่สำคัญคือควบคุมการผลิตน้ำมันในชั้นผิวให้สมดุล จึงไม่ทำให้เกิดความมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง
- Grape Seed Oil มีส่วนผสมของPolyphenols ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องคอลลาเจนและผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ กักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ยืดอายุของเซลล์ผิวและช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวเต่งตึงกระชับ พร้อมลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการเกิดสิวสำหรับสาวผิวผสม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญที่น่าสนใจมากสำหรับสาวๆ ที่มีผิวผสมและผิวมัน
- Glycolic Acid กรดไกลโคลิกเป็นกรดผลไม้ที่พบมากในอ้อย คุณสมบัติหลักของกรดไกลโคลิกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยับยั้งการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีซึ่งเป็นต้นเหตุให้ผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำทั้งหลาย ปรับผิวให้กระจ่างใสและสม่ำเสมอมากขึ้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยหรือร่องลึกต่างๆ
แนะนำสกินแคร์ที่ช่วยดูแลผิวผสม
ช้อปผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคุณภาพที่เหมาะกับผิวคุณ
ที่ Central App เรามีสกินแคร์คุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำอีกมากมายรอให้สาวๆ เลือกใช้หากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ Central Inspirer แนะนำมาให้ยังไม่จุใจ เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิวที่ “แพทย์ผิวหนัง” แนะนำให้ใช้สำหรับผิวทุกประเภทของหญิงสาวได้เลยค่ะ
เพียงกดปุ่ม Shop Now แล้วเลือกช้อปสกินแคร์สำหรับผิวของคุณได้เลยทันที
บอกลาปัญหาผิวที่เกิดกับสาวที่มีผิวประเภทต่างๆ ได้ด้วยการดูแลรักษาผิวด้วยวิธีการที่ถูกต้อง รวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณ เพียงแค่นี้ คุณก็จะมีผิวที่เปล่งปลั่ง เรียบเนียน และสดใส ไร้ปัญหาผิวค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: vogue.co.th/healthline.com
Picture credit: istock.com