การทำขนมด้วยตัวเองกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะทุกวันนี้การเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ต่างๆ ส่งผลให้การเรียนรู้ที่จะทำขนมด้วยตัวเอง สามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยเริ่มจากขนมที่มีขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน แต่เมื่อได้ฝึกทำบ่อยๆเชื่อว่าทุกคนก็คงอยากพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้นและทำขนมได้หลากหลาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเตาอบต่างๆเช่น เตาอบเบเกอรี่ เตาอบขนาดเล็ก ซึ่งในฐานะของมือใหม่ควรใช้เวลาศึกษาและตัดสินใจให้ดี หรือจะทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ก็น่าจะพอเป็นประโยชน์บ้าง
10 ข้อที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเตาอบเบเกอรี่
- เตาอบเบเกอรี่มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน ฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจารณาความเหมาะสมต่างๆ ดังนี้
- ขนาดของเตาอบเบเกอรี่ เนื่องจากมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการทำในปริมาณมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่ได้เปิดร้านเพื่อทำขายเป็นจำนวนมากต่อวัน ใช้แค่เตาอบขนาดเล็กก็เพียงพอ
- พิจารณาโครงสร้างความแข็งแรงทนทานของเตาอบเบเกอรี่ ว่าผลิตจากวัสดุอะไร มีคุณภาพแค่ไหนและเสี่ยงต่อการเป็นสนิมหรือไม่ จะได้ไม่รู้สึกเสียดายเงินเมื่อซื้อมาแล้ว
- การควบคุมอุณหภูมิ สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีตัวควบคุมอุณหภูมิความร้อน (เทอร์โมสตาร์ท) เพราะเวลา เปิด/ปิด ประตูเตาอบเบเกอรี่ ทุกครั้ง จะเป็นการส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิภายใน ซึ่งเตาอบที่มีเทอร์โมสตาร์ทในตัว ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น บางคนอาจจะใช้วิธีซื้อต่างหากทีหลัง แล้วนำมาแขวนด้านในเตาอบ
- มีระบบการป้องกันอันตรายอย่างสมบูรณ์
- มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้และราคาก็ต้องเหมาะสมกับคุณภาพด้วย
- มีใบรับประกันคุณภาพสินค้าจากร้านค้า
- มีศูนย์บริการหรือตัวแทนจำหน่ายเพื่อที่ว่าเราจะได้รับความสะดวกในบริการหลังการขาย
- มีวิธีการใช้งานง่าย ที่ไม่ต้องมีกรรมวิธีที่ยุ่งยากอะไรมากมาย เช่น เลือกเปิดไฟบนอย่างเดียว ไฟล่างอย่างเดียว เปิดไฟบนกับไฟล่างพร้อมกันได้ ตั้งเวลาได้ เป็นต้น
- มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น อบเบเกอรี่ อบปลา อบพิซซ่า เป็นต้น
- เลือกซื้อเตาอบเบเกอรี่ที่กินไฟน้อย
5 สิ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับเตาอบขนาดเล็ก
ในหัวข้อนี้เราจะมาบอกคุณสมบัติของเตาอบขนาดเล็กมาให้อ่านกัน ซึ่งต้องบอกว่าเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าครัวเป็นอย่างมาก เพราะอะไรตามไปอ่านกัน
1. เตาอบขนาดเล็กเป็นเตาอบระบบไฟฟ้าและมีพื้นที่ในเตาค่อนข้างจำกัด เหมาะกับการทำขนมง่าย ๆ บางอย่างเช่น คุ้กกี้ ขนมปัง บราวนี่ เค้กกล้วยหอม แต่ถ้าต้องการทำขนมเค้กใหญ่แบบปอนด์ด้วย แนะนำให้ใช้เตาอบเค้กโดยเฉพาะไปเลยจะดีกว่า
2. มีราคาไม่สูงมากนักโดยเริ่มต้นแค่หลักพันเท่านั้นและมีให้เลือกซื้อหลายยี่ห้อ มีความจุตั้งแต่ประมาณ 9 ลิตรไปจนถึง 60 ลิตร และมีฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถทำความเข้าใจจากคู่มือได้ด้วยตัวเอง
3. เตาอบขนาดเล็ก มีข้อดีอีกอย่างก็คือระบบทำความสะอาดตัวเอง ด้วยสารที่เคลือบอยู่ภายในเตา เมื่อเกิดความร้อน จะเกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ ซึ่งจะช่วยขจัดคราบออกไปได้เองแบบอัตโนมัติ
4. นอกจากใช้อบขนม เราก็ยังสามารถใช้ทำอาหารอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ไก่อบ หมูอบ หรือแม้แต่ ไก่ย่างซึ่งบางรุ่นสามารถใช้แกนย่างทั้งตัวได้เลยแถมยังใช้อุ่นอาหารได้เหมือนไมโครเวฟด้วย
5. ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มหัดทำขนมและอาหาร ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ควรจะมีอยู่ในครัวไม่ว่าจะเป็นครัวในบ้าน คอนโด หรือหอพัก
สุดท้ายถ้าเปรียบเทียบกันระหว่าง เตาอบเบเกอรี่กับเตาอบขนาดเล็ก แนะนำคนที่เป็นมือใหม่ว่า น่าจะเริ่มต้นจากเตาเล็กก่อน เนื่องจากมีราคาไม่แพงมาก ขนาดก็กะทัดรัดไม่เปลืองพื้นที่ในครัว แล้วฝึกทำรวมไปถึงคิดค้นเมนูใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ จนเชี่ยวชาญ สามารถทำอาหารกับขนมได้หลากหลายเมนูมากขึ้น จากนั้นถึงค่อยเปลี่ยนไปใช้เตาใหญ่ อาจจะเรียกว่าเป็นการเพิ่มระดับขีดความสามารถที่มีอยู่ให้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจจะพัฒนาจากการทำด้วยความชอบไปสู่การต่อยอดทางธุรกิจด้วยการมีร้านขนมเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความฝันของใครหลายๆ คนๆ ส่วนใครที่กำลังสนใจหรืออยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อเตาอบเพื่อหัดทำขนมหรืออาหารต่างๆ แล้วล่ะก็ อย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ที่เราแนะนำเอาไปใช้ดู
CR: pinterest.com by homebunch / jennyla / forbesmagazine