นอกจากใบหน้าและเสื้อผ้าแล้ว สิ่งที่หนุ่มๆ ให้สำคัญอีกอย่างคือเรื่องของ “ทรงผม” นั่นเอง เพราะสิ่งนี้จะช่วยบ่งบอกความเป็นตัวเองและมีพลังในการปรับบุคลิกภาพให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อีกด้วย ทำให้เวลาที่หนุ่มๆ จะต้องตัดผมแต่ละครั้งก็ต้องคิดกันอย่างละเอียดถี่ถ้วนกันเลยทีเดียว เพราะกว่าจะยาวใหม่ อาจจะใช้เวลานานถึง 3-4 เดือนเลยกว่าจะตัดผมทรงที่ต้องการได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น Central Inspirer จึงนำ 15 ทรงผมชายประจำปี 2025 มาให้หนุ่มๆ ได้เลือกพิจารณากัน ทรงไหนเท่ ทรงไหนโดนใจ เดินเข้าร้านตัดผมและบอกช่างได้เลย
1. SLICKED BACK UNDERCUT
ผมทรงนี้เป็นการรวมเอาผมทรง Slicked Back สุดคลาสสิคมารวมเข้ากับ Undercut สุดเท่ โดยทรงนี้มีจุดเด่นตรงที่การเซ็ตผมที่ง่ายมากๆ เพียงแค่ปาดเจลหรือโพเมดลงไปบนผมให้เรียบก็จะเกิดแป็นทรงนี้ขึ้น และผมด้านข้างจะเป็นแบบ Undercut ซึ่งจะทำให้ผมด้านข้างและด้านบนมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์หนุ่มๆ คนไหนก็ตามที่ขี้เกียจเซ็ตผมให้ยุ่งยากก่อนออกจากบ้าน ซึ่งแนะนำว่าเพื่อให้ผมทรงนี้ออกมาเพอร์เฟคต์ที่สุดต้องไว้ผมด้านบนให้ยาวประมาณ 4 -5 นิ้วเสียก่อน
2. CURLY HAIR WITH FADE
หากใครสงสัยว่าตัดผมรองทรง (Fade) ยังไงให้ดูเท่ ทรง CURLY HAIR WITH FADE นี้คือคำตอบ โดยจะเป็นการผสานผมรองทรงเข้ากับผมหยักศก ที่ดูเซอและคูลสุดๆ ไปเลย รับรองว่าภ้าสาวๆ ได้เห็นผมทรงนี้ของคุณจะต้องถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน
3. CREW CUT
CREW CUT เป็นทรงผมที่ผู้ชายหลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมันคือทรงนักเรียนนั่นเอง แต่ไม่ใช่การตัดด้านข้างด้วยปัตตาเลี่ยนเบอร์ 0 ให้ขาวสามด้านอีกต่อไป แต่จะเป็นการใช้การแกะลายเช่น Surgical Line ใช้การไล่ระดับผม และการตัดผมด้านบนให้ดูโดดเด่น โดยทรงนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบไว้ผมสั้นและเป็นผู้ชายสายลุย เพราะเมื่อตัดออกมาแล้วจะดูแมนสุดๆ ดูมะทัดทะแมง และเท่มากๆ
4. MEDIUM FADE SPIKY
MEDIUM FADE SPIKY หรือรองทรงกลางที่ทำผมด้านบนให้ตั้งนั่นเอง ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกทรงที่มีความเท่มากๆ โดยทรงนี้จะต้องไว้ผมด้านบนให้ยาวเสียก่อนจึงจะสามารถตัดได้ ส่วนด้านข้างจะเป็นการตัดออกให้เห็นส่วนขาวเพิ่มขึ้นจากรองทรงต่ำเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแต่งตัวสไตล์วินเทจ เพราะผมทรงนี้มีความเข้ากันแบบสุดๆ กับการแต่งตัวสไตล์นี้ ใครที่ผมยาวแล้วก็ลองไปตัดกันเลย
5. LONG COMB OVER
ทรง LONG COMB OVER เป็นทรงผมรับรองว่าถ้าคุณไว้ทรงนี้ไม่มีซ้ำใครแน่ๆ โดยจะเป็นทรงผมที่ด้านข้างจะเปิดให้เห็นสีขาวเพียงเล็กน้อยหรือขาวทั้งหมด และมีจุดเด่นของผมด้านบนที่ยาวมากๆ แล้วหวีเป๋มาที่ผมด้านข้าง เมื่อตัดออกมาแล้วจะทำให้คุณดูติสท์ มีความเป็นศิลปินแบบสุดๆ ซึ่งถ้าคุณไว้หนวดเคราก็จะยิ่งเสริมความเท่ให้มากขึ้นไปอีก
6. MEDIUM SIDE SWEPT
ทรงผมนี้หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ผมเปิดข้าง” แต่เป็นผมเปิดข้างที่ผมด้านข้างเป็นสีขาว ด้านบนเซตให้เป๋ไปด้านข้าง เมื่อทำออกมาแล้วก็จะทำให้ดูคูลสุดๆ ไปเลยตามภาพที่คุณเห็น เหมาะสำหรับคนที่อยากไว้ผมปานกลาง ไม่สั้น ไม่สาวจนเกินไป และเซ็ตผมได้ง่ายสุดๆ
