เรื่องราวของสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่สาวๆ ในปัจจุบันให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ อาทิ โยคะ ฟิตเนส และที่ฮิตสุดๆ นั่นก็คือ “การวิ่ง” ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนีนั่นเอง โดยพาร์ทที่จะเล่านี่เป็นเรื่องของ “รองเท้าวิ่ง” นั่นเอง ซึ่งเครื่องแต่งกายชิ้นสำคัญสำหรับใส่เพื่อการออกกำลังกายแบบนี้ แต่ปัญหาคือรองเท้าวิ่งในท้องตลาดนั้นมีเยอะมากๆ ทำให้ไม่รู้ว่าจะเลือกคู่ไหนดี? เพื่อขจัดปัญหานี้ให้หมดไปมาดามจึงได้นำ 10 รองเท้าวิ่งยอดฮิตในปี 2022 มาฝากทุกคนกัน จะมีคู่ไหนบ้างนั้น ตามมาดามมาดูกันเลย
ส่วนประกอบของรองเท้าวิ่ง
เพื่อให้คุณเข้าใจบทความนี้มากขึ้น มาดามจึงอยากให้คุณเข้าใจส่วนประกอบของเราเท้าซึ่งมี ดังนี้
นอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว ยังมีส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือส่วนที่เรียกว่า Insole หรือก็คือพื้นรองเท้าด้านในด้วย
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 1 – Blissfeel Women’s Running Shoe
ขอบคุณภาพจาก: shop.lululemon.com
มาเริ่มกันด้วยคู่แรกกับรองเท้าจากแบรนด์ Blissfeel ที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก แต่อย่างไรก็ตามรองเท้าคู่นี้ผู้หญิงทั่วโลกชื่นชอบเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่ออยู่ที่เท้าแล้วโดดเด่นมากๆ มาพร้อมกับโฟมลดแรงกระแทก เพื่อให้ออกวิ่งได้ยาวนานโดยที่เท้าของคุณไม่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบให้สวมใส่ได้สบายไม่อึดอัดอีกด้วย หากใครสนใจสองรองเท้าคู่นี้ก็เสนอราคาอยู่ที่ 148 ดอลลาร์ หรือเป็นเงินไทยราวๆ 5,500 บาท น่าเสียดายที่แบรนด์นี้ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ต้องสั่งจากเว็บไซต์ Official ของทางแบรนด์
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 2 – New Balance Fresh Foam Arishi V3 Road Running Shoe
ขอบคุณภาพจาก: New Balance
ราคา: 2,490 1,743 บาท (ประหยัด 30%)
สำหรับคู่ต่อมาเป็นของแบรนด์ New Balance ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดยรุ่นที่สาวๆ ชอบกันมากนั่นก็คือรุ่น Arishi V3 ที่มีสีสันสุดโดดเด่นและประดับด้วยโลโก้ของทางแบรนด์ อย่างไรก็ตามรองเท้าคู่นี้ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์เพียงอย่างเดียว ยังมาพร้อมคุณสมบัติสุดโดดเด่นมากมายเพื่อซัพพอร์ทกับการวิ่งของคุณ ดังนี้
- ระบบลดแรงกระแทกด้วย Fresh Foam ที่มีน้ำหนักเบามาก
- ด้านบนรองเท้าเท้าใช้เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี
- มีแผ่นโฟม EVA เพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่
- Outsole ทำจากยาง Cored เพื่อความยืดหยุ่นและความรู้สึกเบา
ด้วยคุณสมบัติและดีไซน์ทั้งหมด ที่มาดามว่ามานี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเป็นตัวเลือกของสาวๆ หลายคน
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 3 – HOKA Clifton 8
ขอบคุณภาพจาก: Hoka
รองเท้าคู่ต่อมานี้เป็นของแบรนด์ HOKA ที่มาพร้อมกับดีไซน์สีฟ้าสุดสดใส ที่รับรองได้เลยว่า หยิบขึ้นมาใส่ครั้งไหนก็โดดเด่นสุดๆ เรียกได้ว่าต่อให้ไม่นำไปใส่วิ่งก็ยังไปใส่เล่นๆ เป็นแฟชั่นก็ไม่เลวเหมือนกัน อย่างไรก็ตามนอกจากดีไซน์อันโดดเด่นแล้ว เขายังมีเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อซัพพอร์ทการวิ่งของคุณได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน อาทิ
- มีแผ่นรองเท้าเสริมส้น เพื่อให้รองรับการวิ่งได้ดียิ่งขึ้น
- ตัวรองเท้าออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี
- มี Midsole ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์จาก Hoka ช่วยลดแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม
นับว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่เซ็นทรัลออนไลน์จำหน่ายรองเท้ารุ่นนี้หมดไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็สามารถไปช้อปได้ที่ Supersport ได้เช่นกัน โดยจำหน่ายในราคา 4,990 บาทถ้วน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยกับคุณสมบัติที่จะได้มา
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 4 – Nike Air Zoom Tempo Next %
ขอบคุณภาพจาก: Nike
คู่ต่อมาที่มาดามภูมิใจในการนำเสนอมาก กับแบรนด์ Nike นั่นเอง เพราะแบรนด์นี้เขาการันตีคุณภาพและการดีไซน์อยู่แล้ว โดยในรุ่นนี้มาพร้อมกับสีสันสุดแสบสันกับสีเขียวนีออน พร้อมประด้วยโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากภายนอกที่ดูสวยงามแล้ว รองเท้าคู่นี้ยังอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนี้
- มีแผ่นโฟมรองเท้า Nike ZoomX และ Zoom Air ที่ช่วยลดแรงกระแทและช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ราวกับมีสปริงอยู่ที่ข้อเท้าคุณ
- ตรงส้นรองเท้า (Heels) ติดตั้ง เทคโนโลยี Nike React ที่ส้นมีน้ำหนักเบาและทนทาน ช่วยรองรับแรงกระแทกและความมั่นคงในทุกย่างก้าว
- พื้นรองเท้ามีความสามารถยึดเกาะได้หลายพื้นผิว
รับรองได้เลยว่าหากได้ลองสวมใส่ไปวิ่งสักครั้ง สาวๆ หลายคนคงชอบกันแน่ๆ ทั้งใส่สบายและดีไซน์สุดปัง!! ที่ใครเห็นเป็นต้องทัก สำหรับราคาเจ้าตัวนี้เหมือนทางช้อป Nike Thailand จะลดราคาอยู่เหลือราวๆ 5,600 บาท หากใครสนใจก็ไปส่องกันได้เลย
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 5 – Saucony Ride 14
ราคา: 4,700 2,350 บาท (ประหยัด 50%)
สำหรับรองเท้าคู่ต่อมานี้เป็นของแบรนด์ Saucony นั่นในรุ่น Ride 14 ที่มาพร้อมกับสีชมพู สีโปรดปรานของคุณผู้หญิงหลายๆ คน พร้อมประด้วยโลโก้ของทางแบรนด์สีฟ้า ที่ตัดกับสีชมพูได้อย่างลงตัว แน่นอนว่านอกจากดีไซน์แล้ว ยังช่วยให้คุณวิ่งได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยมาพร้อมกับ 4 คุณสมบัติหลักๆ ดังนี้
- อัปเปอร์ FORMFIT ผสมผสานตาข่ายที่ได้ออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศด้วยโครงสร้างภายในที่น้ำหนักเบาและบางลง ช่วยให้สวมใส่สบายกว่าเดิม
- ระบบลดแรงกระแทกที่พื้นรองเท้าชั้นกลาง PWRRUN มอบความนุ่มนวลในระดับที่เหมาะสม
- ได้รับแรงบันดาลใจจากการทดสอบและฟีดแบคจากผู้ใช้พร้อมปรับปรุงใหม่ให้รูปทรงที่เพรียวบาง ปลอดภัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- พื้นรองเท้าชั้นนอก COLDTRAC ให้การยึดเกาะบนพื้นผิวเย็นมากกว่าพื้นยางชั้นนอกของรองเท้ารุ่นก่อนๆ
เป็นอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจมากๆ แถมทาง Central App ยังลดราคาอยู่ด้วยในตอนนี้ สำหรับใครที่อยากได้ก็จัดไปเลยสักคู่ รับรองไม่ผิดหวัง
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 6 – ADIDAS Ultraboost 22 X Marimekko
ราคา: 7,000 บาท
รองเท้ายอดฮิตคู่ต่อมานั่นก็คือ ADIDAS Ultraboost 22 X Marimekko ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ Marimekko และ Adidas เพื่อรังสรรค์รองเท้าสุดลิมิเต็ดนี้ออกมาให้คุณได้ยลโฉมกัน โดยรูปร่างนั้นจะเหมือนกับ ADIDAS Ultraboost 22 ปกติเลย แต่จะมีการใส่ลวดลายดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marimekko เอาไว้ด้านล่าง ซึ่งทำออกมาได้อย่างลงตัวสุดๆ สำหรับคุณสมบัติที่ช่วยคุณในการวิ่งให้มีประสิทธิภาพมี ดังนี้
