เมื่อพูดถึงการเดินแล้ว หลายคนก็จะนึกถึงการปวดเท้าเป็นแน่แท้ ซึ่งแน่นอนว่าการเดินที่ดีต้องมาคู่กับร้องเท้าที่ดีเพราะรองเท้าที่ดีนั้นจะช่วยให้เรารู้สึกสบายเมื่อได้เดิน และไม่เกิดอาการปวดขณะที่เดินหรือปวดสะสมให้มาต้องนอนปวดเท้ากันตอนดึกๆ อีกด้วย ซึ่งรองเท้าลำลองที่เราจะมาแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้คือรองเท้าที่ชื่อว่า Birkenstock ซึ่งเป็นรองเท้าแบรนด์ดังจากเยอรมัน สำหรับมือใหม่ถ้าอยากรู้ว่า Birkenstock ดียังไง และ Birkenstock ราคาเท่าไหร่ หรือว่าจะเป็นสาวก Birkenstock ที่อยากจะอัพเดทเทรนด์ ก็ลองมาชมกันได้เลย
ชีวิตคือการเดิน
การเดินเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนเรา เรียกได้ว่า ตั้งแต่สมัยโบราณที่มนุษย์เราพัฒนาขึ้นจนรู้จักการเดินด้วย 2 เท้า การเดินก็กลายเป็นวิธีหลักที่ใช้สำหรับเดินทาง แม้ปัจจุบันวิถีชีวิตหลายๆ อย่างจะเปลี่ยนไปพอสมควร มีการใช้ยานพาหนะอย่าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้า ทดแทนการเดินทางในระยะไกลหรือเพื่อทุ่นเวลาการเดินทาง แต่การเดินก็ยังคงเป็นกิจกรรมขั้นพื้นฐานที่ถูกใช้อยู่บ่อยๆ อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปเข้าห้องน้ำ เดินไปกินข้าว หรือแม้แต่การเดินออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
รู้หรือไม่ว่า โดยทั่วไปแล้ว คนที่เดินบ่อยๆ มักจะเดินอย่างน้อยวันละ 7,500 ก้าว และสมมติคุณมีอายุ 80 หมายความว่าคุณจะเดินไปทั้งหมด 216,262,500 ก้าว คิดเป็นระยะทางประมาณ 1 แสน 8 หมื่นกิโลเมตร หรือคิดง่ายๆ ก็คือ เกือบ 5 รอบโลกเลยทีเดียว
Birkenstock ดียังไง ทำไมถึงครองใจคนไปทั่วโลก?
- Birkenstock เป็นแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพชื่อดังของโลก แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงรองเท้า เราก็จะนึกถึงรองเท้าหลากหลายแบบ ทั้งรองเท้าแตะ รองเท้ากีฬา รองเท้าแฟชั่น แต่ Birkenstock นั้นโดดเด่นเรื่องการเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ เพราะจุดประสงค์แรกสุดของผู้ผลิตคือการสร้างรองเท้าที่ใส่สบาย
- Birkenstock มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 1774 ถ้านับจากตอนนี้ก็อายุอานามปาเข้าไป 242 ปี เรียกว่าอยู่คู่กับการดูแลสุขภาพเท้ามานานหลายชั่วอายุคนก็ว่าได้ โดยมีต้นกำเนิดจากคุณหมอคนหนึ่งซึ่งต้องยืนผ่าตัดเป็นเวลานานจนปวดเท้า และนั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างรองเท้าแบรนด์นี้ขึ้นมา
- การที่มีอายุ 200 กว่าปีไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ Birkenstock ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่คนรุ่นใหม่ทุกคนพร้อมจะเปิดรับสิ่งเก่าๆ แต่สิ่งที่ทำให้ Birkenstock ครองใจผู้คนได้จนถึงปัจจุบันคือ พวกเขาพัฒนาสิ่งใหม่ๆออกมาเสมอ
- ด้านบนของรองเท้า Birkenstock ซึ่งเป็นส่วนที่จะถูกเห็นมากที่สุดเมื่อเราสวมใส่นั้นถูกผลิตด้วยหนังแท้ หมายความว่าเราจะได้สวมใส่รองเท้าที่โชว์ความสวยงามของหนังแท้ นอกจากนั้นยังมีความทนทาน และให้สัมผัสที่นุ่มสบายยามสวมใส่อีกด้วย
- หลายคนอาจจะเคยประสบปัญหา ซื้อรองเท้ามาได้ไม่กี่เดือน ใส่ได้ไม่นานก็พังเสียแล้ว แต่คุณจะไม่พบปัญหานี้ถ้าคุณเลือกใช้ Birkenstock เพราะของเค้านั้นทนทานหายห่วง ด้วยวัสดุที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี และงานประกอบที่ใส่ใจรายละเอียดทุกชิ้น ได้รับการยืนยันจากผู้ใช้จริงว่าใส่กันอย่างต่ำก็ 3-4 ปี บางคนใส่ได้เป็น 10 ปีเลยทีเดียว
- สำหรับสาวๆ ก็ไม่ต้องห่วงว่า ถ้าใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพแล้วจะดูแก่ไหม ดูโบราณไหม ความจริงคือ เราสามารถใส่เพื่อ Mix and Match กับชุดได้หลากหลายสไตล์ การันตีความสวยงามได้จากดาราฮอลลีวูดชื่อดังจำนวนมากที่ใส่ Birkenstock เดินกันเป็นปกติ
- จุดเด่นที่สุดอีกจุดหนึ่งของ Birkenstock ก็คือ พื้นรองเท้าทำจากไม้ก๊อก ซึ่งเมื่อสวมใส่ไปสักพัก รองเท้าจะสามารถปรับสภาพให้เข้ากับเท้าของเราได้เอง กลายเป็นรองเท้า Costume ที่พิเศษสำหรับคุณคนเดียว และแน่นอนว่าเมื่อพื้นของรองเท้ารองรับเท้าของเราอย่างเต็มที่ ก็จะทำให้ใส่สบายหายห่วงเลยล่ะ แถมยังเป็นทางออกสำหรับคนที่มีรูปร่างเท้าแตกต่างออกไป เช่นเท้าแบน หรือเท้าแบบ High Arch อีกด้วย
- มีดีไซน์หลากหลายให้เลือกซื้อเลือกใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะใส่เดินทั่วไปรูปทรงคลาสสิกอย่าง Birkenstock Arizona รองเท้าแฟชั่นน่ารักๆ อย่าง Birkenstock Torino หรือแบบลำลองอย่าง Birkenstock London และ Montana
- ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ทั้งหนังสัตว์ ไม้ก๊อก และเส้นใยปอ ซึ่งล้วนมาจากธรรมชาติ ไม่ใช่วัสดุสังเคราะห์
- นอกจากจะใส่สบายแล้วยังช่วยจัดระเบียบร่างกายอีกด้วย เพราะการใส่รองเท้า Birkenstock จะช่วยให้เราวางตำแหน่งเท้าอย่างถูกต้องซึ่งจะส่งผลต่อบริเวณกล้ามเนื้อหลังและกระดูกสันหลัง ทำให้ช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดขา ปวดข้อเข่าได้
เมื่อรู้กันชัดๆ ไปแล้วว่า Birkenstock ดียังไง ตอนนี้หลายคนคงเริ่มสนใจรองเท้าแบรนด์ดังจากเยอรมันขึ้นมา และคงอยากจะรู้ว่า Birkenstock ราคาค่าตัวอยู่ที่เท่าไหร่ จะได้รีบไปจับจ่ายมาไว้ในครอบครองกันอย่างเร็วไว สำหรับราคาของ Birkenstock ในไทยอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากเป็นรองเท้านำเข้า ซึ่งบอกเลยว่าจะคุ้มทุกบาททุกสตางค์แน่นอนเมื่อเทียบกับความสบายและความทนทานที่ได้มา การจ่ายเงินซื้อรองเท้าดีๆ ทีเดียวซึ่งใช้ได้หลายๆ ปี ดีกว่าจ่ายเงินไม่มากเพื่อซื้อรองเท้า แต่ใส่ได้ไม่นานก็พัง ใส่ได้ครั้งเดียวไม่สบายก็ต้องทิ้ง นอกจากนั้นให้ลองดู Event ลดราคาประจำปีกันให้ดี เพราะ Birkenstock ลดราคา ซึ่งอาจจะลดสูงถึง 50% และแน่นอนว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็อย่าได้รอช้า เพราะเผลอแป๊บเดียวก็จะโดนคนอื่นชิงตัดหน้าไปก่อนแน่ๆ