เครื่องฟองอากาศเป็นสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งสำหรับคนกรุงเทพ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แออัด อากาศไม่ปลอดโปร่งมีฝุ่นและควันจากมลพิษต่างๆ มากมาย ทำให้คนกรุงเทพส่วนใหญ่หันมาเลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ เป็นตัวช่วยกันเยอะขึ้น ซึ่งเครื่องฟอกอากาศเป็นตัวที่ช่วยกรองไรฝุ่น เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย และมลพิษต่างๆ รวมไปถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน เรียกได้ว่าเป็นด่านแรกก่อนที่เราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปในร่างกาย
ในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่เป็นโรคภูมิกันเยอะ สาเหตุมาจากไรฝุ่น เชื้อโรค เชื้อไวรัส และมลพิษต่างๆ ในอากาศ ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตคนในบ้านได้ ในวันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อและตัวอย่างเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อต่างๆ มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้มาใช้เพิ่มความปลอดภัยไร้โรคภูมิแพ้ให้กับคนในครอบครัว
วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟองอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน
- CADR คือ ค่าสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ดูว่าการทำงานของเครื่องนี้ มีอัตราการสร้างปริมาณอากาศบริสุทธิ์ได้เท่าไหร่ต่อนาที โดยเครื่องฟอกอากาศแต่ละเครื่องมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ในการขจัดมลภาวะในอากาศ ซึ่งสามารถแบ่งมลภาวะได้เป็น 3 ประเภท คือ ควันบุหรี่, ฝุ่นละออง และ ละอองเกสรดอกไม้ หากมีมลภาวะทั้ง 3 ชนิดนี้อยู่ในอากาศอย่างหนาแน่น เครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างรวดเร็ว และแสดงค่าออกมาเป็น CADR และหากค่า CADRสูงมากเท่าไหร่ แสดงว่าอากาศภายในบ้านบริสุทธิ์ขึ้นมากเท่านั้น ค่าCADR ยิ่งสูง ยิ่งดี
- Airflow คือ ค่าที่ใช้การวัดความรวดเร็วในการฟองอากาศ ยิ่งค่านี้สูงมากเท่าไหร่ ปริมาณอากาศที่ถูกกรอกก็จะยิ่งมากขึ้น
- ขนาดของห้อง เป็นสิ่งที่จำเป็นข้อใหญ่ๆ สำหรับการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพราะขนาดของเครื่องควรจะให้เหมาะสมกับขนาดของห้องที่เรานำเครื่องไปใช้งานด้วย เพราะถ้าเราเลือกที่จะใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนที่มีขนาดเล็ก ราคาไม่แพงมาก แต่นำไปใช้กับห้องนอนของเราที่มีขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องอาจจะลดลงหรืออาจจะไม่เพียงพอ ทำให้การฟอกอากาศไม่ทั่วถึงและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- ระดับเสียงการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนด้วยแล้วละก็ควรจะมีเสียงรบกวนให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนการนอนหลับของสมาชิกภายในบ้าน ถ้าเลือกซื้อเครื่องที่คุณภาพต่ำมาใช้งานอาจจะมีเสียงรบกวนตามมาทำให้คุณรำคาญด้วยก็ได้
- อัตราการกินไฟ เครื่องฟอกอากาศแต่รุ่นจะมีอัตราการกินไฟที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่อง จำนวนวัตต์ของไฟที่ต้องใช้งาน หากเครื่องมีจำนวนวัตต์สูงก็จะทำให้มีอัตราการกินไฟสูงตามไปด้วย
เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อต่างๆที่คนส่วนมากนิยมใช้
เครื่องฟอกอากาศ Sharp
เป็นเครื่องฟองอากาศที่คนส่วนใหญ่ก็นิยมใช้กัน รุ่นที่แนะนำ คือ รุ่นFP-FM40B-B เครื่องฟอกอากาศ Sharp พลาสม่าคลัสเตอร์ มาพร้อมฟังก์ชั่นเครื่องดักยุง สามารถฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ และสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ สลายฤทธิ์สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น มีโหมดการนอนหลับ Sleep Mode เครื่องทำงานเสียงเบา ไม่รบกวนการนอนหลับ และนอกจากนี้ความเร็วการทำงานของพัดลมจะมีการปรับโดยอัตโนมัติขึ้นกับความบริสุทธิ์ของอากาศ เหมาะสำหรับห้องนอนขนาด 30 ตารางเมตร ราคาประมาณ 12,990 บาท
เครื่องฟอกอากาศ Bwell
เครื่องฟอกอากาศสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ และผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจโดยเฉพาะ สามารถฟอกอากาศได้ครบถึง 7 ขั้นตอน กรองฝุ่น ดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อ โดยเครื่องออกแบบตามมาตรฐานหน่วยงานรักษาสิ่งแวดล้อม U.S.A. รุ่น AC-2104 สามารถใช้ได้กับห้องที่มีขนาด 40 ตารางเมตร กำจัดไวรัสไข้หวัดใหญ่ H5N1 ได้ด้วย และไวรัสตัวอื่นๆ ยิ่งในหน้าฝนไวรัสหลากหลายสายพันธุ์จะระบาดเป็นจำนวนมาก ราคาประมาณ 14,990 บาท
เครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Link
กำจัดอนุภาคที่มีขนาดเล็กได้มากถึง 0.1 ไมครอน ได้โดยอัตโนมัติถึง 99.95% ระบบกำจัดอัจฉริยะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องและอากาศภายในบ้าน เซ็นเซอร์หลายตัวจะตรวจจับสภาวะที่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะปรับระดับแรงลมให้อยู่ในระดับที่คุณต้องการ ตารางคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์จะส่งไปถึงแอพ Dyson Link ของคุณโดยตรง สามารถโหลดแอพของ Dyson มาใช้ได้กับมือถือของคุณ
อากาศทุกวันนี้มีทั้งฝุ่น ควัน มลพิษ เชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ที่ต้องพบเจออย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ฉะนั้นเราควรหาตัวช่วยในการช่วยดูแลเรื่องสภาพอากาศให้กับตัวเราและคนในครอบครัว ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้า เครื่องฟอกอากาศ ซื้อมาไว้สัก 1 เครื่อง เพื่อสร้างอากาศสดชื่นให้กับคนในบ้าน จะได้หายใจกันได้อย่างเต็มปอดแบบไม่กังวลกันอีกต่อไป และที่สำคัญลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย