การเดินทางท่องเที่ยว ถือเป็นกิจกรรมสันทนาการที่คนส่วนมากนิยม อันที่จริงชีวิตของเราคือการเดินทางอยู่แล้ว ในช่วงชีวิตของคนเรา ผ่านการเดินทางมาหลากหลายรูปแบบ ตลอดเส้นทางมีทั้งความสุขและความทุกข์ แต่การเดินทางท่องเที่ยวถือเป็นการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งที่มอบทั้งสุขและความสบายใจให้กับผู้ที่ออกเดินทางทุกคน
โลกของเราใบนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอคนรักการท่องเที่ยวไห้ไปสัมผัส หลายแห่งเป็นสถานที่ลึกลับและห่างไกล แต่ในชีวิตหนึ่ง คนรักการเดินทางควรหาโอกาสไปสัมผัสให้ได้ วันนี้ Central Inspirer จะชวนคุณไปสัมผัสกับ 15 Unseen Destination!! แหล่งท่องเที่ยว (ลับ) จากทั่วมุมโลกที่คุณต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต
15 Unseen Destination!! แหล่งท่องเที่ยว (ลับ) จากทั่วมุมโลก
1. เกาะซีมิ (Symi) ประเทศกรีซ
เกาะแสนสวยในประเทศกรีซ ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป Symi เป็นเกาะที่มีท่าเรือเล็กๆ แสนสวย เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยภูมิภาคของ Rhodes ซึ่งเป็นอ่าวที่สวยที่สุดในประเทศกรีซ ทั่วทั้งเกาะจะรายล้อมไปด้วยตึกรามบ้านช่องสีสันสดใสสไตล์นีโอคลาสสิค ที่นี่คุณจะได้เดินเล่นไปตามตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ริมชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูร้อนที่มีอากาศดี และในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เกาะ Symi จะเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีแสนสวย นับเป็นหนึ่ง Unseen Destination แสนโรแมนติกที่ชีวิตนี้ไม่ควรพลาด
2. เจดีย์ Hsinbyume ประเทศเมียนมาร์
อีกแหล่งท่องเที่ยว Unseen ใกล้บ้านเรา คือ เจดีย์ Hsinbyume หรือที่เรียกว่า Mya Thein Tan ซึ่งแปลว่า ‘มรกต 100,000 เม็ด’ เจดีย์ Hsinbyume เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิระวดี และอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ประมาณ 10 กิโลเมตร เจดีย์ Hsinbyume มีสีขาวและมีรูปแบบตามลักษณะทางกายภาพของภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธศาสนาคือ Mount Meru ใครก็ตามที่มีโอกาสไปท่องเที่ยวมัณฑะเลย์ไม่ควรพลาดโอกาสไปสักการะ และชมความงดงามของ เจดีย์ Hsinbyume แห่งนี้
3. โมร็อกโก (Morocco) ทวีปแอฟริกา
สำหรับคนที่รักการช้อปงานคราฟท์ต่างๆ ต้องไม่พลาดไปเยือนมอร็อกโก หรือราชอาณาจักรโมร็อกโก ซึ่งเป็นรัฐเดี่ยวและรัฐเอกราชที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคมาเกร็บในแอฟริกาเหนือ ในทางภูมิศาสตร์ โมร็อกโกมีเทือกเขาหินขรุขระตรงกลาง มีทะเลทรายขนาดใหญ่และมีชายฝั่งยาวมาตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกจนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน แต่โมร็อกโกก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของตลาดงานคราฟท์ เครื่องเทศ และอาหารที่แสนอร่อยมากมายที่รอให้คุณไปเดินซอกซอน และพบปะกับคนท้องถิ่นที่มีอัธยาศัยดี
4. คฤหาส Kings Weston Estate ในบริสตอล ประเทศอังกฤษ
ย้อนเวลาไปในอดีตกับสถานที่แสนสวย King Weston Estate ในเมืองบริสตอลเหนือ ของประเทศอังกฤษที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 18 คฤหาสน์หลังนี้รายล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม มองเห็นวิวของ Severn Estuary ซึ่งเป็นปากแม่น้ำเวิร์นเป็นปากแม่น้ำเซเวิร์นที่ไหลลงสู่ช่องแคบบริสตอลระหว่างทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษและเซาธ์เวลส์ เดินเที่ยวชมอาคารสิ่งก่อสรา้งยุคโบราณที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าหลงไปอยู่ในช่วงสมัยของ Jane Austen เลยทีเดียว
5. น้ำตกวิกตอเรีย (Victoris Fall) ประเทศซิมบับเว ทวีปแอฟริกา
อีกหนึ่ง Unseen Destination ที่ในชีวิตนี้พลาดไม่ได้ คือ น้ำตกวิกตอเรีย หรือในชื่อท้องถิ่นว่า โมซิ-โอวา-ทุนยา หรือในซิมบับเวเรียกว่า ‘น้ำตกมูกาบี’ น้ำตกวิกตอเรียตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และประเทศซิมบับเว เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกค้นพบครั้งแรกโดย เดวิด ลิฟวิงสโตน ในปี ค.ศ. 1855 ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อน้ำตกนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ของประเทศอังกฤษ
เมื่อพูดถึงอาฟริกา ทุกคนคนนึกถึงพื้นที่ร้อน แห้งแล้ง ทะเลทราย และเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด แต่ที่น้ำตกวิกตอเรีย พื้นที่จะชุ่มชื่นไปด้วยความเขียวขจีของแมกไม้ต่างๆ และสายน้ำที่กระเซ็นมาจากแม่น้ำและน้ำตกซึ่งนำน้ำมากมายมาสู่พื้นที่บริเวณนี้ นอกจากคุณจะตื่นตาตื่นใจกับความงามของน้ำตก ความสดชื่นของสายน้ำแล้ว คุณยังมีโอกาสได้เห็นสัตว์ต่างๆ มากมายทั้งน้อยใหญ่ เช่น กระรอก กระต่าย ฮิบโป หรือแม้แต่ช้างป่าแอฟริกันอีกด้วย คนรักสัตว์ รักธรรมชาติไม่ควรพลาดนะคะ
6. เกาะแมคคินแนก (Mackinac Island) มลรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
หากใครเคยดูหนังรักโรแมนติก Somewhere in Time หรือมีชื่อไทยว่า ‘รักเอย…ไม่เคยเลยลับ’ หนังเก่าที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2523 แสดงโดยอดีตดาราซูเปอร์แมนคนดัง Christopher Reeve กับ Jane Seymour หนังเรื่องนี้ถายทำบนเกาะนี้เกือบทั้งเรื่อง
เกาะแมคคิแนกเป็น Resort Island ในทะเลสาบฮูรอน ทางฝั่งตะวันออกของช่องแคบแมคคินแนก ระหว่างคาบสมุทรตอนบนและตอนล่างของรัฐมิชิแกน มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ 4.35 ตารางไมล์ โดยชื่อของเกาะในภาษา Ojibwemowin หมายถึง “เต่าตัวใหญ่”
เกาะแสนสวยแห่งนี้มีโรงแรม Grand Hotel โรงแรมสุดหรูหรูเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Somewhere in Time นี้ บนเกาะ คุณจะเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ บ้านเรือน และร้านค้าขายของที่ระลึกที่พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมทั่วเกาะบนรถม้าในเมืองที่แสนจะโรแมนติกแห่งนี้
7. กรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem) ประเทศอิสราเอล
เมื่อย้อนกลับไปในยุคโบราณหลายพันปี เมื่อผู้คนเริ่มอพยพตั้งถิ่นฐาน ประเพณีและวัฒนธรรมเริ่มถูกสรรค์สร้างขึ้น กรุงเยรูซาเล็มเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในโลกที่เข้มข้นทางวัฒนธรรมและศาสนา เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของผู้คน เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวอันศักดิ์สิทธิ์มากมาย
ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใด หากคุณเป็นผู้รักการเดินทางท่งเที่ยว ไฝ่หาความรู้ คุณต้องไปเยือนกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองที่มีคาแรคเตอร์เป็นของตนเอง เป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์และศาสนามาเป็นเวลาช้านาน ที่เยรูซาเล็มคุณจะได้พบกับโบสถ์คริสต์ และมัสยิดเก่าแก่และสวยงาม มีจุดทางประวัติศาสตร์ให้ศึกษาและถ่ายรูปมากมายค่ะ
8. จังหวัดอากิตะ (Akita) ประเทศญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความเจริญ แสงสีเสียง แต่จังหวัดอากิตะ ถือเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวนโดยความเจริญต่างๆ
จังหวัดอากิตะตั้งอยู่ในภาคตะวันออกฉียงเหนือของญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่ได้รับการยกฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางตั้งแต่ 1 เมษายน พ.ศ. 2432 เป็นต้นมา และเป็นเมืองที่สามารถปลูกและผลิตข้าวได้มากที่สุดในประเทศ เราสามารถเดินทางไปเยี่ยมเยียนจังหวัดนี้ได้ด้วยรถไฟชิงคันเซนโดยใช้เวลาดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงโตเกียว เมื่อคุณถึงจังหวัดอากิตะ คุณจะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนสวย โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง อากาศที่นั่นจะสดชื่นมาก คุณสามารถสูดโอโซนได้อย่างเต็มปอด จังหวัดนี้มีภูเขาลูกสวยมากมาย โดยเฉพาะ Mt. Chokai ที่มักถูกเปรียบเทียบความงามกับ Mt.Fuji ซึ่งจะสวยมากในฤดูหนาว หากมีแผนไปเยี่ยมเยียนญี่ปุ่น หลบแสงสี แล้วไปเที่ยวจังหวัดอากิตะกันให้ได้นะคะ
9. Towpath Café ลอนดอนตะวันออก ประเทศอังกฤษ
หากคุณมีโอกาสไปเที่ยวประเทศอังกฤษ อีกที่หนึ่งที่ขอแนะนำให้คุณไปพักผ่อนชาร์จแบตกันคือ Towpath Café ในลอนดอนตะวันออก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ Towpath Café ตั้งอยู่บริเวณคลอง Regent’s Canal ใกล้เมือง Haggerston จะเปิดตัวให้คุณรื่นรมย์กับธรรมชาติริมสองฝั่งคลอง พร้อมร้านอาหาร และคาเฟ่ มากมายให้คุณนั่งรับประทาน หากคุณรักการถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่มีมุมให้คุณแชะรูปมากมายรับรองได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ Unseen และ Highly Recommend ค่ะ
10. แคว้นปุลยา (Puglia) ประเทศอิตาลี
แคว้นปุลยา หรืออะพิวเลีย เป็นแคว้นหนึ่งในยี่สิบแคว้นของประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีอาณาเขตจรดทะเลเอเดรียติกทางทิศตะวันออก จรดทะเลไอโอเนียนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจรดช่องแคบโอตรันโตและอ่าวตารันโตทางทิศใต้ และส่วนใต้สุดของแคว้นเป็นคาบสมุทรเล็กๆ ที่มีชื่อว่าซาเลนโต ปุลยาอยู่บริเวณใต้สุขของเกือกม้า เป็นดินแดนอันสวยงามที่ได้รับอิทธิพลจากชาวสเปน กรีก นอร์แมน และไบเเซนไทน์ในอดีต
นอกจากจะมีภูมิประเทศที่งดงามแล้ว แคว้นปุลย่ายังมีอาหารอร่อยมากไม่แพ้แคว้นใดๆ ในอิตาลี ด้วยพื้นที่ที่อยู่ปลายสุดของประเทศจึงมีบริเวณเรียบชายฝั่งเป็นระยะทางยาวไกล เป็นแหล่งสำคัญในการปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์และมะกอกในการทำน้ำมันมะกอกหากคุณมาเยี่ยมเยียนแคว้นปุลยา ต้องไม่พลาดกับ Cucina Povera หรือเมนูการทำอาหารสไตล์ท้องถิ่น ที่มักรู้จักกันในนาม Poor Cooking แต่อร่อยถูกปากหากได้ลิ้มลอง ที่นี่ยังมีรีสอร์ท โรงแรมที่พักมากมายที่เหล่าเซเลบชื่อก้องโลกมักหลีกหนีโลกแห่งความวุ่นวายมาพักผ่อนที่นี่กันค่ะ
11. เกาะมาดากัสการ์ (Madagascar) ทวีปแอฟริกา
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยให้คุณสามารถหลีกหนีแสงสี และความทันสมัย อยากสัมผัสความ Unseen จริงๆ แนะนำให้มาเยี่ยมเยือนเกาะมาดากัสการ์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา บนมหาสมุทรอินเดีย เกาะมาดากัสการ์ถือเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก คำว่า “มาดากัสการ์” มีความหมายว่า “ดินแดนแห่งบรรพบุรุษ” เนื่องจากชาวพื้นเมืองที่นี่มีความเชื่อว่า เมื่อตายไปแล้ว วิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจะยังคงปกป้องสิ่งที่ชีวิตที่เหลือ
เกาะมาดากัสการ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกกับคนรักธรรมชาติ สัตว์ป่า และชอบใช้ชีวิตในสไตล์แอดเวนเจอร์ มีสัตว์ป่าถึง 80% ที่คุณจะไม่สามาถพบเจอในที่อื่นได้ นอกจากนี้เกาะมาดากัสการ์ยังมีชายหาดที่แสนสวยริมมหาสมุทรอินเดีย พลาดไม่ได้ที่จะไปเยือน Nosy Be จุดชมวิวริมชายฝั่งที่สวยงามที่สุด เป็นที่ที่คุณจะมีโอกาสได้ส่องดูวาฬหลังค่อม และตัวลีเมอร์ที่มีให้เห็นมากมายทั่วชายฝั่ง
12. เมืองดาลัก (Dalakh) ประเทศอินเดีย
ลาดัก หรือทิเบตน้อย เป็นดินแดนสหภาพแห่งหนึ่งของประเทศอินเดีย ปัจจุบันครอบคลุมตั้งแต่ธารน้ำแข็งเซียเชนของเทือกเขาการาโกรัมไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัยทางตอนใต้ ที่นี่เป็นภูมิภาคที่มีประชากรเบาบางที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเกี่ยวข้องกับทิเบต
สำหรับคนรักการท่องเที่ยวในสไตล์แอดเวนเจอร์ไปยังภูมิประเทศที่สวยงาม ลาดักเป็นอีกหนึ่ง Unseen Destination ที่ชีวิตนี้คุณต้องไปเยือนให้ได้ เพราะยังถือเป็นพื้นที่ที่ยังคงความสดใหม่ ยังไม่เคยถูกสัมผัส และยังคงความงามตามธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ลาดักตั้งอยู่บนพื้นที่สูงประมาณ 11,500 ฟุตจากน้ำทะเลจึงมีอากาศบางเบา เป็นภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน และอยู่ท่ามกลาง 4 ยอดเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก The Great Himalaya, The Ladakh, The Zanskar และ The Karakoram ที่ดาลักมีโฮมสเตย์ให้คุณไปพักอาศัยมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับผู้คนและวัฒนธรรมของผู้คน นับเป็นหนึ่งเมืองที่พลาดไม่ได้หากคุณเป็นคนรักการทองเที่ยวสไตล์นี้
13. หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) ในประเทศเดนมาร์ก
หมู่เกาะแฟโรตั้งอยู่ในดินแดนที่มีอากาศหนาวตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ระหว่างสกอตแลนด์ และไอซ์แลนด์ หมู่เกาะแฟโรเป็นสถานที่ที่คุณสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงได้อย่างแท้จริง เราะที่นี่เงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตร คุณสามารถย้อนไปสู่อดีตของอนาจักรเดนมาร์กได้ที่นี่อย่างที่ไม่มีใครเคยได้สัมผัส ถือเป็นดินแดนแห่งไวกิ้งและมีความสวยงามตามธรรมชาติมากมาย มีการทำประมงที่ให้คุณได้ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ ได้เห็นภาพและสัมผัสกับการใช้ชีวิตของผู้คนบนเกาะ ที่นี่ยังมีภัตตาคารระดับมิชลินสตาร์ KOKS ที่พร้อมให้คุณได้ลิ้มรสชาติอาหารของชาวเกาะแฟโรอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีโรงแรมแสนสวยที่ให้คุณได้พักผ่อนในสไตล์นอร์ดิก มองดูวิวริมทะเลจนคุณไม่อยากจากหมู่เกาะแฟโรไปเลยจริงๆ
14. หมู่เกาะสตอกโฮล์ม (Stockholm Archipelago) ประเทศสวีเดน
ไหนๆ เที่ยวเกาะกันแล้ว ไปเที่ยวเกาะที่เป็น Unseen Destination ในประเทศสวีเดนอีกจุดหนึ่งคือ หมู่เกาะสตอกโฮล์ม เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดน และใหญ่เป็นอันดับสองในทะเลบอลติก มีเกาะเล็กเกาะน้อยรวมอยู่ประมาณ 3,000 เกาะ ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ชาวสวีดิชนิยมไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หมู่เกาะสตอกโฮล์ม เป็นที่รู้จักกันในหมู่คนท้องถิ่นว่า ‘Skärgården’ หรือ ‘อัญมณีแห่งสวีเดน’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยี่ยมเยียนมากนัก ที่มีชายหาดสวยงามมากมาย มีปราสาทโบราณ และธรรมชาติที่รอคอยให้คุณไปสัมผัส
15. ปอซนัญ (Poznan) ประเทศโปแลนด์
โปแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเที่ยว และมีสถานที่ Unseen ที่ชีวิตนี้ควรได้ไปสัมผัส และปอซนัญ ก็เป็นอีกเมืองในโปแลนด์ที่คุณต้องไม่พลาดเมื่อไปเยือนประเทศนี้ ปอซนัญเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บน 2 ฝั่งของแม่น้ำวาร์ตา อยู่ทางตะวันตก-ตอนกลางของประเทศโปแลนด์ ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุด เป็นเมืองยุโรปเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความสวยงามในอดีตที่คนรักการท่องเที่ยวในทวีปยุโรปควรหาโอกาสไปเยี่ยมเยียน ไปพบปะผู้คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย สบายๆ ไม่มีความหวือหวา ตึกรามบ้านช่องสวยงาม เป็นเมืองเก่าอีกเมืองหนึ่งในยุโรปที่ชีวิตนี้ต้องไปให้ได้
นอกจาก 15 แหล่งท่องเที่ยว (ลับ) Unseen Destination ที่ Central Inspirer แนะนำให้คุณได้รู้จัก ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายจากทั่วมุมโลกทั้งใกล้และไกลที่รอคุณไปสัมผัสอยู่ หากคุณรักการเดินทางท่องเที่ยว หาเวลา และกาโอกาสเปิดโลกทัศน์และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปพบปะผู้คน เยี่ยมชมสถานที่สวยงาม ชมธรรมชาติ หาอาหารอร่อยๆ แปลกๆ ใหม่ๆ รับประทาน เพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวินะคะ Have a great journey ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: wanderlust.co.uk/harpersbazaar.com
Picture credit: pinterest.com/wanderlust.co.uk/chillchilljapan.com