กลับมาพบกับมาดามและสาระดีๆ กันอีกเช่นเคย โดยในรอบนี้มาดามจะมาพูดถึงเรื่องผิวหยาบกร้านที่หลายคนต้องพบเจอกันอยู่เนืองๆ ว่ามันคืออะไร พร้อมแนะนำตัวช่วยดีๆ อย่าง CERAVE SA SMOOTHING CLEANSER ที่จะมาช่วยคุณในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดามมาดูกันเลย
ผิวหน้า ผิวกาย หยาบกร้านไม่เรียบเนียน ทำอย่างไรดี?
มาดามเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะต้องเจอปัญหาผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียนกันอยู่เนืองๆ ซึ่งมาดามไม่อยากให้คุณเครียดนะ เพราะเป็นเรื่องปกติมากๆ เนื่องจาก40% ของผู้ใหญ่ มักมีปัญหาผิวหยาบกร้าน และไม่เรียบเนียน ตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย อย่างเช่น ใบหน้า หรือ ลำตัว ท่อนแขน และแผ่นหลังกันอยู่แล้วนั่นเอง ขอเพียงมีความเข้าใจในเรื่องนี้ และมีวิธีดูแลที่ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว
อาการผิวหยาบกร้านนั้น หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นสิวผดชนิดหนึ่งบนใบหน้า เพราะลูบไปแล้วจะรู้สึกสะดดุด หรือในบางรายนั้นจะมีอาการคัน ระคายเคืองง่าย แพ้ง่าย เป็นผด ผื่นขึ้น ตามมาด้วย ส่วนทางด้านผิวกายเมื่อผิวหยาบกร้านก็จะปรากฏออกมาหลากรูปแบบ อาทิ ขนคุด ซึ่งจะเกิดได้หลายจุด อย่างเช่น ต้นแขน ต้นขา น่อง หรือ ที่แผ่นหลังก็จะมีสิวที่หลัง ทำให้บางคนสูญเสียความมั่นใจ และไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าที่เปิดช่วงต้นแขนหรือแผ่นหลังที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียนดังกล่าว
สาเหตุของการเกิดผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
ทีนี้เรามาดูกันต่อที่สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน โดยมาดามจะขอพูดถึงชั้นผิวของเราก่อน โดยปกติแล้ว ชั้นผิวของเรา จะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ผิวชั้นบนสุด หรือผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) จะเป็นผิวชั้นที่มีหน้าที่ในการปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมและเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งผิวชั้นนี้จะมีกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ และมีการผลัดเซลล์ผิว โดยรอบในการผลัดเซลล์ผิวปกติจะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน แต่เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะเกิดช้าลง ทำให้มีเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือ dead cells มากองสะสมอยู่ที่ผิวชั้นบนเพิ่มมากขึ้นผิวก็จะดูหยาบกร้าน หมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ประกอบกับในบางคนจะมีสภาวะที่เรียกว่า hyperkeratosis ซึ่งมีส่วนมาจากพันธุกรรมทำให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มากเกินกว่าปกติ และโปรตีนเคราตินมาสะสมอยู่ที่ผิวชั้นบนมากเกินไป จนเกิดการอุดตันของรูขุมขน กลายเป็นขนคุด หรือบางคนอาจจะเรียกว่าเป็นสิวผดทั้งบริเวณของใบหน้าและตามลำตัว ซึ่งเป็นลักษณะของผิวที่หยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน ลูบบนผิวแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษทราย ดูไม่สวยงามและทำให้ผู้ที่เป็นขาดความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าที่จะเปิดผิวบริเวณดังกล่าวอีกด้วย
อาการที่มักพบได้ในคนที่มีปัญหาผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
สำหรับอาการของผู้ที่มีผิวหยาบกร้านนั้นมีด้วยกันหลายอาการเลย อาทิ ผิวแห้งมากเป็นพิเศษ เนื่องจากชั้นผิวมีการสูญเสียความสมดุลของเซราไมด์ไป จะมีการสูญเสียน้ำออกจากผิว หรือที่เรียกว่า Trans Epidermal Water Loss (TEWL) มากกว่าปกติ บางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งทำให้สร้างความรำคาญ รู้สึกไม่สบายผิว และหากมีการเกาเกิดขึ้นอาจทำให้เกิดเป็นแผลเปิด และมีการอักเสบติดเชื้อของผิวตามมาได้อีกด้วย
เซราไมด์และซาลิไซลิก แอซิด ตัวช่วยสำคัญสำหรับผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียนอย่างไร
ทีนี้เราจะมาดูกันที่เซราไมด์และซาลิไซลิก แอซิดที่เป็นตัวช่วยสำคัญในเรื่องนี้กันบ้าง โดยมาดามจะขอเริ่มจาก องค์ประกอบของปราการผิวประกอบไปด้วยเซลล์ผิวและชั้นไขมันไลปิดไบเลเยอร์ซึ่ง ประกอบไปด้วย
- เซราไมด์ 50%
- คลอเลสเตอรอล 25%
- และ แฟตตี้แอซิด 10-20%
ความแข็งแรงของชั้นปราการผิวมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน เนื่องจากสมดุลของเซราไมด์ที่สูญเสียไป ทำให้สภาพผิวมีความแห้ง และสูญเสียน้ำออกจากผิวมากกว่าปกติ มีค่า TEWL สูง ประกอบกับมีอาการคันร่วมด้วย
ในส่วนของผิวที่ไม่เรียบเนียนเนื่องจากมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเคราตินสะสมอยู่มากกว่าปกติและอาจมีการอุดตันของรูขุมขนเกิดขึ้นนั้น จำเป็นจะต้องใช้สารที่มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เร่งให้ผลัดได้เร็วขึ้นจึงจะสามารถจัดการกับผิวไม่เรียบเนียนได้ ซาลิไซลิก แอซิด หรือ BHA ซึ่งคุณสมบัติอันโดดเด่นเพราะสามารถละลายในไขมันได้ดีกว่ากรดผลไม้ (AHA) ทำให้สามารถซึมผ่านเข้าไปในรูขุมขน และเคลียร์เซลล์ผิวกับเคราตินที่อุดตันรูขุมขนออกได้ดีกว่า จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยในการปรับผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