- อัปเปอร์ทำจากผ้า ADIDAS Primeknit โอบกระชับเท้าได้อย่างพอดีเพื่อยกระดับการเคลื่อนไหวของคุณ
- มีเชือกผูกรองเท้าสำหรับปรับความกระชับ
- ด้านในรองเท้าซับด้วยผ้า
- พื้นรองเท้าชั้นกลางมีเทคโนโลยี BOOST ช่วยรองรับแรงกระแทกและส่งคืนพลังในทุกย่างก้าว
- พื้นรองเท้าชั้นนอก Stretchweb ผลิตจากยาง Continental™
แม้ว่าจะราคาสูงไปสักนิด แต่สิ่งที่ได้มามีทั้งดีไซน์สุดปังและเทคโนโลยีบนรองเท้าก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกัน หากใครอยากได้ก็สามารถสั่งซื้อบน Central App ได้เลย เรามีไว้จำหน่ายให้คุณแล้ว
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 7 – SKECHERS Max Cushioning Premier
ราคา: 3,490 1,745 บาท (ประหยัด 50%)
สำหรับรองเท้าคู่ต่อมานั้นตกเป็นของ SKECHERS ในรุ่น Max Cushioning Premier นั่นเอง ที่มาพรัอมกับสีม่วงอ่อนๆ และโลโก้ของทางแบรนด์นั่นเอง โดยร่วมด้านของดีไซน์จะไม่ค่อยโดดเด่นนัก หากจะซื้อไปใส่แฟชั่น ก็อาจจะต้องใช้สีเชือกให้เด่นขึ้นก็จะทำให้โดดเด่นขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในด้านการใช้งานนั้นก็โดดเด่นไม่แพ้รองเท้าวิ่งคู่อื่นเลย โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติ ดังนี้
- แบบผูกเชือกปรับกระชับได้
- อัปเปอร์ตัดเย็บจากผ้าตาข่ายถักน้ำหนักเบาระบายอากาศได้ดี
- พื้นรองเท้าด้านในทำจากโฟมผสานเทคโนโลยี Air-Cooled Goga Mat® ช่วยซัพพอร์ตและมอบความนุ่มสบายให้กับฝ่าเท้า
- พื้นรองเท้าด้านในทำจากโฟม Ortholite® ช่วยเพิ่มการลดแรงกระแทกในระยะยาวและการระบายอากาศในระดับสูงด้วยเนื้อยางรีไซเคิล 5%
- พื้นรองเท้าชั้นกลางมีเทคโนโลยี ULTRA GO® ช่วยซัพพอร์ตเท้าและดูดซับแรงกระแทก พร้อมมอบความนุ่มเบาสบายตลอดการสวมใส่
- พื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยางทนทาน แต่งแพทเทิร์นช่วยยึดเกาะพื้นผิวได้ดี
- เทคโนโลยี Natural Rocker ช่วยให้การลงเท้าตั้งแต่ส้นเท้าจนถึงปลายเท้ามีความราบรื่นและนุ่มนวล
- บุนุ่มรอบข้อเท้าและลิ้นรองเท้าช่วยเพิ่มความนุ่มสบาย
- มีแถบดึงตรงส้นเท้าช่วยให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติเยอะขนาดนี้ ราคาต้องแรงตามแน่ๆ แต่เปล่าเลย!! เพราะราคาเต็มนั้นอยู่ที่ราวๆ 3,490 บาทเท่านั้นเอง แต่ในตอนนี้ที่ Central Online ให้คุณช้อปถูกลงไปกว่านั้นอีกด้วยราคา 1,745 บาทเท่านั้น หรือลดไปกว่า 50% เลยทีเดียว ต้องรีบจัดกันแล้วล่ะงานนี้
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 8 – REEBOK Energen Lite
ราคา: 2,190 บาท
สำหรับรองเท้าคู่ต่อมานั้นตกเป็นของ REEBOK ในรุ่น Energen Lite ซึ่งเป็นรองเท้าที่มีสีขาวสุดมินิมอล สำหรับใครที่ชอบดีไซน์ประมาณนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลย โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติ ดังนี้
- อัปเปอร์ทำจากผ้าตาข่ายน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี
- พื้นชั้นกลาง FuelFoam ให้การตอบสนองและรับแรงกระแทกได้อย่างสมดุล
- พื้นยางชั้นนอกที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อความทนทานและการยึดเกาะพื้นผิว
- เชือกผูกเพิ่มความกระชับ
ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่จะซื้อไปเน้นใช้งานเพื่อการวิ่ง แต่ก็ต้องระวังเรื่องของความสกปรกด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันว่ารองเท้าสีขาวนั้นค่อนข้างจะดูแลรักษายากประมาณหนึ่งเลย สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 2,190 บาทนั่นเอง
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 9 – On Running Cloudflow
ขอบคุณภาพจาก: On Running
สำหรับรองเท้าคู่ต่อมามาดามชอบมากๆ กับแบรนด์ On Running ที่มาพร้อมกับการไล่ระดับของสีฟ้าออกมาได้อย่างลงตัว และสวยสุดๆ เรียกได้ว่าแม้จะไม่ได้นำไปใส่วิ่ง มองในแง่ของดีไซน์ก็ยังเต็มสิบไม่มีหัก แต่อย่างไรก็ตามด้านการใช้งานเอง ทางแบรนด์ก็อัดมาให้คุณอย่างเต็มที่ โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะของทางแบรนด์ที่เรียกว่า CloudTec® in ultralight Helion™ ที่ช่วยลดแรงกระแทกระหว่างวิ่งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังดีไซน์ให้สวมใส่ได้สบายอีกด้วย ไม่ต้องทนรองเท้ากัดหรืออึดอัดระหว่างที่สวมวิ่ง แม้ว่าจะโดดเด่นแต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย หากใครอยากเป็นเจ้าของต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น โดยเสนอราคาอยู่ที่ราวๆ 4,800 บาท (ไม่รวมส่ง) จากเว็บไซต์ Official ของทางแบรนด์
รองเท้าวิ่งผู้หญิงคู่ที่ 10 – Puma Deviate NITRO
ขอบคุณภาพจาก: Puma
ปิดท้ายกันด้วยรองเท้าวิ่งจากแบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ PUMA ที่มาในรุ่นที่มีชื่อว่า Deviate NITRO แน่นอนว่ามาพร้อมกับโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์อีกเช่นเดิม พร้อมกับสีเขียวนีออนสะท้อนแสงสุดโดดเด่น รับรองเลยว่าหลายคนที่ได้เห็นจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อการออกวิ่งของคุณโดยเฉพาะ ดังนี้
- เทคโนโลยี NITRO FOAM ขั้นสูงให้การตอบสนองและการกันกระแทกที่เหนือกว่า และยังน้ำหนักเบาอีกด้วย
- ใช้แผ่นใยคาร์บอน INNOPLATE เพื่อการถ่ายเทน้ำหนักที่ดีขึ้นระหว่างที่คุณออกวิ่ง
- PUMAGRIP พื้นรองเท้าที่ช่วยในเรื่องการยึดเกาะในทุกพื้นผิว ไม่ลื่นสะดุดได้ง่ายๆ
- มีจุดสะท้อนแสงที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับการวิ่งในสภาพแสงน้อย เพื่อความปลอดภัยระหว่างวิ่ง
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามานี้ คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รองเท้าคู่นี้จะเป็นคู่โปรดของหลายๆ คนเลย สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของอาจจะต้องสั่งจากช้อปของ PUMA โดยตรง ซึ่งเสนอราคาอยู่ที่ 160 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5,900 บาท ซึ่งเป็นราคากำลังดี มีความคุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับ
นอกจากคุณภาพของรองเท้าที่เราต้องให้ความสำคัญแล้ว คุณยังจะต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้าของคุณอีกด้วย หากใครอยากทราบในเรื่องนี้ สามารถกดที่ลิงก์ด้านล่างนี้เพื่อไปดูกันได้เลย มาดามมีเขียนแบบละเอียดไว้ให้คุณแล้ว
>คลิ้กเพื่อไปดูวิธีการเลือกรองเท้าวิ่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด<
และนี่ก็คือทั้งหมดที่มาดามนำมาฝากคุณในครั้งนี้ หวังว่าคงพอจะได้ไอเดียในการเลือกช้อปรองเท้าวิ่งคู่ใหม่กันแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่ถูกใจสามารถกดกลับไปที่ Central Online เพื่อกลับไปช้อปรองเท้าวิ่งคู่อื่นของทางเรากันได้เลย!! แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยม ที่มีให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย รับประกันของแท้ เกรดพรีเมี่ยม