10-technique-to-picture-in-night

10 เทคนิคถ่ายภาพตอนกลางคืนที่มือใหม่ต้องรู้!

“การถ่ายภาพ” เป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่หลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากจะเป็นการเก็บความทรงจำไว้บนผืนกระดาษ [ปัจจุบันเป็นดิจิตอล] ยังเป็นการสรรค์สร้างผลงานศิลปะจารึกไว้บนโลกอีกด้วยนั่นเอง เพราะภาพถ่ายแต่ละรูปมีสเน่ห์ในตัวของมันเอง ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจและเจตนารมณ์ของคนถ่าย ทำให้เราดูกี่ภาพก็ได้มาซึ่ง อารมณ์ ความรู้สึก ที่แตกต่างกันออกไปทุกครั้ง

เอาจริงๆ ตัวมาดามเองก็ไม่ค่อยคุ้นกับการถ่ายภาพสักเท่าไหร่ [เว้นแต่การเซลฟี่ตามคาเฟ่ต่างๆ] แต่ที่อยากนำประเด็นเรื่องการถ่ายภาพมาเล่าให้ฟัง นั่นก็เพราะว่าวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะตรงกับ “วันถ่ายภาพโลก (World Photo Day)” ซึ่งเป็นวันรำลึกถึงเมื่อ 185 ปีก่อนที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้ซื้อสิทธิบัตรการถ่ายภาพและยกให้เป็นสาธารณะสมบัติเพื่อเป็นของขวัญแก่ประชากรโลก นับแต่นั้นมา การถ่ายถือว่าเป็นงานอดิเรก [หรือบางคนทำเป็นอาชีพ] ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกค่ะ

ดังนั้น เพื่อเฉลิมฉลองวันถ่ายภาพโลกสุดสำคัญนี้ มาดามจึงอยากหยิบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของการถ่ายภาพมาฝากกัน โดยจะเป็น 10 เทคนิคถ่ายภาพตอนกลางคืนสำหรับมือใหม่ [รวมถึงตัวมาดามเอง] สาเหตุที่เลือกมานั่นก็เพราะว่า ในเวลากลางวันเรายังจับพลัดจับผลู ถ่ายรูปได้ปกติ ไม่ต้องใช้เทคนิคมากนัก ต่างกับตอนกลางคืนที่ต้องใช้เทคนิคมากขึ้นนั่นเอง เรามาดูกันเลยค่ะว่าจะมีเทคนิคไหนบ้าง

“ภาษากล้อง” ที่มือใหม่หัดถ่ายภาพต้องรู้

เอาล่ะ! ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลัก สิ่งที่มือใหม่อย่างพวกเราต้องทำคือจูนภาษาให้เข้าที่ก่อน โดยมาดามจะขอเรียกมันว่าภาษากล้องค่ะ โดยจะเป็นเหล่าคำศัพท์ต่างๆ ที่ช่างภาพเขาใช้กัน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้อ่านบทความนี้เข้าใจมากขึ้นค่ะ แต่ถ้าใครพอมีพื้นฐานอยู่แล้ว สามารถกด ข้าม ไปเข้าเนื้อหาหลักกันได้เลย

  1. ISO

iso pic

ISO คือ ค่าความไวแสงของเซนเซอร์กล้อง จะอธิบายง่ายๆ แบบนี้ค่ะ รับรองจำได้แน่นอน

  • ค่า ISO ต่ำ (เช่น 100) หมายถึงความไวแสงต่ำ เหมาะกับการถ่ายในที่แสงสว่างมาก
  • ค่า ISO สูง (เช่น 1,600) หมายถึงความไวแสงสูง เหมาะกับการถ่ายในที่แสงสว่างน้อย

อย่างไรก็ตามการใช้ ISO สูงอาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนหรือเม็ดเกรนในภาพได้

  1. รูรับแสง [Aperture]

Aperture

Aperture คือ ขนาดของช่องที่เปิดให้แสงผ่านเข้าเลนส์กล้อง จะได้การวัดค่าเป็น f-stop (เช่น f/2.8, f/5.6) โดยจะขออธิบายง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

  • ค่า f-stop ต่ำหมายถึงรูรับแสงกว้าง แสงเข้าได้มาก และทำให้ระยะชัดลึกตื้น
  • ส่วนค่า f-stop สูงหมายถึงรูรับแสงแคบ แสงเข้าได้น้อย และทำให้ระยะชัดลึกมากขึ้น

การทำหน้าชัดหลังเบลอก็คือการใช้ฟังก์ชั่นนี้นั่นเอง

  1. ชัตเตอร์สปีด [Shutter Speed]

shutter speed

ชัตเตอร์สปีดคือการควบคุมระยะเวลาที่เซ็นเซอร์กล้องรับแสง ซึ่งวัดเป็นวินาที [เช่น 1/1000, 1/30] โดยนิยามง่ายๆ ดังนี้

  • ความเร็วสูง ช่วยจับภาพที่เคลื่อนไหวได้ชัดเจน
  • ความเร็วต่ำ ใช้สร้างเอฟเฟกต์ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวได้
  1. สมดุลสีขาว [White Balance]

สมดุลสีขาว คือ การปรับภาพให้ดูเป็นธรรมชาติโดยการแก้ไขอุณหภูมิสีของแหล่งแสงให้เป็นสีขาว แทนที่จะใช้ต้นฉบับเป็นสีฟ้า หรือสีเหลือง ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณว่าอยากให้ภาพมีอารมณ์ ความรู้สึกแบบไหน

  1. การเปิดรับแสง [Exposure]

การเปิดรับแสง เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้กำหนดปริมาณแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์กล้อง ซึ่งเป็นการผสาน ระหว่างรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และ ISO การตั้งค่าสิ่งนี้ให้ดี จะช่วยให้ภาพไม่สว่างเกินไป [Overexposed] หรือมืดเกินไป [Underexposed]

  1. ความยาวโฟกัส [Focal Length]

ความยาวโฟกัส คือ ระยะห่างระหว่างเลนส์กล้องและเซ็นเซอร์ โดยมักจะวัดเป็นมิลลิเมตร [เช่น 24mm, 50mm] โดยจะเป็นตัวแปรหลักในการกำหนดมุมมองและการขยายของภาพ โดยมีนิยาม ดังนี้

  • ความยาวโฟกัสสั้น จะได้ภาพมุมกว้าง
  • ความยาวโฟกัสยาว จะซูมเข้าหาวัตถุที่อยู่ใกล้
  1. ระยะชัดลึก [Depth of Field]

ระยะชัดลึก คือ พื้นที่ที่ภาพดูชัดเจนนั่นเอง หรือถ้าจะให้เห็นภาพก็คือ

  • ระยะชัดลึกตื้น คือ มีเพียงบางส่วนของภาพที่ชัดเจน
  • ระยะชัดลึกมาก คือ ภาพส่วนใหญ่ดูชัดเจน
  1. ฮิสโตแกรม [Histrogram]

เป็นกราฟที่แสดงค่าความสว่างในภาพ โดยแสดงการกระจายของแสงและความมืด ช่วยให้คุณประเมินการเปิดรับแสงได้ [แบบมี Logic] ว่าภาพนั้นมืดเกินไป สว่างเกินไป หรือสมดุลพอดี

  1. โฟกัสอัตโนมัติ [Auto Focus]

เป็นฟังก์ชันของกล้องที่ปรับเลนส์ให้อยู่ในโฟกัสโดยอัตโนมัติ โหมดโฟกัสอัตโนมัติมีหลายแบบ เช่น Single-shot AF สำหรับวัตถุที่อยู่กับที่ และ Continuous AF สำหรับวัตถุที่เคลื่อนไหว

10 เทคนิคถ่ายภาพตอนกลางคืน

มาเข้าสู่เนื้อหาหลักของวันนี้กัน มาดูกันค่ะว่า การถ่ายตอนกลางคืนออกมาให้สวย ดูดี มีระดับ มีเทคนิคไหนที่ใช้ได้บ้าง มาดูกันเลยค่ะ

เทคนิคที่ 1 – ปรับความไวชัตเตอร์ให้ต่ำ เพื่อรับแสงเข้ากล้อง

low-speed-shutter

สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายนั่นก็คือการปรับความไวชัตเตอร์ให้ต่ำกว่าปกติ เพื่อรับแสงเข้ากล้องให้มากขึ้น โดยอาจจะใช้ความเร็วชัตเตอร์เริ่มต้นที่ 1/60 หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ให้ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง จะเป็นตัวช่วยทำให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น ซึ่งใช้ประมาณ F/1.8 ก็เพียงพอต่อความต้องการ

เทคนิคที่ 2 – ใช้ขาตั้งกล้อง ลดความสั่นของภาพ

camera stand in night

เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ช่างภาพหลายคนแนะนำเลยค่ะ เพราะจะช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมาสวยขึ้น คมชัด แถมยังไม่ต้องถือให้เมื่อยอีกด้วย เนื่องจากการตั้งสปีดชัตเตอร์ให้ต่ำ มีโอกาสที่ภาพจะเบลอสูงมากหากเกิดการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย อีกทั้งวิธีนี้ยังทำให้คุณแทบจะไม่ต้องปรับ ISO เลย ก็ได้ภาพสวยๆ แล้ว

เทคนิคที่ 3 – ปิดกันสั่นกล้องและเลนส์ ขณะอยู่บนขาตั้งกล้อง

Image Stabilization Close

หลายคนคงงงว่าทำไมจะต้องปิดกันสั่นด้วย เพราะขาตั้งกล้อง + กันสั่น น่าจะทำให้ภาพนิ่ง สวยกว่าเดิม แต่ไม่ค่ะ คุณเข้าใจผิดแล้ว นั่นก็เป็นเพราะว่าในเลนส์ที่มกันสั่น จะมีชุดเลนส์ที่ขยับไปมา เพื่อชดเชยการสั่นไหวขณะเปิดใช้งาน นั่นก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวตลอดนั่นเอง แม้ว่าจะอยู่นิ่งๆ ก็ตาม ทำให้ภาพออกมาไม่คมชัด ยิ่งตั้งสปีดชัตเตอร์ไว้ต่ำด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

เทคนิคที่ 4 – ใช้ Remote หรือ Timer ในการถ่ายภาพ

camera-remote-scaled

อย่างที่มาดามบอกไปค่ะว่ากุญแจสำคัญของการถ่ายภาพในตอนกลางคืนคือมือเราต้องนิ่งมากๆ แม้ว่าจะอยู่บนขาตั้งกล้องแล้วตอนเรากดชัตเตอร์ไป มือของเราอาจจะทำให้กล้องสั่นได้ ดังนั้น ก็ใช้อุปกรณ์ช่วยอย่าง Remote หรือตั้ง Timer ในการถ่ายภาพ ไปเลยก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ

เทคนิคที่ 5 – ปิดโหมด Auto Focus

auto focus camera

Auto Focus เป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้เราเกิดความสะดวกสบายในการถ่ายภาพก็จริง แต่ปัญหาของการถ่ายในที่แสงน้อย หรือที่มืด คือ โฟกัสจะไม่ทำงานนั่นเอง ทำให้ภาพมองเห็นไม่ชัดเจน ดังนั้น ต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบ Manual หรือหมุนเลนส์ด้วยตัวเองจะดีที่สุดค่ะ

เทคนิคที่ 6 – ปรับรูรับแสงให้ต่ำเข้าไว้

Aperture 3

อย่างที่ทราบกันดีว่ารูรับแสงมีผลต่อการถ่ายภาพในตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ต้องปรับรูรับแสงให้ต่ำเข้าไว้ ก็จะช่วยให้มีแสงเพียงพอต่อการถ่ายรูป ซึ่งจะคล้ายคลึงกับการทำงานของ Speed Shutter นั่นเอง โดย F-Stop ที่แนะนำอยู่ระหว่าง f/1.4 ถึง f/2.8 ลองปรับจูนเรื่อยๆ จนเจอค่าที่สวยที่สุดค่ะ

เทคนิคที่ 7 – เล่นกับแสงเงาโดยรอบให้มากที่สุด

night light

ถ้าหากใครมีเพื่อนหรือตัวแบบไปด้วย ให้พยายามหาแหล่งกำเนิดแสงเข้าไว้ก่อน โดยให้พวกเขาเข้าใกล้กับแหล่งกำเนิดแสงให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น แสงไฟจากถนน จากร้านค้า แล้วจัดแต่งมุมให้เล่นกับแสงและเงาที่ตกกระทบ จะทำภาพสวยขึ้นแบบ 200% 

เทคนิคที่ 8 – ถ่ายช่วง Blue Hour

blue hour

ช่วง Blue Hour เป็นช่วงเวลาที่พบได้ตอนหลังพระอาทิตย์ตก และช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ซึ่งจะเป็นช่วงที่ท้องฟ้า มีความสวยงาม นุ่มนวลเป็นพิเศษ หลังจากผนวกเข้ากับเทคนิคข้างต้น จะช่วยให้ได้ภาพถ่ายตอนกลางคืนที่ได้ฟีลลิ่งมากขึ้น

เทคนิคที่ 9 – วางแผนให้ดี

plan-to-camera

เมื่อได้ทุกอย่างครบแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนให้ดี โดยก่อนจะเริ่มถ่ายอย่างจริงจัง ควรสำรวจสถานที่ให้เรียบร้อย ว่าในช่วงเวลานั้นๆ มีแสงประมาณไหน ใช้ค่าตั้งค่า ISO หรือสปีดชัตเตอร์แบบไหนจะเหมาะที่สุด เพื่อให้ภาพออกมาสวย และเพิ่มความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ในกรณีที่คุณมีนางแบบมาด้วย

เทคนิคที่ 10 – ถ่ายภาพด้วยไฟล์ Raw

jpeg vs raw

เทคนิคสุดท้าย คือให้คุณถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW ค่ะ ซึ่งเป็นการถ่ายภาพด้วยไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถนำมาตกแต่งสีสันและสามารถแก้ไขรายละเอียดได้มากกว่าไฟล์ JPEG เพราะบางภาพอาจจะได้องค์ประกอบที่ดีแล้ว แต่มีบางส่วนที่ต้องแก้เพิ่ม เช่น White Balance เพื่อทำให้ภาพออกมาสมบูรณ์ที่สุด

บทส่งท้าย

women with camera

นี่ก็คือทั้ง 10 เทคนิคของการถ่ายภาพ ที่มาดามนำมาฝากคุณในครั้งนี้ค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม โดยหลักๆ แล้วจะเห็นได้ว่าการถ่ายภาพตอนกลางคืนจะเน้นในเรื่องของการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม รวมไปถึงความฉลาดเลือกในการเล่นแสงเงาของเรานั่นเอง ดังนั้น การฝึกฝน ทดลองถ่ายภาพตอนกลางคืนหลายๆ มุม คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราถ่ายภาพได้สวยขึ้นนั่นเอง

ช้อปกล้องถ่ายรูปจาก Central Online

camera shop

Inspirer_Button_3_aug_shop_now_design2 (1)

สำหรับใครที่กำลังมองหากล้องถ่ายรูปดีๆ ที่ Central Online เราก็มีให้คุณได้คัดสรรเช่นกัน เพียงคลื้กที่ปุ่ม Shop Now ข้างต้นแล้วไปเลือกกันได้เลย


ขอบคุณภาพจาก: Nexus Marketting / Photograhy Life / Digital Camera World / canon / earth sky /ijyoyo