การทำสีผม เป็นเทรนด์การทำผมสุดฮิตที่สาวไทยนิยมทำกันมากที่สุด การเปลี่ยนผมสีเป็นสีใหม่ๆ หรือสีที่ใกล้เคียงกับสีผมตามธรรมชาติของเรา นอกจากจะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนลุค ยังทำให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีประโยชน์สำหรับคนที่มีผมหงอก ผมขาว ไหนๆ ผมก็หงอกง่ายอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนสีผมใหม่ๆ ให้ดูสดใสกันไปเลยจะดีกว่า
แต่การเลือกสีผมนั้น ก็ควรเลือกให้เหมาะกับโทเทิ่ลลุคของเราด้วย ควรเลือกสีผมที่เข้ากับสีผิวกาย ที่ทำให้โทเทิ่ลลุคของคุณดูสว่างไสว ดูไบรท์ขึ้น ดังนั้น ก่อนทำสีผม Central Inspirer ชวนคุณเลือกสีผมที่แมทช์กับสีผิวของคุณกันก่อนดีกว่า พร้อมกับการเรียนรู้วิธีการดูแลและบำรุงเส้นผมทำสีกันค่ะ
เลือกสีผมที่แมทช์กับสีผิว
1. สาวผิวขาวอมชมพู
สำหรับสาวๆ ที่มีผิวขาวอมชมพูที่สาวหลายคนไฝ่ฝัน เป็นสีผิวที่ทำให้คุณดูเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพดี เฉดสีผมที่เหมาะกับสาวผิวขาวอมชมพูคือสีโทนสว่าง เช่น สีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลบลอนด์ทอง บลอนด์ประกายหม่น สีน้ำตาลแดง หรือสีน้ำตาลอมส้ม เพราะสีเหล่านี้จะช่วยขับผิวขาวอมชมพูขงคุณให้ดูมีออร่า ดูสดชื่นมีชีวิตชีวา ไม่ดูซีดจางจนเกินไป หากคุณนึกสนุกอยากทำสีผมแสบๆ สดใส เช่น สีชมพู สีม่วง สีฟ้า หรือสีเขียว สาวผิวเฮลตี้อย่างคุณทำได้หมด ส่วนสีต้องห้าม ไม่ควรทำคือ สีดำ และน้ำตาลเข้ม เพราะจะทำให้คุณดูหน้าดุ และดูหน้าซีดขาวเข้าไปอีก
2. สาวผิวขาวอมเหลือง
สาวๆ ที่มีผิวขาวอมเหลือง สีผิวนี้อาจทำให้คุณดูซีดเซียวสักนิด เพราะพิกเมนต์สีเหลืองในผิวมีมากจนอาจทำให้ผิวของคุณดูไม่สดใสสักเท่าไหร่ แต่การทำสีผมสามารถช่วยให้คุณดูเฟรสและโกลว์ขึ้นมาได้ เลือกทำสีผมในเฉดสีน้ำตาลคาราเมล สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลอมส้มแอพริคอต สีน้ำตาลมะฮอกกานี สีน้ำตาลดาร์กช็อคโกแลต และสีประกายม่วงเหลือบแดง สีเหล่านี้เหมาะกับสีผิวของคุณมาก โทนสีเหล่านี้จะทำให้ผิวขาวอมเหลืองของสาวๆ ดูไม่เหลืองจนเกินไป จะทำให้หน้าดูสว่างขึ้น ช่วยทำให้ใบหน้าดูโฉบเฉี่ยวและสดใส ส่วนสีต้องห้ามสำหรับสาวผิวขาวอมเหลืองคือ โทนสีที่อ่อนกว่าผิว เช่น สีบลอนด์ทอง หรือน้ำตาลอ่อน เพราะจะทำให้ดูซีดเซียว ดูไม่มีชีวิตชีวาเลยคะ
3. สาวผิวสองสีหรือผิวสีน้ำผึ้ง