วิธีการดูแลผิวหยาบกร้านและไม่เรียบเนียนอย่างถูกวิธี
มาดูกันต่อที่วิธีดูแลผิวหยาบกร้านและไม่เรียบเนียนอย่างถูกวิธีกันแล้ว มาดามต้องบอกเลยว่ามันง่ายมากๆ โดยจะขอพูดถึงเรื่องที่คนมักจะเข้าใจผิดว่าเมื่อผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียนแล้วจะต้องไปสครับ หรือขัดผิว แต่ในความเป็นจริงแล้วการใช้สครับ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์ในการขัดผิว จะยิ่งไปทำให้ชั้นปราการผิวถูกทำลายมากยิ่งขึ้นและส่งผลให้วงจรของผิวหยาบกร้านและไม่เรียบเนียนกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเรื่อยๆ ไม่หายขาดเสียที
ซึ่งในเรื่องนี้แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าวิธีที่จะดูแลผิวหยาบกร้านและไม่เรียบเนียนนั้นจะต้องใช้สกินแคร์ที่มีสารช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเพื่อช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเคราตินที่อุดตันอยู่ให้หลุดออกไปมากกว่าการใช้สครับหรือเม็ดบีดส์
ดังนั้น การใช้สกินแคร์ที่มีสารดังกล่าวจะดีกับเรื่องผิวหยาบกร้านกว่ามาก มาดามจึงอยากแนะนำ “เซราวี เอสเอ สมูธติ้ง คลีนเซอร์” ให้รู้จักกัน เพราะทางแบรนด์เขาได้ใส่ส่วนผสมของ ซาลิไซลิก แอซิด (BHA) และ กลูโคโนแลคโตน (PHA) ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเหมือนเม็ดสครับ คลีนเซอร์ขวดนี้จึงมีส่วนช่วยทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนโดยที่ไม่ทำร้ายชั้นปราการผิว อีกทั้งส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง อาทิ…
- เซราไมด์ 1,3,6-II ที่เข้าไปเติมเต็มชั้นไลปิดไบเลเยอร์ จึงทำให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปอย่างอ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวลอกเป็นขุย
- ไฮยาลูรอนที่ให้ความชุ่มชื่นและช่วยโอบอุ้มน้ำให้กับผิว
- ไนอะซินาไมด์ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และต่อต้านอนุมูลอิสระ
- สูตรที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิวที่บอบบางแพ้ง่าย (Allergy tested) ด้วยสารทำความสะอาดที่ให้ฟองโฟมนุ่มสบายผิว ปราศจากน้ำหอม, สารทำความสะอาดกลุ่มซัลเฟต สารแต่งสี และสารกันเสียพาราเบน
- มีค่าความเป็นกรดด่างเท่ากับ physiological pH ของผิวสุขภาพดี
- ทดสอบความอ่อนโยนแล้ว ว่าสามารถใช้ได้กับทั้งใบหน้าและลำตัวอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง (Tolerability test) และไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic)
- ปราศจากสารสบู่ ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง (soap-free) ไม่ทำให้รู้สึกแห้ง หรือตึงผิวหลังล้าง
เซราวี เอสเอ สมูธติ้ง คลีนเซอร์ ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าช่วยฟื้นผิวเรียบเนียนใน 3 วัน* วิธีใช้คือ ผสมคลีนเซอร์กับน้ำจนเกิดฟอง ลูบไล้ให้ทั่วบริเวณที่ แห้ง หยาบกร้าน และไม่เรียบเนียน เช่นบริเวณที่มีสิวผด สิวที่แผ่นหลัง หรือขนคุด และเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควรฟอกทิ้งไว้ 1-2 นาที แล้วจึงล้างออก
*ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัคร 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 3 วัน โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีนาคม 2021
ดังนั้นแล้ว การดูแลผิวที่หยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน ปัญหาสิวผด สิวที่แผ่นหลัง หรือขนคุด ควรเริ่มต้นจากการทำความสะอาดที่ถูกวิธี โดยใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่สะสมอยู่มากเกินไปให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนและไม่ทำร้ายชั้นปราการผิว หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดสครับหรือเม็ดบีดส์ขัดผิวเพราะจะทำให้ปราการผิวถูกทำลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หลังทำความสะอาดผิวแล้วควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิวทั้ง 3 ชนิด บำรุงผิวเป็นประจำ เพียงเท่านี้ ผิวของคุณก็จะกลับมา เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น คืนความเรียบเนียน ให้คุณมั่นใจที่จะอวดผิวใสสุขภาพดีอีกครั้ง
CERAVE
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า SA Smoothing Cleanser 236 มล.
ราคา: 500 450 บาท (ประหยัด 10%)
นี่ก็คือเรื่องราวดีๆ ที่มาดามนำมาฝากคุณในครั้งนี้ หวังว่าคงพอจะเข้าใจในเรื่องผิวหยาบกร้านกันมากขึ้นแล้ว และได้เข้าใจเกี่ยวกับ CERAVE SA SMOOTHING CLEANSER ว่าจะดีกับผิวคุณอย่างไร สำหรับใครที่อยากไปช้อปปิ้งกันต่อ สามารถไปช้อปกันได้เลยที่ Central Online แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยมที่ให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย