ตู้เย็น ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญที่ต้องมีติดบ้าน เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในหลายๆ อย่าง ยิ่งในบ้านเราที่อากาศค่อนข้างร้อน ตู้เย็น ยิ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการ แช่น้ำเย็น แช่ของสด ผัก ผลไม้ จนไปถึงขนมและอาหารอีกหลายๆ ชนิด ก็จำเป็นต้องพึ่งพาตู้เย็นแทบทั้งนั้น ฉะนั้นการเลือกซื้อตู้เย็นสักตู้หนึ่ง ก็ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันแบรนด์เครื่องไฟฟ้าชั้นนำ ต่างก็ผลิตตู้เย็นหลายขนาด หลากดีไซน์ ออกมาให้ได้เลือกซื้อกัน โดยการจะเลือกซื้อตู้เย็นเราควรศึกษาข้อมูลสินค้าอะไรบ้างมาติดตามกัน
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อตู้เย็น
ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับ การเลือกซื้อตู้เย็น เริ่มจากการสังเกตชื่อผู้ผลิต และเครื่องหมายการค้าที่มีมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการไฟรั่วไฟดูดเมื่อนำมาใช้งาน เพราะตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา
ต่อมาคือดูพื้นที่การวางตู้เย็นว่ามีเหลือเฟือแค่ไหน ถ้าข้าวของเยอะแล้วมีพื้นที่กว้างขวาง อาจจะเลือกใช้ ตู้เย็น 4 ประตู แต่หากมีพื้นที่พอประมาณก็เลือกใช้ ตู้เย็น 2 ประตู
ส่วนเรื่องข้าวของก็ต้องมาดูว่า ต้องการพื้นที่ความจุภายในเยอะแค่ไหน ขนาดที่แนะนำคือประมาณ 15-20 คิว เพราะสามารถจุข้าวของได้เยอะ ไม่ต้องจัดสรรพื้นที่บ่อยๆ แต่ให้แช่ของจำนวนมากก็ดูไม่แน่นตู้เย็นจนเกินไป
[yith_wc_productslider id=52318]นอกจากนี้ตู้เย็นทุกตู้จะต้องมีคู่มือแนะนำวิธีการใช้และการบำรุงรักษา อย่างน้อยจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อแนะนำต่างๆ วิธีติดตั้งและวิธีใช้ การใช้อุปกรณ์ควบคุมต่างๆ การบำรุงรักษา รวมไปถึงการทำความสะอาด
การเลือกซื้อตู้เย็นนอกจากจะดูรายละเอียดข้างต้นแล้ว เราควรจะสังเกตเพิ่มเติมในส่วนของฉลากประหยัดไฟ เพราะปัจจุบันได้มีการติดฉลากที่ตู้ เพื่อแสดงว่าตู้เย็นใช้พลังงานไฟฟ้าเท่าใด มีค่าไฟต่อปี ต่อเดือนและเฉลี่ยเป็นรายวันกี่บาท แสดงให้ทราบว่าประสิทธิภาพของตู้เย็นอยู่ในระดับใด
เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภคพิจารณาเลือกซื้อตู้เย็นที่มีคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น สำหรับประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าจะแบ่งตัวเลขเป็น 5 ระดับ คือ
- ระดับที่ 1 เป็นระดับที่มีคุณภาพต่ำ
- ระดับที่ 2 เป็นระดับที่มีคุณภาพพอใช้
- ระดับที่ 3 เป็นระดับที่มีคุณภาพปานกลาง
- ระดับที 4 เป็นระดับที่มีคุณภาพดี
- ระดับที่ 5 เป็นระดับที่มีคุณภาพดีมาก
ตู้เย็นรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2017
HITACHI
หนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพ ที่มีตู้เย็นตั้งแต่ดีไซน์เรียบๆ ไปจนบางรุ่นที่มีการนำโทนสีเจ็บๆ เข้ามาใช้ อย่าง ตู้เย็น HITACHI ประตูเดียว รุ่น R64VG4 RXB ที่แม้จะขนาดกะทัดรัดเพียงแค่ 6.6 คิว แต่ก็ผสานไปด้วยวัสดุและเทคโนโลยีคุณภาพ รวมถึง ตู้เย็นราคากลางๆ อย่าง HITACHI รุ่น R-H200PA ที่มีขนาด 7.1 คิว มาพร้อมนวัตกรรม Inverter และเซ็นเซอร์เตือนเมื่อเปิดตู้เย็นเกินเวลาที่กำหนด
TOSHIBA
นวัตกรรมชวนสะดุดตา ที่มาพร้อมดีไซน์กระปุ๊กลุกของ ตู้เย็น Toshiba Curve Live แบบประตูเดียว อีกทั้งโตชิบายังคงออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าล้ำๆ ให้ยิ่งดูน่าสนอกสนใจเข้าไปอีก ด้วยการหยิบเฉดสไตล์ Gradient มาใช้กับ ตู้เย็น Toshiba รุ่น GR-WG73KDAZ สีโทนน้ำเงินแบบไล่เฉด ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดทันสมัยแผงควบคุม LED Touch Panel ขจัดกลิ่นด้วยระบบ LED Hybrid เก็บข้าวของได้อเนกประสงค์ ด้วยขนาดความจุที่มากถึง 21.8 คิว
SHARP
แบรนด์ตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ผสานความพิถีพิถันเข้ากันกับเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ทำให้ตู้เย็นชาร์ป ช่วยตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนสมัยใหม่ ผ่านเทคโนโลยี J-Tech Inverter สามารถประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 36% พร้อมพลาสม่าคัตเตอร์ช่วยจัดแบคทีเรีย สลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำความเย็นได้อย่างทั่วถึงผ่าน Hybrid Cooling System ช่วยคงความสด และรักษาความชุ่มชื้นของอาหารไว้ได้นานมากกว่า
MITSUBISHI
หากกำลังมองหาตู้เย็นที่สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ตู้เย็นมิตซูบิชิ ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากดีไซน์ที่มีให้เลือกหลากหลายแล้ว เทคโนโลยีของแบรนด์นี้ถือว่าไม่ธรรมดา อาทิ เทคโนโลยี Neuro Inverter ที่มีชิปอัจฉริยะคอยควบคุมการทำงาน เรียนรู้ และจดจำ พฤติกรรมผู้ใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งอยู่ใน ตู้เย็น MITSUBISHI รุ่น MR-F45EK SLW
SAMSUNG
สำหรับคนที่ชื่นชอบสีสันและดีไซน์ความเป็นโมเดิร์น ขอแนะนำ ตู้เย็น Samsung รุ่น RT62K7350BS/ST มาพร้อมการออกแบบที่ชวนสัมผัส ให้อารมณ์แบบเรียบหรู เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับการทำงานของตู้เย็นโดยเฉพาะ พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือด้วยขนาด 20.1 คิว หากใครมองหาตู้เย็นที่จขนาดย่อมลงมาหน่อย ตู้เย็นซัมซุง รุ่น RT35K5034UT/ST ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นแนะนำ
การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม จะต้องมีการพิจารณาศึกษาข้อมูลให้ดีพอสมควรเพื่อที่จะได้เลือกซื้อของที่ดีมีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งานของเรา การเลือกซื้อตู้เย็นก็เช่นกันควรดูว่าส่วนใหญ่เรามักจะแช่อะไร ถ้าเน้นแช่พวกเนื้อสัตว์หรือของที่ต้องแช่ในช่องแช่แข็งเป็นจำนวนมากก็ควรจะซื้อตู้เย็นที่เป็น 2 ประตูเพราะจะได้มีพื้นที่ในส่วนของช่องแช่แข็งมากและแยกจากช่องแช่เย็นไปเลย ในวันนี้เราได้นำตู้เย็นยี่ห้อและรุ่นยอดฮิตมาให้พิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อกัน ลองตัดสินใจกันดูว่าตู้เย็นแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