สำหรับผิวสองสี หรือผิวสีน้ำผึ้งที่สาวไทยส่วนใหญ่มี ถือเป็นสีที่ฮอตสุดๆ เป็นผิวสีที่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ สาวๆ ชาวตะวันตก หรือสาวฝรั่งนิยมกันมาก มักไปอาบแดด หรือเข้าซาลอนทำผิวแทน ผิวสีน้ำผึ้ง ในขณะที่สาวไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบ อยากมีผิวขาว มีความ Opposite Attract อย่างแท้จริง สำหรับสาวผิวสองสีหรือผิวสีน้ำผึ้งควรเลือกทำสีผมในเฉดสีโทนน้ำตาลอ่อน น้ำตาลประกายทอง น้ำตาลช็อคโกแลตเข้ม หรือสีดำ สีเหล่านี้จะช่วยทำให้สาวๆ ผู้มีผิวสองสีหรือผิวสีน้ำผึ้งดูใบหน้าสว่างมากขึ้น นอกจากนี้ สาวผิวสองสียังสามารถทำสีผมน้ำตาลประกายม่วง หรือน้ำตาลประกายทองได้เช่นกันค่ะ ส่วนสีต้องห้ามสำหรับสาวสีผิวน้ำผึ้งคือ สีน้ำตาลเข้มเพราะยิ่งจะทำให้ใบหน้าหมองคล้ำค่ะ
4. สาวผิวคล้ำ
สำหรับสาวผิวคล้ำหรือสาวที่มีผิวสีเข้มควรเลือกโทนสีผมเป็นสีน้ำตาล หรือโทนสีน้ำตาลช็อคโกแลต หรือน้ำตาลโค้กก็ได้ เพราะสีผมในเฉดเหล่านี้จะทำให้สาวสีผิวเข้มดูใบหน้าสว่างขึ้น สดใส และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ส่วนสีต้องห้ามสำหรับสาวผิวเข้มคือสีบลอนด์หรือสีน้ำตาลอ่อนเพราะโทนสีอ่อนจะทำให้สาวๆ ดูหมองคล้ำมากกว่าเดิมคะ
เมื่อทราบแล้วว่าสีผิวของคุณนั้นเหมาะกับการทำสีผมในเฉดใด สาวๆ ก็มั่นใจได้แล้วว่าสีไหนเหมาะกับเรา ควรหาเวลาว่างนัดช่างทำสีผม จัดการกับลุคใหม่ สร้างความเปลี่ยนแปลงและความสดใสรับปีใหม่กันได้เลย และเมื่อคุณทำสีผมแล้ว ก็ต้องไม่ลืมการดูแลและบำรุงผมทำสีของคุณ ให้สีผมติดทนนาน ดูกลอสซี่ แวววาวไปนานๆ มาดูวิธีการดูแลผมทำสีกันค่ะ
สีผมกับสีผิวแบ่งตามฤดูผิว
ในบางที่มีการแบ่งตามฤดูของผิว โดยจะดูจาก สีผิว, ลักษณะของเส้นเลือด และอื่นๆ มาดูกันเลยค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ฤดูผิว | สีผิว | ลักษณะเส้นเลือด | สีผมที่เหมาะ |
Spring | ผิวโทนเหลือง-ผิวน้ำผึ้ง | สีเขียว | โทนสว่าง เช่น สีเทาควันบุหรี่ น้ำตาลอ่อน สีบลอนดฺ |
Summer | ขาวอมชมพู | สีม่วงหรือสีน้ำเงิน | โทนเย็น เช่น สีเทาอมม่วง สีน้ำตาล |
Autum | ผิวขาวมาก | สีเขียว | โทนอุ่น ที่มีความเข้ม เช่น สีดำ น้ำตาลบลอนด์ทอง |
Winter | ผิวขาว-เหลือง | สีม่วงหรือน้ำเงิน | โทนสีที่โดดเด่น ชัดเจนมากๆ เช่น สีแดงเลือดหมู สีส้มพีช |
5 วิธีดูแลผมทำสี
1. ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไป
สาวหลายคนชอบสระผมทุกวัน ในขณะที่มีอีกหลายคนอาจไม่ค่อยชอบสระผมมากเท่าไหร่ อาทิตย์หนึ่งอาจสระผมเพียง 1-2 ครั้ง หรือน้อยกว่า สำหรับสาวที่ทำสีผม คุณไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไป เพราะการสระผมบ่อยๆ จะทำให้สีผมที่สดใส เฟดและจางไป หลังการทำสีผม ไม่ควรสระผมอย่างน้อยที่สุดประมาณ 3-7 วัน เพื่อให้สีที่ย้อมเกาะจับเส้นผมของคุณและเพื่อรักษาสีที่ทำให้ติดทนนาน ควรสระผมอาทิตย์ละ 3 ครั้งโดยใช้แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ที่ช่วยรักษาสีผม
2. ไม่ควรสระผมด้วยน้ำร้อน
ในช่วงฤดูหนาว หรือในเวลาเช้า การอาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อนทำให้คุณรู้สึกสดชื่น แต่เส้นผมทำสีของคุณนั้นไม่สดชื่นตามไปด้วย น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนทำให้ส่วนที่อยู่เปลือกนอกสุดของผมแตกออก และทำให้สีผมที่ทำไว้ซีดลงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ทำให้สีผมละลายออกมา ทุกครั้งที่คุณต้องสระผม ควรสระผมด้วยน้ำเย็น หรือน้ำในอุณหภูมิปกติ เพราะน้ำเย็นจะช่วยรักษาเปลือกนอกสุดของผม ไม่ทำให้สีผมซีดหรือจางลง ดังนั้น ควรสระและนวดผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำในอุณหภูมิปกติเพื่อรักษาสีผมให้ติดทนนานและดูแวววาวอย่างที่สุด
3. ให้ความสำคัญกับการทำทรีทเม้นท์
ไม่ว่าจะเป็นผมทำสี หรือผมสีตามธรรมชาติ การที่จะดูแลให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดี ต้องมีการทำทรีทเม้นท์กันบ้าง ด้วยการมาสก์ผม ใช้ออยล์หรือสเปรย์ป้องกันความร้อนจากไดร์เป่าผม หรือใช้ออยล์เพื่อบำรุงรักษาเส้นผม รวมทั้งในกรณีสำหรับสาวทำสีผม การใช้แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์สำหรับผมทำสีเป็นเรื่องจำเป็น และควรให้ความสำคัญ เพื่อบำรุงเส้นผมให้สีที่ทำติดทนงาม ให้เส้นผมที่ความโกลว์ ดูงดงามและมีสุขภาพดีไปอย่างยาวนานค่ะ
4. สระผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์
สำหรับสาวๆ ที่เกลียดความรู้สึกของผมที่ไม่ได้สระ ต้องสระผมทุกวัน และอยากรักษาสีผมให้ติดทนนาน คุณจะเชื่อหรือไม่ว่า หากคุณข้ามการสระผมด้วยแชมพู แล้วใช้คอนดิชั่นเนอร์ชโลมให้ทั่วทั้งเส้นผมทุกวันตอนคุณอาบน้ำ คอนดิชั่นเนอร์สามารถช่วยทำความสะอาดเส้นผมของคุณได้ไม่ต่างกับแชมพู แถมสีผมยังดูไบรท์ขึ้นได้อีกด้วย เพราะแชมพูนั้น หากคุณสระผมทุกวันจะทำให้สีผมซีดจางลงได้โดยเร็ว ในขณะที่คอนดิชั่นเนอร์สามารถรักษาสีผมของคุณให้ติดทนนาน ดูสวยประดุจไยไหม ลองทำกันดูได้เลยนะคะ
5. บอกลาการเป่าผม
ถึงแม้ว่าหลังการสระผม คนส่วนมากจะต้องตามด้วยการไดร์ผมให้แห้ง แต่สำหับผมทำสีแล้ว การเป่าผมด้วยความร้อนเป็นศัตรูกับสีผมของคุณ เหมือนกับน้ำร้อน ความร้อนจากไดร์เป่าผมจะทำให้ส่วนที่อยู่เปลือกนอกสุดของผมแตกออก ทำให้โมเลกุลของสีผมที่ทำไปหลุดออกมา ทำให้สีผมของคุณดูด้าน ไม่แวววาวอย่างที่ควรเป็น การเป่าผมด้วยพัดลม หรือไดร์ที่มีลมความเย็นธรรมชาติช่วยรักษาสีผมและความแวววาวของผมให้อยู่นาน หากคุณจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าผม แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนการไดร์ผมเพื่อช่วยรักษาสีผมสวยๆ ของคุณเอาไว้ค่ะ
เมื่อสาวๆ พร้อมในการทำสีผม ก็ต้องช้อปแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ช่วยในการทำทรีทเม้นท์เส้นผมให้สีผมสวยๆ ที่ไปทำในบิวตี้ซาลอนในราคาที่แสนแพงอยู่กับเราไปนานๆ ของแบบนี้ไม่ควรมองข้าม รวมทั้งเลือกใช้ไดร์เป่าผมที่มีลมเย็น ช่วยให้เป่าผมได้อย่างสบายใจ ได้ผมสีสวย กลอสซี่ เงางาม สวยเด่นรับปีใหม่
แชมพู และคอนดิชั่นเนอร์สำหรับผมทำสี
AVEDA แชมพูสำหรับเส้นผมทำสี Color Control Sulfate Free Shampoo ขนาด 200 มล. ราคา 1,200 บาท | AVEDA คอนดิชันเนอร์สำหรับเส้นผมทำสี Color Control Conditioner ขนาด 200 มล. ราคา 1,300 บาท |
KÉRASTASE แชมพูสำหรับผมทำสีโทนหม่น เทา บลอนด์ หรือผ่านการฟอกผม ขนาด 250 มล. ราคา | KÉRASTASE คอนดิชันเนอร์สำหรับผมทำสีโทนหม่น เทา บลอนด์ หรือผ่านการฟอกผม ขนาด 250 มล. ราคา |
PHILIP B. แชมพูสำหรับผมทำสี Icelandic Blonde Shampoo ขนาด 220 มล. ราคา 2,250 บาท |
ทรีทเม้นท์คุณภาพต้องมีใช้
KÉRASTASE มาสก์สูตรเข้มข้นดูแลผมทำสี ฟื้นบำรุงล้ำลึก ขนาด 200 มล. ราคา | KÉRASTASE มาสก์บำรุงสำหรับผมทำสีโทนหม่น เทา บลอนด์ ขนาด 200 มล. ราคา |
KÉRASTASE ออยล์บำรุงสำหรับผมทำสี เพื่อผมนุ่ม เปล่งประกายเงางาม ขนาด 100 มล. ราคา | KÉRASTASE สเปรย์เนื้อน้ำนมบำรุงก่อนไดร์ พร้อมกันความร้อน ขนาด 150 มล. ราคา |
เลือกไดร์เป่าผมที่ให้ลมเย็น
DYSON ไดร์เป่าผม GIF Supersonic™ HD08+Box | PANASONIC ไดร์เป่าผม รุ่น EHNA98KL 1,800 วัตต์ ราคา |
PHILIPS ไดร์เป่าผม รุ่น BHD628/00 ราคา | LESASHA ไดร์เป่าผม BIO-CERAMIC รุ่น LS126 ราคา |
ปีใหม่ 2023 นี้ Central Inspirer ชวนสาวๆ มาเปลี่ยนแปลง อัพลุคใหม่ๆ ให้สวย และไฉไลด้วยสีผมที่คุณชอบ เลือกที่แมทช์กับสีผิว และต้องไม่ลืมดูแลให้สีผมสุดสวยช่วยให้คุณโดดเด่นไปอีกนานๆ นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: lofficielusa.com/clubsister.com
Picture credit: pinterest.com