7. SHORT TEXTURED HAIRCUT
สำหรับหนุ่มๆ ที่ชอบผมสั้น ทรงนี้เป็นอีกหนึ่งทรงที่ตอบโจทย์มากๆ โดยจะมีการเล่นระดับกับผมด้านข้างให้ดูโดดเด่น และเหลือผมด้านบนเอาไว้มากพอให้เราสำหรับเซ็ตได้ นอกจากนี้ผมทรงนี้ยังเหมาะสำหรับเมืองร้อนของประเทศไทยแบบสุดๆ อีกด้วย
8. FRENCH CROP
แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่การไว้ทรงผมอย่าง FRENCH CROP ก็ไม่เคยเชยเลย โดยทรงนี้จะคล้ายๆ กับ Faded Cut และทรง Ceasar Cut แต่จะแตกต่างกันตรงที่ FRENCH CROP จะมีผมลงมาปรกที่หน้าผากมากกว่า ซึ่งโดยรวมแล้วทรงนี้ถือว่าเท่มากๆ ไม่แพ้ผมทรงอื่นๆ เลย
9. HIGH FADE POMPADOUR
โดยพื้นฐานแล้วทรงนี้ก็คือรองทรงสูงแต่จะเป็นไว้ผมด้านบนไว้ให้ยาวๆ สำหรับเซ็ตโดยการม้วนเป็นเกลียวหรือที่เรียนกันว่า Pompadour ซึ่งเป็นอะไรที่มีความคลาสสิคและวินเทจมากๆ เข้ากันได้กับทุกลุค ซึ่งในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
10. BRO FLOW
ทรง BRO FLOW ก็คือการไว้ผมยาวระดับปานกลางไม่ยาวจนมากเกินไป โดยทรงผมนี้จะช่วยให้คุณดูมีความเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ และดูดีมีสไตล์สุดๆ ซึ่งอาจจะมีการเติมลูกเล่นเข้าไปในการไว้ผมทรงนี้ให้ดูโดดเด่นมากขึ้น ตามภาพประกอบ
11. Faux Hawk
Faux Hawk เป็นการนำทรงผม Mohawk มาออกแบบใหม่ให้มีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ลุคที่ได้ออกมามีความหล่อ เท่ มีสไตล์ และยังดูมีระดับอีกด้วย โดยเมื่อดูผิวเผินอาจจะมีความคล้ายกับทรง Mohawk แต่จะแตกต่างกันตรงบริเวณผมด้านข้างที่ Faux Hawk จะมีเส้นผมไล่ระดับอยู่ ต่างจาก Mohawk ทีเป็นสีขาวทั้งหมด และผมด้านบนจะเซ็ตให้ตั้งขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยทรงผมนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผมบาง เพราะจะช่วยให้เส้นผมดูหนามากยิ่งขึ้น
12. Messy Waves
ผมทรงนี้ในบริเวณด้านข้างเป็นอย่างไรก็ได้แต่ด้านบนจะมีการทำ Messy Waves หรือก็คือการดัดลอนทำให้ผมมีวอลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเสริมให้ผมของหนุ่มๆ ดูโดดเด่น มีสไตล์ มากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชายที่ผมตรงมากๆ ทำให้เซ็ตผมยาก การทำผมแบบนี้ก็จะช่วยให้การเซ็ตผมง่ายขึ้น นอกจากนี้ถ้าใครผมบาง การทำ Messy Waves ก็จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นอีกด้วย
13. Quiff
ผมทรง Quiff หรือทรงผมที่สั้นด้านข้าง และยาวด้านบน โดยทรงผมนี้จะคล้ายๆ กับการนำทรงผม Undercut และ Pompadour เข้ามาผสมผสานกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่การเซ็ตผมให้มีความ Quiff นั้นจะต้องมีความยุ่งเหยิง การหยัก และการปัดเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ที่ต้องบอกเลยว่าดูมีสไตล์มากๆ แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่การทำทรงนี้จะต้องสิ้นเปลืองเจลตกแต่งทรงผมเป็นจำนวนมากนั่นเอง เพื่อให้ออกมาเป็นทรงที่สวยงาม
14. Straight Long
ถ้าหากคิดไม่ออกว่าจะตัดทรงไหนดี การไว้ผมยาวไปเรื่อยๆ ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะจะทำให้คุณดูเซอ แถมยังเท่สุดๆ และต้องบอกเลยว่าคนดังหลายๆ คนก็ไว้ผมยาวเช่นกัน อาทิ Keanu Reeves, Brad Pitt และ Chris Hemsworth (ในอดีต)